#วันพฤหัสสีเขียว 7
“พี่หิวหรือยัง”
“ยังพี่ง่วงมากกว่า” ฉันตอบเธิร์สเดย์ที่ตอนนี้กลายเป็นคนขับรถให้ฉันไปแล้วอย่างสมบูรณ์ น้องดูอารมณ์ดีมากเลยนะคิดไม่ออกเหมือนกันถ้าหากน้องโมโหจะน่ากลัวมากขนาดไหน
“แล้วที่บ้านมีกับข้าวไหม?” น้องยังคงถามต่อ แต่ฉันปรับเบาะลงเล็กน้อยพร้อมจะนอนแล้วล่ะ อยากขับนักก็ขับไปเลยจ๊ะเดี๋ยวพี่นอนเอง
“มี แม่บ้านทำไว้ให้แล้ว”
“แบบนั้นก็ดีครับ พรุ่งนี้ผมจะมารับนะไปพร้อมกัน”
“อือ” ฉันครางรับก่อนจะหลับตาลง ไม่ไหวฉันเหนื่อยฉันอยากจะนอนพักยาว ๆ เลย ฉันหลับไปเกือบหนึ่งชั่วโมงรู้สึกตัวตื่นก็ถึงบ้านแล้ว เธิร์สเดย์ปลุกและเดินเข้ามาส่งถึงในบ้าน น้องรอกระทั่งแม่บ้านเดินออกจากห้องครัวมาอยู่เป็นเพื่อนถึงได้ขอตัวกลับและย้ำว่าพรุ่งนี้จะเข้ามารับตอนเช้า จากนั้นน้องก็กลับไป
“คุณกรีนขึ้นบนบ้านก่อนไหมคะ นอนแบบนี้เดี๋ยวเมื่อยนะคะ” เสียงป้าแม่บ้านดังขึ้น ฉันขยับลุกนั่งอย่างมึน ๆ ง่วงก็ง่วง หิวก็หิว ฉันควรจะเลือกอะไรดีนะในเวลาแบบนี้
“ทานมื้อเย็นก่อนไหมคะ จะได้ไปนอนพักทีเดียวเลย” ป้าแม่บ้านช่วยเสนอแนวทางอีกครั้ง ฉันพยักหน้าแล้วเดินตามท่านเข้าไปในห้องทานข้าว เมนูง่าย ๆ สองสามอย่างจัดเรียงอยู่บนโต๊ะ
“ป้าคะ ทานด้วยกันนะ”
“ได้ค่ะ เดี๋ยวป้าตักข้าวให้นะ”
“ขอบคุณค่ะป้า” ระหว่างที่เราทานข้าว ป้าก็ชวนคุยเรื่อยเปื่อย กระทั่งทานเสร็จฉันถึงได้ขอตัวจากป้าและฝากป้าล็อกบ้านให้ ฉันง่วงจนแทบทนไม่ไหวแล้วอีกอย่างพรุ่งนี้มีงานเช้าด้วยรีบนอนพักคงจะดีกว่าขนาดนัดพี่เกรฟฉันยังยกเลิกเลยเพราะอยากกลับมาพัก คิดได้ดังนั้นก็รีบเดินขึ้นไปยังชั้นสองเข้าห้องนอนก็รีบไปอาบน้ำแต่งตัวกระโดดขึ้นเตียงนอน จังหวะที่กำลังจะหลับโทรศัพท์ก็มีสายเรียกเข้าจากเบอร์ที่บันทึกไว้
‘เจ้าเด็กเธิร์สเดย์’
“ว่าไงเจ้าเด็ก”
(พี่ทานข้าวหรือยัง?) เจ้าเด็กเอ่ยถาม
“ทานแล้วล่ะ ถึงบ้านหรือยังฝนตกไหม”
(ถึงคอนโดแล้วครับ ฝนไม่ตก)
“ดีแล้ว รีบอาบน้ำนอนพัก พรุ่งนี้ถ้าจะมารับก็ออกเช้าหน่อยนะพี่มีงานตอนเช้า”
(ได้ครับ เจอกันพรุ่งนี้ครับ)
“โอเค พี่วางแล้วนะจะนอน”
(ฝันดีครับพี่)
แม้จะเผลอใจเต้นแรงตึกตักเพราะคำบอกฝันดีของเจ้าเด็กเธิร์สเดย์ฉันก็รีบบอกตัวเองไม่ให้คิดเกินเลยเอ็นดูน้องเป็นเด็กรุ่นน้องคนหนึ่งเพราะดูท่าแล้วเจ้าเด็กน่าจะมีแฟนอยู่แล้ว อีกอย่าง อย่าเพิ่งมโนไปไกลเลยกรีนแกอายุไม่ใช่น้อย ๆ แล้วนะแฟนเหรอก็ไม่เคยมี คนคุยยิ่งไปกันใหญ่ พอมีเด็กน้อยเข้าหาก็ยากที่จะไม่หวั่นไหว ตลกตัวเองดีเหมือนกันอายุก็ปาไป 26 27 ปีแล้วเพิ่งมีโมเม้นเขิน ฮา ๆ ๆ ขำตัวเองจัง
ช่วงเช้าของวันถัดมาเธิร์สเดย์มารับที่บ้าน เราไปที่สนามด้วยรถของเธิร์สเดย์ บีเอ็มคันหรูค่อย ๆ เคลื่อนไปบนท้องถนนอย่างไม่เร่งรีบ เราออกมาเช้ากันมากจริง ๆ น้องมาถึงบ้านฉันตั้งแต่ยังไม่เจ็ดโมงเลยด้วยซ้ำตอนนี้เราเลยไม่ต้องกังวลว่าจะไปไม่ทัน ภายในรถเปิดเพลงคลอเบา ๆ ทำให้ไม่เงียบจนเกิดไป
“พี่หิวหรือเปล่า”
“ไม่ค่ะ แต่อยากได้กาแฟสักแก้ว”
“ร้านโปรดพี่ยังไม่เปิดเลย เดี๋ยวพี่สาวผมจะมาดู เดี๋ยวให้พี่ซื้อมาให้ด้วย”
“ไม่เป็นไร” อะไรจะเทคแคร์ฉันดีขนาดนั้น เจ้าเด็กนี่นับวันยิ่งทำให้ฉันหวั่นไหว
“เย็นนี้กลับพร้อมกันนะครับ ห้ามกลับก่อนนะ”
“ไม่รู้จะได้กลับหรือเปล่านี่สิ” ฉันตอบไปตามจริง
“ทำไมครับ?” น้องทวนถาม ก่อนจะเลี้ยวเข้าไปในปั๊มน้ำมันก่อนถึงสนาม น้องขับไปจอดที่หน้าร้านสะดวกซื้อที่เปิดยี่สิบสี่ชั่วโมง เมื่อรถหยุดนิ่งน้องยังไม่ลงจากรถแต่หันมารอฟังคำตอบจากฉัน
“คิดว่าลูกค้าอยากได้รูปเลยน่ะสิ ถ้าเป็นแบบนั้นคงต้องอยู่ดึก”
“อ่า ก็ไม่เป็นไรเสร็จตอนไหนค่อยกลับพร้อมกัน เดี๋ยวผมลงไปซื้อกาแฟให้นะ เลือกเพลงฟังรอก่อนนะ”
“ขอบใจ” ฉันบอกน้อง เจ้าเด็กตัวสูงเดินลงจากรถไปแล้วล่ะ ฉันยกมือกุมหน้าอกตัวเองทันทีอย่างลืมตัว หัวใจบ้านี่ก็เอาแต่เต้นแรงตึกตัก นั่งสงบสติอยู่ได้ไม่ทันไรเจ้าเด็กก็ออกมาพร้อมกาแฟและของทานเล่น ขนมถุงใหญ่ถูกส่งมาให้ ทุกอย่างล้วนเป็นขนมที่ฉันชอบทั้งนั้น