๖.

2207 คำ
"แล้วนี่เอ็งเจ็บตรงไหนหรือไม่" หลังจากเหตุการณ์ในตลาดสงบลงคนงามก็ตรงเข้าไปหาสหายทันที เขาพลิกตัวคนตัวโตไปมาให้แน่ใจ ก่อนจะปล่อยตัวอีกคนไปในที่สุด อันที่จริงคนที่สมควรถูกถามว่าเป็นอะไรไหมควรเป็นคนที่ถูกไกรทองต่อยมากกว่า แต่อย่างไรเสียเจ้าคนตัวโตก็มาช่วยเขาเอาไว้ "ไม่ต้องห่วงข้าหรอกคนงาม ข้าไม่เป็นอันใด แล้วเอ็งล่ะเจ็บตรงไหนหรือไม่" ดวงตาคู่คมมองสำรวจร่างของคนตัวขาวอย่างพินิจ ทั่วกายละเอียดไร้รอยขีดข่วน ช่วงแขนที่เคยมีรอยแดงจากการบีบก็หายไปแล้ว อย่างกับไม่มีอะไรเคยเกิดขึ้น เหมือนกับก่อนหน้านี้ที่คนงามมีแผล มันก็หายไปรวดเร็วเช่นนี้เหมือนกัน "พวกเอ็งสองคนมาด้วยกันรึ ข้าไม่เคยเห็นหน้าค่าตามาก่อน" คนในหมู่บ้านที่เดินไปเดินมาทยอยมามุงดูพวกเขาทั้งสอง จากก่อนหน้าที่คนรอบข้างล้อมเยอะอยู่แล้ว ในตอนนี้ยิ่งเยอะเข้าไปอีก ไกรทองผูกมิตรกับคนอื่นๆโดยการเล่าเรื่องราวคร่าวๆของตัวเองให้พวกเขาฟัง โดยที่เขาเล่าว่าตนนั้นมาจากเมืองนนทบุรี มาที่เมืองพิจิตรเพื่อมาปราบจระเข้ คำตอบนั้นเองก็ทำให้ชาวบ้านหลายๆคนชื่นอกชื่นใจไม่น้อย จากที่ต้อนรับอยู่แล้วก็ยิ่งต้อนรับมากขึ้นไปอีก เนื่องจากเมื่อครู่ไกรทองได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของตัวเองแล้ว ชาวบ้านที่นี่จึงมีหวังบ้างที่จะมีคนสามารถกำจัดจระเข้ที่ออกอาละวาดได้ "เป็นโชคดีของพวกเรายิ่งนักที่ได้มือปราบมีฝีมือมาช่วยเหลือ หน่วยกานเอ็งก็ดี แถมหน้าตาเอ็งก็ดูเป็นคนมีสง่าราศรี ข้าเชื่อว่าฟ้าต้องส่งเอ็งมาช่วยเราเป็นแน่" แม้คำพูดเยินยอนั้นจะดูมากเกินไปเสียหน่อย แต่คนงามข้างกายร่างสูงรู้ดีว่าคำสรรเสริญนี้ไม่ได้มากเกินไปเลย ไกรทองนั้นมากความสามารถจริงๆ อีกทั้งในวรรณคดียังเป็นคนที่จะมาจัดการพวกขระเข้ที่ระรานชาวบ้านให้อย่างที่ว่า "จริงสิพวกเอ็งสองคนรู้จักกันด้วยหรือ" อีกคำถามที่ไม่หลุดรอดพ้นคงเป็นความสัมพันธ์ของทั้งสองคน เพราะเมื่อครู่ไกรทองมาช่วยคนงามเอาไว้ด้วยท่าทีที่เป็นห่วงเป็นใยอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าใครๆก็ดูออกทั้งนั้นว่าทั้งคู่รู้จักกัน "รู้จักสิ สนิทกันชนิดข้ากับเขานอนด้วยกันทุกคืนด้วยซ้ำ" ไกรทองตอบหน้าตาย คนรอบข้างนิ่งค้าง ส่วนคนงามก็ยังคงมีสีหน้าเรียบนิ่งเช่นเคย สำหรับตัวเขาผู้ชายนอนด้วยกันก็ไม่เห็นมีอะไรแปลก นอนก็นอนเฉยๆถ้ามากกกว่านั้นสิว่าไปอย่าง "เอ็งชอบแย่งผ้าห่มข้า" เจ้าของดวงตาสีปีกกาตอบเสียงเรียบ แต่แทนที่เจ้าตัวจะแย้งเรื่องที่คนตัวสูงพูดสองแง่สองง่าม นี่กลับมาบ่นเรื่องแย่งผ้าห่มแทนหรือนี่ "เอ่อ..