ตอนที่ 10

1104 คำ
พัชรินทร์ละสายตาจากจอโทรทัศน์มามองลูกชายเพียงคนเดียวของตนเอง เมื่อวชิรวิชญ์เดินเข้ามานั่งข้างๆ          “หมออาร์มทำหน้าแบบนี้ แสดงว่าไม่ได้ไปนัดบอดแน่ๆ เลยใช่ไหมเนี้ย”          “ผมขอโทษครับคุณแม่”          คนเป็นแม่ถอนใจออกมาอย่างอ่อนอกอ่อนใจ ก่อนจะพูดขึ้น          “แล้วแบบนี้ เมื่อไรหมออาร์มจะได้เป็นฝั่งเป็นฝาสักทีล่ะลูก แม่จะได้ตายตาหลับสักที”          ชายหนุ่มวางมือลงบนมือของมารดา และลูบไล้ไปมาอย่างอ่อนโยน          “ผมมีเรื่องมาปรึกษาคุณแม่ครับ”          “ถ้าไม่ใช่เรื่องดูตัว เรื่องแต่งงาน แม่ก็ไม่อยากคุยหรอกนะ”          ชายหนุ่มระบายยิ้มอ่อนโยน และก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนไม่ต่างกัน          “เรื่องแต่งงานนี่แหละครับ”          ใบหน้าของผู้เป็นมารดาเปื้อนรอยยิ้มทันที ดวงตาทอประกายแห่งความหวัง          “เรื่องแต่งงานเหรอหมออาร์ม”          “ใช่ครับคุณแม่ ผมจะปรึกษาเรื่องแต่งงานนี่แหละครับ อยากได้ความคิดเห็นจากคุณแม่สักหน่อย”          “แต่ว่าลูกไม่ได้ไปนัดบอด แล้วจะคุยเรื่องแต่งงานได้ยังไง ในเมื่อยังไม่ได้เจอหน้าผู้หญิงที่แม่เตรียมเอาไว้ให้เลยนะ”          “ผม... คือผมจะเสนอผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมคิดว่าผมควรจะแต่งงานด้วยน่ะครับ”          “แม่ไม่เข้าใจ เสนอผู้หญิงคนหนึ่ง?”          เครื่องหมายคำถามเต็มใบหน้าของมารดาเลยทีเดียว          วชิรวิชญ์สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเริ่มต้นพูดเสียงนุ่ม          “คุณแม่ว่าครูนิวเป็นยังไงบ้างครับ”          “หนูนิวน่ะเหรอ”          “ใช่ครับ”          พัชรินทร์นึกถึงนิวารินและก็ระบายยิ้มเอ็นดูออกมา “หนูนิวน่ารัก เป็นเด็กดี คุยสนุกด้วย แม่คุยกับหนูนิวทีไร แม่หัวเราะท้องแข็งตลอดเลย ว่าแต่หมออาร์มพูดถึงหนูนิวทำไมเหรอ” คนเป็นแม่ถามกลับอย่างแคลงใจ ก่อนจะยกมือขึ้นทาบออก “อย่าบอกนะว่า...???”          “ผมว่าผมจะแต่งงานกับครูนิวครับ”          “ว่า... ยังไงนะหมออาร์ม” พัชรินทร์อุทานตกใจมาก          “ผมจะแต่งงานกับครูนิวครับ”          เมื่อลูกชายย้ำออกมาอีกครั้ง และชัดเจนมากๆ พัชรินทร์ก็ละล่ำละลักถามออกไปอย่างเหลือเชื่อ          “ลูก... รักครูนิวเหรอ”          “ผมยังไม่รู้เลยว่าความรักหน้าตาเป็นยังไง แล้วผมจะไปรักครูนิวได้ยังไงล่ะครับ”          “แต่ลูกจะแต่งงานกับหนูนิวไม่ใช่เหรอ...”          “ก็คุณแม่ต้องการให้ผมแต่งงานมีครอบครัว ซึ่งถ้าให้ผมเลือกระหว่างแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่รู้จัก กับการแต่งงานกับครูนิว ผมเลือกอย่างหลังดีกว่าครับ”          “มะ... แม่ก็ยังงงอยู่ดี นี่ลูกกับครูนิวไปตกลงอะไรกันยังไงเนี้ย ตกลงกันตอนไหน”          “เราสองคนมีเหตุผลคล้ายๆ กันครับ ซึ่งผลลัพธ์ที่เราทั้งคู่ต้องการก็คือทำให้ครอบครัวสบายใจ และมีความสุข ดังนั้นคุณแม่แค่มีความสุขกับสิ่งที่ผมทำก็พอแล้วครับ”          “ตะ... แต่แม่ก็ยังงงอยู่ดี”          “คุณแม่ไม่ต้องงงแล้วนะครับ และก็ไม่ต้องนัดบอดให้ผมอีกแล้ว เพราะผมเลือกที่จะแต่งงานกับครูนิว ส่วนเรื่องฤกษ์ยาม