ตอนเย็นหลังเลิกงานพรีมแวะซื้ออาหารและเสื้อผ้าผู้ชายก่อนจะกลับห้องพัก เมื่อเปิดประตูเข้ามาก็เห็นเขานั่งอยู่ก่อนที่จะเอ่ยถามอาการของเขา
“คุณเป็นยังไงบ้างคะ”
“ผมดีขึ้นแล้ว ขอบคุณที่ช่วยผมไว้ ผมคินครับ” คินที่มองหน้าคนที่ช่วยเขาไว้ สวย พูดได้คำเดียวว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สวย สวยมากจนเขาตะลึง ในชีวิตเขาเจอและผ่านผู้หญิงมาเยอะแต่เขาไม่เคยเจอใครสวยและถูกใจเขาเท่านี้มาก่อน เธอมีเสน่ห์ที่ดึงดูดเขาจนเขาละสายตาจากเธอไม่ได้เลย เขาคิดว่าเขาเจอคนที่ใช่สำหรับเขาแล้วคนนี้แหละที่จะมาเป็นแม่ของลูกเขา
“พรีมค่ะ คุณไม่เป็นไรก็ดีแล้วค่ะแล้วคุณติดต่อทางบ้านหรือยังค่ะ”
“ยังเลยครับ ตอนนี้ผมไม่มีอะไรติดตัวเลยสักอย่างทั้งโทรศัพท์หรือกระเป๋าเงิน”
“งั้นคุณใช้โทรศัพท์ของฉันก่อนก็ได้นะ” พรีมยิ้มให้พร้อมยื่นโทรศัพท์ของเธอให้กับเขาไปเพื่อให้เขาได้ใช่ติดต่อครอบครัว
“ขอบคุณครับ”
คินรับโทรศัพท์มาจากหญิงสาวก็เดินออกไปด้านนอกเพื่อคุยโทรศัพท์ โดยเขาโทรหาเวสลูกน้องคนสนิทที่เป็นทั้งเลขาและบอดี้การ์ดส่วนตัวของเขา
[ฮัลโหล]
“เวส นี่ฉันเอง”
[นายเป็นยังไงบ้างครับ ผมเป็นห่วงมากเลยนะครับที่ติดต่อนายไม่ได้]
“ใจเย็น ๆ ฉันปลอดภัยดี”
[แล้วตอนนี้อยู่ไหนครับผมจะได้ไปรับ]
“ยังไม่ต้องมาตอนนี้อีกสองวันค่อยมา”
[ทำไมครับ] เวสถามกลับด้วยความสงสัยว่าทำไมเจ้านายเขาไม่ให้ไปรับตอนนี้
“ทำตามที่ฉันสั่งก็พอ แล้วเรื่องที่เกิดขึ้น มีใครรู้ไหม”
[ไม่มีครับผมสั่งปิดเรื่องเรียบร้อยแล้ว แล้วมันเกิดอะไรขึ้นครับ] เวสที่ได้รับข่าวจากลูกน้องที่ภูเก็ตว่าเจอรถของคินประสบอุบัติเหตุอยู่ข้างทาง โดยรอบ ๆ รถมีแต่รอยกระสุนเต็มไปหมด แต่กลับไม่เจอตัวเจ้านายของเขา ทำให้เขารีบออกคำสั่งให้ลูกน้องออกตามหาโดยด่วนและปิดข่าวที่เกิดขึ้นโดยทันที
เนื่องจากเจ้านายเขาเดินทางไปตรวจงานที่ภูเก็ตตามลำพังโดยที่เขาไม่ได้ไปด้วยและไม่ได้บอกใคร เพราะปกติเวลาไปไหนเขาจะตามนายไปด้วยตลอด แต่ครั้งนี้คินสั่งให้เขาอยู่ดูงานที่กรุงเทพฯ แล้วเดินทางไปคนเดียว
“มีคนลอบฆ่าฉัน ฉันอยากให้นายไปสืบมาให้ได้ว่าเป็นฝีมือใคร” เขาจะต้องหาตัวคนทำให้ได้ ใครมันบังอาจคิดที่ฆ่าเขา เขาไม่มีทางปล่อยมันไว้แน่ ๆ เตรียมตัวรอได้เลยเขาเอาคืนมันอย่างสมน้ำสมเนื้อแน่นอน
[ครับ]
“ถ้ามีอะไรเดียวฉันจะเป็นคนติดต่อกลับไปเอง”
[ครับ]
“แค่นี้นะ” เมื่อวางสายจากเวสเสร็จคินก็ทำการลบเบอร์โทรของเวสทิ้งทันที ก่อนเขาจะเดินกลับเข้ามาในห้องพักแล้วยื่นโทรศัพท์คืนพรีม
“ขอบคุณครับ”
“เป็นยังไงบ้าง ติดต่อใครได้บ้างไหมคะ” พรีมเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นเขาเดินเข้ามาในบ้านหลังจากที่หายไปโทรศัพท์ข้างนอก
“ครับ แต่ผมคงต้องรบกวนคุณอีกสักสองสามวัน เพราะคนของผมเขาติดปัญหายังไม่สามารถมารับตอนนี้ได้”
“อ๋อ... ค่ะ” ถึงแม้จะงงกับคำตอบที่ได้รับแต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธเขาได้ในเมื่อช่วยแล้วก็คงต้องช่วยให้ถึงที่สุดแหละพรีมได้แต่คิดในใจ
“ขอบคุณครับ” คินยิ้มให้เธอพร้อมกับวางแผนไว้ในใจ แผนขั้นแรกประสบความสำเร็จไปแล้วเขาได้อยู่ใกล้ชิดเธอและจะทำความรู้จักเธอให้มากกว่านี้เขาจะใช้เวลาที่ได้ให้เกิดประโยชน์ที่สุด
“พรุ่งนี้ฉันหยุด เดี๋ยวจะพาคุณออกไปเลือกซื้อของใช้กับเสื้อผ้านะคะ”
“ครับ”
“วันนี้คุณก็ใส่เสื้อผ้าชุดนี้ไปก่อน” พรีมพูดพร้อมกับยื่นถุงเสื้อผ้าที่เธอซื้อติดมือมาให้เขา
“ขอบคุณครับ”
“ค่ะ งั้นเดียวคุณไปอาบน้ำก่อนเลยจะได้มากินข้าวกินยาแล้วพักผ่อน”
“ครับ” พูดจบคินก็เดินถือถุงเสื้อผ้าเข้าห้องน้ำไปส่วนพรีมก็ถือถุงอาหารที่ซื้อมาที่โต๊ะเพื่อเตรียมจัดใส่จานระหว่างรอคินอาบน้ำ
“มาทานข้าวเถอะค่ะ เดี๋ยวจะได้ทำแผลใหม่” เมื่อเห็นคินเดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพที่ไม่ได้ใส่เสื้อ เพราะผ้าปิดแผลเปียกและมีเลือดซึมออกมาพรีมก็เรียกเขามาทานข้าว
“ครับ” คินเดินมานั่งลงที่โต๊ะลงมือทานอาหาร หลังจบมื้ออาหารคินอาสาเป็นคนเก็บโต๊ะและล้างจานแต่โดนพรีมห้ามเพราะเห็นว่าเขายังไม่หายดี
“คุณไปนั่งรอที่โซฟาก่อนนะคะ เดียวฉันเก็บโต๊ะล้างจานเสร็จแล้วจะตามไปทำแผลให้”
“ครับ” หลังจัดการทุกอย่างเสร็จพรีมก็เดินไปที่โซฟาเพื่อทำแผลให้คินแต่เมื่อแกะผ้าปิดแผลออกก็อดที่จะบ่นไม่ได้เพราะเขาไม่ระมัดระวังปล่อยให้แผลเปียกน้ำ
“ระวังแผลจะอักเสบห้ามให้แผลเปียกน้ำอีกนะคะ”
“ครับ”
“เสร็จแล้วค่ะ งั้นพรีมขอตัวก่อนนะคะ”
“ครับ” คินยิ้มมุมปากนั่งมองพรีมที่กำลังทำแผลให้เขาไปพลางบ่นเขาไปพลางด้วยสายตาเอ็นดู ถือว่าเขายังโชคดีในความโชคร้ายอยู่บ้างที่ได้เจอเธอคนนี้ เขามองเธอเพลินรู้ตัวอีกทีเธอขอตัวเข้าห้องไปแล้วทิ้งเขาไว้ให้นั่งอยู่ที่โซฟาคนเดียว
เช้าวันใหม่พรีมเปิดประตูเดินออกมาจากห้องหลังจัดการตัวเองเรียบร้อยแล้ว มองเห็นคินที่ยังนอนหลับอยู่บนโซฟาที่ดูท่าทางจะนอนไม่ค่อยสบายเท่าไหร่เนื่องด้วยตัวเขาโตกว่าโซฟามากเธออดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปใกล้ยื่นมือออกไปแตะหน้าผากเพื่อวัดไข้
“ไม่มีไข้แล้ว”
“ครับ” เธอต้องสะดุ้งตกใจที่จู่ ๆ คนที่เธอคิดว่าเขาหลับอยู่กลับลืมตาขึ้นมาตอบเธอ
“ตื่นนานหรือยังค่ะ”
“เพิ่งตื่นตอนได้ยินเสียงคุณนี่แหละครับ”
“ค่ะ ที่จริงเรียกฉันว่าพรีมก็ได้ ไม่ต้องเรียกคุณหรอกค่ะ”
“งั้นพรีมก็เรียกผมว่าพี่คิน แทนตัวเองว่าพรีมด้วยนะครับเพราะดูแล้วว่าผมน่าจะอายุมากกว่าพรีม”
“ค่ะ พี่คิน งั้นพี่คินลุกไปอาบน้ำเลยค่ะเดี๋ยวเราจะได้ออกไปซื้อหาของใช้ให้พี่และหาอะไรกินกัน”
“ครับ พี่จะไปเดียวนี้เลย” คินลุกขึ้นรีบเดินเข้าห้องน้ำไปเพื่ออาบน้ำทันทีที่พรีมพูดจบ แต่ยังมิวายได้ยินเสียงของพรีมร้องบอกไล่หลังคนที่เดินเข้าห้องไปด้วยความเป็นห่วง อีกคนรีบตอบรับกลับมาด้วยรอยยิ้ม
“ระวังอย่าให้แผลเปียกอีกนะคะ”
“ครับ”