ขออภัยที่ถามเรื่องส่วนตัวทั้งคู่" ชาวบ้านแต่ละคนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก เอาเป็นว่ารู้กันโดยไม่ต้องพูดแล้วหันไปสนทนาเรื่องอื่นเสียดีกว่า คนตัวขาวหันหน้าไปหาไกรทองพลางเอียงคอเป็นเชิงถาม เพราะเขาได้รับสายตาแปลกๆจากคนอื่นๆมาจึงอยากรู้ว่าตนพูดอะไรผิดไป "ไม่มีอะไรอย่าคิดมาก ข้าว่าเวลานี้เรากลับบ้านกันดีกว่าหนา" ไกรทองว่าพลางโอบเอวบางเข้าหาตัว ทว่าก่อนที่ทั้งสองจะได้ก้าวเท้าออกจากบริเวณ ก็มีใครหลายๆคนทักพวกเขาไว้เสียก่อน "เอ้อ! จริงสิพ่อหนุ่มไกรทอง อีกไม่กี่วันข้างหน้าเมืองเราจะจัดงานเทศกาลกัน มีแข่งมวยด้วยหนา หากเอ็งสนใจลองมาประลองหน่อยดีหรือไม่ ได้เงินเยอะเชียวแหละ" ทีแรกทั้งคู่ก็กะจะเดินตัวปลิวกลับที่พักแต่ยามเมื่อคนงามได้ยินคำว่า'เงินเยอะ'เขาก็รีบกระตุกเสื้อคนข้างกายไว้ก่อนทันที "เอ็งอยากให้ข้าประลองมวยหรือ" "ข้าเชื่อว่าเอ็งเก่ง ต้องชนะเป็นแน่" แม้จะไม่ได้บอกตรงๆว่าอยากให้ร่างสูงแข่ง แต่จากน้ำเสียงและสายตาที่มองมา มันก็ชัดเจนแล้วว่าคนงามอยากเห็นฝีมืออันเก่งกาจของเขา (อันหลังไกรทองเติมเอง) "เช่นนั้น ข้าแข่งด้วย ต้องลงชื่อที่ไหนรึ?" หลายวันต่อมาในช่วงค่ำคือของวันงานเทศกาล เรียกได้ว่าจากที่เดิมทีเมืองนี้มีคนพลุพล่าน ยามนี้เมื่อผู้คนมารวมตัวกันก็ยิ่งเห็นได้ชัดว่าเมืองนี้มีคนอาศัยอยู่มากมายขนาดไหน อาจจะด้วยที่ว่าแถวนี้เป็นเมืองติดริมน้ำ ซึ่งแน่นอนว่าที่ไหนมีน้ำอยู่ที่นั่นย่อมต้องมีสิ่งมีชีวิต นี่เองก็คงจะเป็นเหตุผลที่มีคนอาศัยอยู่ในเมืองนี้จำนวนมาก "ไกรทอง เอ็งเคยประลองมวยมาก่อนหรือไม่" คนงามถามอย่างสงสัยเมื่อเขาทั้งสองมายังสนามประลองที่จัดขึ้นในช่วงกลางคืนแล้ว การแข่งมวยเป็นอีกความบรรเทิงหนึ่งของคนในยุคนี้ หลายๆคนจึงให้ความสนใจการประลองที่จัดขึ้นไม่บ่อยครั้งนี้เป็นอย่างมาก "แน่นอนว่าข้าเคย ตั้งแต่เล็กจนโตข้าก็หมั่นฝึกฝนวิชามวยมาตลอด ลงแข่งก็หลายครา ไม่เช่นนั้นจะล้มคนในหมัดเดียวได้รึ" ไกรทองตอบกลับพลางเดินไปใส่ผ้าพันมือเตรียมขึ้นสังเวียน ทางเจ้าของดวงตางดงามเองก็มองลานประลองมวยอย่างหวาดหวั่น เนื่องจากคู่มวยในสนามแต่ละคนได้รับบาดเจ็บขนาดที่วางบางคนก็เลือดอาบ ตอนนี้เขาจึงกังวลใจไม่น้อยที่จะให้ไกรทองเข้าไปเสี่ยง "ไกรทอง..