ผมแล้วแต่คุณแม่กับคุณพ่อเลยครับ”          พัชรินทร์จ้องมองใบหน้าเรียบเฉยของลูกชาย ก่อนจะพูดออกมาด้วยความไม่สบายใจนัก          “แล้วหนูนิวรู้ใช่ไหมว่าหมออาร์มแต่งงานเพราะอะไร”          “ครับ เธอรู้ทุกอย่างดีครับ”          คนเป็นแม่ผงกศีรษะขึ้นลง ขณะที่ลูกชายลุกขึ้นจากโซฟา          “ผมขอตัวไปอ่านหนังสือก่อนนะครับ คุณแม่ต้องการให้ผมทำอะไรเกี่ยวกับการแต่งงานนี้ก็แจ้งผมได้นะครับ ผมจะทำตามทุกอย่างเท่าที่ทำได้”          “ลูกทำเหมือนกับว่านี่คืองานอย่างหนึ่งอย่างนั้นแหละ”          “มันคือหน้าที่ ที่ผมเต็มใจทำเพื่อคุณแม่ครับ”          ลูกชายระบายยิ้มอ่อนโยนให้กับมารดา ก่อนจะเดินจากไป          คนเป็นแม่ผ่อนลมหายใจออกจากปาก กดรีโมทเพื่อปิดโทรทัศน์ เพราะดูไม่รู้เรื่องแล้ว          “หนูนิวมีเหตุผลอะไรนะ ถึงยอมแต่งงานกับหมออาร์ม” หญิงสูงวัยบ่นพึมพำ ก่อนจะเดินขึ้นชั้นบนไปอีกคน          นิวารินนอนไม่หลับเลยตลอดทั้งคืน เพราะตื่นเต้นดีใจกับการที่จะได้แต่งงานกับวชิรวิชญ์ ผู้ชายในฝันของตัวเอง          หญิงสาวก้าวลงจากเตียงตอนรุ่งสาง และเดินไปหยุดที่หน้าต่างห้องนอน นิ้วเรียวเกี่ยวม่านให้แยกออกจากกัน และมองข้ามรั้วไม้เตี้ยไป          ห้องนอนของวชิรวิชญ์อยู่ตรงหน้า แม้ว่าตั้งแต่เจอกันในวันแรกเมื่อหลายปีก่อน เขากับหล่อนจะอยู่ใกล้กันมาตลอด แต่หล่อนไม่เคยเอื้อมมือไปสัมผัสเขาได้เลย          “นี่เราไม่ได้ฝันไปใช่ไหม”          หล่อนถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ถามอยู่อย่างนั้นทั้งค่ำคืนอย่างเหลือเชื่อ แต่สุดท้ายก็พบว่ามันคือความจริง          แม้จะเป็นแค่การแต่งงานปลอมๆ แต่หล่อนก็ยังดีใจ เพราะเชื่อว่าตัวเองจะมีโอกาสทำให้การแต่งงานนี้มันเป็นความจริงขึ้นมาได้ไม่ยาก          รอยยิ้มสดใสระบายเต็มดวงหน้านวล แต่ไม่นานก็ต้องเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มตกใจ เมื่อห้องนอนของวชิรวิชญ์มีแสงไฟเล็ดลอดออกมาจากรอยแยกของผ้าม่าน          “พี่หมอตื่นแล้ว... ตื่นเช้าจังเลย”          หล่อนค่อยๆ ปล่อยให้ผ้าม่านเคลื่อนเข้าหาเหมือนเดิม มีเพียงรอยแยกเล็กๆ พอให้สายตาเพ่งมองเท่านั้น          “พี่หมอเปิดม่านเถอะ...”          หล่อนพึมพำ และก็แอบมองไม่ยอมละสายตา ซึ่งไม่นานความหวังของหล่อนเป็นเป็นจริง วชิรวิชญ์เปิดม่านหน้าต่างฝั่งที่ตรงกันข้ามกับห้องนอนของหล่อนออก และเขาก็ยืนบิดตัวไปมาอยู่ภายในห้อง          “พี่หมอตัวสูงจังเลย...” หล่อนมองอย่างชื่นชม ก่อนจะหน้าแดงระเรื่อ และรีบหันหน้าหนี เมื่อเห็นวชิรวิชญ์ถอดเสื้อนอนออกจากตัว          “พี่หมอถอดเสื้อ...”          หล่อนยกมือขึ้นลูบแก้มตัวเอง ก็พบว่ามันร้อนผ่าว และแน่นอนว่าจะต้องแดงมากๆ          “บ้าจริงเลยเรา ทำไมชอบแอบมองผู้ชายแบบนี้นะ นี่ถ้าพี่หมอรู้ว่าถูกเราแอบมองทุกวัน คงส่งเราไปพบจิตแพทย์แน่ๆ เลย”          นิวารินยิ้มขัดเขิน ก่อนจะรีบหยิบเสื้อผ้าและหายเข้าไปในห้องน้ำทันที        ต้องรีบไปดักที่หน้าบ้านของพี่หมอ... ก่อนที่พี่หมอจะไปทำงาน          นี่คือความตั้งใจของหล่อนในเช้าวันนี้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม