เก่าๆ คว้าไม้ขีดไฟขึ้นมาจุดเทียนแท่งใหญ่ที่ปักไว้กลางหัวกะโหลกสุดหลอน ร่างท้วมทะมึนหลับตา พนมมือบริกรรมคาถา พึมพำอยู่ชั่วครู่ก็หันกลับมามองเหมยซึ่งนั่งตัวสั่นอยู่ข้างๆ “จำไว้นะ… ว่าในขณะที่เอ็งและข้ากำลังทำพิธี ให้เอ็งนึกถึงแต่ใบหน้าคนที่เอ็งหมายปอง มันจะช่วยให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปโดยง่าย” พ่อหมอกำชับเสียงเข้ม เหมยพยักหน้ารับ แม้จะยังไม่เข้าใจแจ่มแจ้งว่าขั้นตอนนั้นเป็นยังไง? “เอาละ... เอ็งถอดเสื้อผ้าออกให้หมด” “ถอดเสื้อผ้า!...” เหมยอุทานดังลั่น ใบหน้าแดงก่ำระคนหวาดกลัว “ก็เออสิวะ… ถ้าเอ็งกลัวก็กลับไปซะ ประตูไม่ได้ล็อค” เสียงกระด้างเอ่ยขึ้นอย่างขัดเคืองใจ เมื่อเห็นเหมยบ่ายเบี่ยง สีหน้าละล้าละลังชำเลืองมองไปที่ประตูซึ่งไม่ได้ลงกลอนเอาไว้จริงๆ “อย่าชักช้าน่ะ ก่อนที่ข้าจะเปลี่ยนใจเสียก่อน ถอดเสื้อผ้าออกแล้วนอนหงายลงบนผ้า” เหมือนต้องมนต์ เหมยรวบรวมความกล้า หัวใจดวงน้อย