ข้าว่าเอ็งลองคิดอีกทีก็ได้หนา จะถอนตัวก็ย่อมได้ อย่าฝืนตัวเองเลย" คนงามว่าเสียงอ่อนใบหน้าเนียนนั้นฉายแววห่วงใยอย่างไม่ปิดบัง เพราะงานแข่งนี้ดูท่าทางอันตรายไม่น้อยระหว่างทั้งคู่กำลังพูดกันอยู่นี้เองบนสังเวียนก็ยังมีเสียงคนต่อยกันอยู่เลย ไกรทองมองกลับร่างของคนตัวเล็กกว่าพลางยิ้มบาง เขาลูบหัวคนตรงหน้าอย่างอ่อนโยนเพื่อให้อีกคนมั่นใจว่าตัวเขาจะไม่เป็นอะไร "อย่าห่วงไปเลย ไกรทองของเอ็งเก่งจะตายไป" "เอ็งเก่งข้ายอมรับ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีคนที่เก่งกว่าหนิถูกไหม" "อย่ากังวลไปเลยคนงาม เช่นนั้น ข้าจะทำข้อตกลงกับเอ็ง หากข้าถูกคู่ต่อสู้จัดการจนทนไม่ไหวข้าจะยอมแพ้ลงจากสนามเอง เท่านี้สบายใจขึ้นหรือไม่" ร่างสูงว่าด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนคนที่เหมือนจะถูกหมาตัวใหญ่ๆอ้อนจึงได้พยักหน้าตกลงไปอย่างไม่เต็มใจนัก ก็ในเมื่อมันเป็นเขาเองที่บอกให้ไกรทองลงประลอง จะให้มาเลิกกลางคันแบบนี้ก็คงไม่ได้ ยามจันทราครึ่งเสี้ยวขึ้นสู่ฟากฟ้า เวลาที่ไหลผ่านเรื่อยๆก็วนมาถึง ไกรทองถูกเรียกชื่อให้ประลองเป็นคู่ต่อไป แน่นอนว่าคู่ประลองของเขานั้นตัวพอๆกับไกรทองเลย "เด็กใหม่ท่าทางหน่วยก้านดีว่ะ น่าจะเก่งใช่ย่อย" "แต่ข้าลงเงินข้างไอ้บาตรมัน ปีที่แล้วมันก็ได้ที่2" "ไม่แน่ๆ ปีนี้ข้าว่าไอ่บาตรต้องได้ที่1" เสียงพูดคุยของคนรอบข้างเหมือนกับว่าจะรู้จักคู่ประลองในสนามแต่ละคนดี เว้นก็แต่คนที่มาใหม่อย่างไกรทองที่คนอีกหลายๆคนไม่คุ้นหน้าคุ้นตานั่น คนตัวขาวอยู่ในมุมมืดก็นั่งนิ่งไม่สุงสิงกับใคร เขาคิดกับตัวเองว่าอย่างไรเสียไกรทองก็ต้องไม่เป็นไร เพราะคนตัวโตเองก็เป็นพระเอกซะอย่าง อีกทั้งเจ้าตัวยังไม่ได้ไปจัดการชาละวัน คงไม่มาแพ้ให้ใครง่ายๆ 'เต๊ง!' เสียงเคาะระฆังเป็นการประกาศว่าคู่ชกคู่ล่าสุดถึงเวลาประลองกันแล้ว ทั้งไกรทองและคนชื่อบาตรตั้งการ์ดเตรียมเข้าโจมตีและตั้งรับ ส่วนคนงามที่ดูมวยไม่เป็นอยู่ข้างสนามก็ได้แต่นั่งนิ่งๆไม่สนทนากับใครเช่นเดิม แต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคยดูมวยหรือรู้เรื่องมวยอยู่แล้ว รู้แค่มันต้องต่อยๆกันเท่านั้น เอาเป็นว่าเขาคงจะรู้เองตอนที่มีคนแพ้คนชนะนั่นแหละ "นี่ๆพี่ชาย ข้าลงเงินฝั่งแดง200เหรียญ" หนึ่งในสิ่งที่ขาดไม่ได้ของการแข่งมวยคือการพนันทายว่าใครจะชนะ และคนที่พึ่งจะทุ่มหมดหน้าตักให้ฝั่งแดงอย่างไกรทองก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คนงามเมืองพิจิตรในตอนนี้นั่นเอง "200เลยรึ! นี่เอ็งมั่นใจมาจากไหนกัน" "นั่นคนของข้าเอง ข้ารู้ว่าเขาเก่งกาจ แล้วก็อย่าคิดจะมาเบี้ยวเงินของข้าล่ะ มิเช่นนั้นข้าจะให้เขามาอัดเอ็งให้น่วม!" คนงามพูดขู่ด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก คนในบริเวณหลายๆคนที่เห็นว่าคนงามมั่นใจในฝีมือจนยอมจ่ายให้จำนวนมหาศาลจึงสนใจมาลงพนันกันอย่างบ้าคลั่ง บางคนก็ลงข้างฝั่งน้ำเงินจนหมดตัว บางคนก็เอาเงินแทบจะทั้งชีวิตลงกับฝั่งแดง เรียกได้ว่าไม่มีใครยอมใคร เวลาผ่านไปนานหลายอึดใจ ตอนนี้คู่ประลองบนสนามเริ่มเหนื่อยหอบกันแล้ว ไกรทองที่อยู่ฝั่งแดงคิ้วแตกปากแตก แต่ก็ยังไม่อาการหนักเท่าฝั่งน้ำเงินที่ทั้งคิ้วทั้งปากแตก แถมดวงตายังช้ำอีก เท่านี้ก็คงดูไม่ยากแล้วว่าใครจะชนะ "คนงามเหตุใดข้าเจ็บถึงเพียงนี้จึงได้ยิ้มหน้าระรื่นได้อีกเล่า" หลังจบการประลองมวยอีกหลายยก ไกรทองกับคนงามก็ตรงกลับที่พัก เพื่อรักษาร่างกายที่บอบช้ำจากการแข่งขัน ยามนี้คนงามนั่งอยู่บนตักแกร่ง บรรจงทำแผลให้ร่างหนาอย่างตั้งอกตั้งใจ ส่วนคนตัวใหญ่ก็กอดเอวบางไว้กันอีกคนตก "ก็ข้าได้เงินพนันจากที่แทงข้างเอ็งไว้มาก ดูสิ ได้ทั้งเงินรางวัลไหนจะเงินพนันอีก รู้งี้ข้าแทงข้างเอ็งหมดตัวไปเสียเลยดีกว่า" "โธ่คนงาม.." ไกรทองถึงกับหน้ามุ่ยเงยหน้าสบใบหน้างามที่ยามนี้ยิ้มมุมปากอ่อนๆอย่างมีความสุข ตั้งแต่พบกันมาน้อยครั้งมากที่คนงามของเขาจะแย้มยิ้ม คงจะเป็นเพราะเจ้าตัวมีหลายอย่างที่กังวลใจอย่างเช่นที่มาที่ไปของตัวเอง แต่ในตอนนี้คนตรงหน้ามีเขาอยู่ เจ้าตัวคงจะเบาใจในหลายๆเรื่องไปบ้าง "เอ็งยิ้มอันใด" คนที่นั่งคร่อมตักแกร่งอยู่ถามอย่างฉงนยามเห็นเจ้าของใบหน้าหล่อเหลายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ไกรทองจึงเอาใบหน้าที่ถูกคนงามรักษาเสร็จแล้วซุกคนตรงหน้าอย่างชอบใจ กลิ่นกายของคนผู้นี้ช่างหอมนวลยิ่งนัก ยามได้ลองดอมดมก็เหมือนจะหยุดไม่ได้ ทั่วกายขาวทั้งหอมทั้งนิ่ม หลายคืนเหลือเกินที่เขาเกือบจะอดใจไม่ไหว "ที่ข้ายิ้มเพราะได้มองคนงาม ทำไม มองไม่ได้หรือ หวงตัวกับข้าหรือ" ไกรทองถามทีเล่นทีจริง ดวงตาคู่งามที่มองคนตัวใหญ่ซึ่งซุกร่างเขาอยู่ก็เหมือนกับมีร่างของหมาตัวใหญ่ๆมาซ้อนทับ มือเรียวค่อยๆเอื้อมไปลูบเส้นผมสีดำขลับอย่างเบามือ ทำเหมือนคนตรงหน้าเป็นสุนัขโดยที่ไกรทองซึ่งไม่รู้อิเหน่ก็พลอยเคลิบเคลิ้มไปเสียอย่างงั้น "เอ็งก็รู้ว่าข้าไม่เคยหวงตัวกับเอ็ง อยากมองข้าก็ไม่ว่า อยากทำอะไรข้าก็ไม่ว่า" คนงามว่าอย่างตรงไปตรงมาเพราะแต่แรกเดิมทีเขาก็ไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้ว แต่กับไกรทองที่คิดไม่ซื่อนี่สิ พูดแบบนี้มันเป็นการชี้โพรงให้กระรอกชัดๆ ลูกเราหน้ามึนมาก ในขณะที่พ่อหมาใหญ่ก็หงิงๆเพราะโดนลูกสาวอ่อย น้องเข้ของแม่อ่อยตาใสเวอร์>_< อะแฮ่มๆ ขอพื้นที่โปรโมทสักเล็กน้อย อุ้ย เห็นอะไรในต๊อกๆของไรท์มั้ย?? ถ้าไม่อยากพลาดสปอย--เอ้ย ข่าวสารใหม่ๆจากไรท์ อย่าลืมไปกดติดตามน้าา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม