ตอนที่1/10
หลังจากที่ร่ำลากันเสร็จ นางและท่านตามาอยู่ที่หน้าร้านกระเบื้องหลังคาที่เราเคยมาซื้อวันก่อน
ท่านปู่เยี่ยบอกว่ามาร้านนี้ถูกแล้ว มีครบทุกอย่างและยังรับจ้างสร้างบ้านให้ด้วย
ท่านตาได้เอาจดหมายที่ท่านปู่เยี่ยฝากมาให้เถ้าแก่ร้าน เมื่อเขาอ่านแล้วก็เชิญพวกเราทั้งคู่เข้าไปนั่งคุยรายละเอียดกัน
ท่านตาให้นางนำแบบบ้านออกมาให้เถ้าแก่ร้าน ท่านดูแล้วบอกว่าไม่เคยเห็นแบบบ้านนี้มาก่อน
และยังบอกว่าอาจแพงว่าการสร้างบ้านทั่วไป ท่านตาบอกว่าไม่มีปัญหา หลังจากนั้นลูกชายแกก็กลับจากการไปส่งของ
“ทงจี้มารู้จักนายท่านหวังก่อน นายท่านหวังนี่ลูกชายข้าเขามีหน้าที่รับงานสร้างบ้าน"
“คารวะนายท่านหวัง ข้าน้อยทงจี้เป็นลูกเถ้าแก่ทงขอรับ” พี่ทงจี้อายุน่าจะประมาณ 25 มั้ง
“เรียกข้าตาหวังเถอะ นี่หลานสาวข้าหวังลี่เซียง”
“คารวะคุณชายทงจี้เจ้าค่ะ”
“คุณชายอะไร ถ้าข้าเรียกท่านตาหวัง เจ้าก็เรียกข้าพี่ทงจี้ก็ได้ ข้าจะเรียกเจ้าเสี่ยวลี่ก็แล้วกัน”
“เอาอย่างนั้นก็ได้เจ้าค่ะ ข้าอยากมีพี่ชายอยู่พอดี” นางยิ้มให้แต่ไม่มีใครเห็นเพราะใช้ผ้าปิดหน้าไว้ครึ่งหนึ่งจะเห็นเฉพาะดวงตาของนาง
เมื่อพี่ทงจี้เห็นแบบที่เถ้าแก่ทงเอาให้ดู แกตื่นเต้นมากบอกว่าไม่เคยเห็นบ้านแบบนี้มาก่อน
หลังจากนั้นทั้งสองคนได้คำนวณอุปกรณ์ต่างๆ รวมทั้งค่าแรงด้วย รวมเป็นเงิน 20,000 ตำลึงทอง
ท่านตาก็เอาตั๋วเงินให้ เขาบอกว่าพรุ่งนี้เช้าจะไปทำให้เลย ช่วงนี้ร้านเขามีงานเข้ามาน้อยอาจเป็นเพราะใกล้จะถึงฤดูหนาวแล้ว ชาวบ้านเข้าป่าเพื่อหาอาหารมาเก็บสะสมไว้
นางบอกว่าจะเลี้ยงข้าวกลางวันทุกคน พี่ทงจี้บอกว่าไม่ต้องปกติพวกเขาจะห่อไปกินเอง เขาจ่ายเงินค่ากับข้าวรวมกับค่าแรงไปหมดแล้ว ไม่เกี่ยวกัน แต่นางยืนยันที่จะทำให้ พี่ทงจี้ก็บอกว่าตามใจนาง
นางและท่านตาก็ขอตัว พี่ทงจี้บอกว่าเจอกันพรุ่งนี้ นางให้ท่านตาพาไปซื้อหม้อใบใหญ่ ครั้งนี้นางเปลี่ยนร้านใหม่ที่อยู่อีกฝังของร้านที่เคยมา
ร้านนี้เถ้าแก่เนี้ยมาดูแลเอง นางยิ้มพูดคุยเป็นกันเอง แล้วแนะนำอะไรลี่เชียงก็เห็นว่ามันจำเป็นทุกอย่าง จนท่านตาบอกว่าพอแล้ว ก็เจ้าของร้านบริการดีจนข้าหยุดซื้อไม่ได้
หากท่านยายรู้โดนบ่นอีกแน่ๆ ข้าได้เตาอั้งโล่มา 2 ใบ หม้อตุ๋นอีก 1 ใบ กระทะใบใหญ่ 1 ใบ ท่านตาบอกว่าจะไปตามรถม้า
ส่วนข้าจะรออยู่หน้าร้านนี้ เถ้าแก่เนี้ยคิดเงินให้ อ่า…ข้าได้จ่ายเงินสักที เถ้าแก่เนี้ยเอาน้ำชามาให้ข้าด้วย จะปฏิเสธก็กลัวนางจะเสียใจ
ถ้าดูไม่ผิดสายตานางเหมือนจะสงสารข้าที่มีใบหน้าอัปลักษณ์ หลักฐานโชว์อยู่ที่หางคิ้วข้างซ้าย อยากบอกเหลือเกินว่าข้าไม่เป็นไร แต่ในเมื่อนางไม่พูดออกมาข้าก็ไม่พูด
ไม่นานท่านตากลับมาพร้อมรถม้า คนที่บังคับรถม้ามาคือพี่เจี่ยไฉ่นั้นเอง ข้าลาเถ้าแก่เนี้ยแล้วก็ยกของขึ้นรถม้าเพื่อจะกลับบ้าน
ท่านตาบอกว่าไปทานข้าวก่อนกลับ ท่านยายสั่งไว้เพราะข้าทานข้าวไม่เป็นเวลาเท่าไร ท่านตาและข้าชวนพี่เจี่ยไฉ่ด้วย แต่เขาบอกว่าทานแล้ว
ท่านตาเล่าว่าพี่เจี่ยไฉ่เป็นคนในหมู่บ้านเรา แกแต่งงานแล้วมีลูก 1 คน อายุ 2 ขวบอยู่ ภรรยาแกเลี้ยงลูกอยู่บ้าน ส่วนแกรับจ้างขับรถม้าให้เถ้าแก่โรงม้าแห่งนี้
ข้าทานข้าวได้ไม่เยอะ คิดถึงฝีมือตัวเองท่านตาก็เหมือนกับข้า ที่คิดถึงกับข้าวที่บ้าน ข้างในร้านมีซาลาเปาขายด้วย
ข้าบอกท่านตาว่าจะซื้อไปฝากท่านยาย ท่านตาออกไปนั่งรอนอกร้านแล้ว
“รับอะไรดีขอรับคุณหนู ร้านเรามีซาลาเปาไส้เนื้อ ไส้ไข่เค็ม ไส้หมู และไส้ผักรวมขอรับ”
เสี่ยวเอ้อหน้าตาน่ารักคนนั้นดูคล่องแคล่วทะมัดทะแมง
“ข้าเอาอย่างล่ะ 1 ชิ้น 4 ชุดเจ้าค่ะ”
“รอสักครู่นะขอรับคุณหนู ข้าจะใส่ถุงกระดาษให้ ทั้งหมด 30 อีแปะขอรับ”
“นี่ขอรับเงินทอนของคุณหนู”
“ขอบคุณเจ้าค่ะ”
“วันหน้ามาอุดหนุนร้านเราอีกนะขอรับ โชคดีขอรับ”
ข้ายิ้มให้เสี่ยวเอ้อร์น้อย น่ารักจังเลย ข้าเดินออกมาเห็นท่านตาจ่ายค่าอาหารเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็กลับบ้าน
ระหว่างทางข้าขอท่านตานั่งหน้าบอกว่าทานข้าวแล้วกลัวจะเมารถม้า และได้มีโอกาสคุยกับพี่เจี่ยไฉ่
แกเล่าว่าบางวันก็ไม่ได้เงินสักอีแปะ ปกติวันหนึ่งได้ 20 อีแปะ แบ่งให้เจ้าของรถม้า10 อีแปะ วันไหนไม่ได้ก็ต้องเสียค่าเช่ารถม้าวันละ 3 อีแปะ เงินมันหายากมากๆ
เพราะแบบนี้สินะลี่เซียงคนก่อนต้องหาของป่าปะทังชีวิตไปวันๆ นางจำสีหน้าพี่เจี่ยไฉ่ได้เมื่อได้รับเงิน 30 อีแปะจากนางครั้งแรก แกดีใจขนาดไหน (ไปตลาดครั้งแรกพี่เฉี่ยไฉ่เป็นคนมาส่ง)
“ท่านตาเจ้าคะ เราให้พี่เจี่ยไฉ่มาทำงานที่บ้านเราได้ไหมเจ้าคะ ให้มาช่วยท่านลุงและพี่กุ้ยฉ่ายด้วย” ท่านตาหันไปทางพี่เจี่ยไฉ่
“ว่ายังไงล่ะ ข้าจะให้เจ้าเป็นเดือน เป็นงานทั่วไปตอนนี้ข้ากำลังสร้างบ้าน ถ้าเจ้าสนใจพรุ่งนี้เอารถม้าไปคืนเถ้าแก่แล้วมาหาข้าที่บ้านได้เลย” ท่านตาพูดขึ้น
“ข้าจะไปขอรับ ขอบคุณนายท่านหวังและขอบคุณหนูหวังมากๆขอรับ”
สีหน้าพี่เจี่ยไฉ่ดีใจสุดๆ นี่ถ้ารู้ว่าข้าจะให้เงินเดือนเขาเดือนละ 10 ตำลึงเงินเขาจะดีใจขนาดไหนน้าาา
“พี่เจี่ยไฉ่เรียกข้าลี่เซียงก็ได้ ท่านตาข้าได้พี่ชายเพิ่มอีกคนแล้วนะเจ้าค่ะ อิ อิ อิ” ท่านตายิ้มให้แล้วลูบหัวข้า
“ไม่ได้ขอรับ ข้าเรียกคุณหนูเหมาะสมแล้วขอรับ”
“ก็ได้ๆ แต่ข้าจะเรียกพี่เจี่ยไฉ่ ได้ใช่ไหมเจ้าคะท่านตา” นางหันไปทางท่านตา
“ตาตามใจเรา ส่วนเจ้าให้นางเรียกไปเถอะนางเป็นลูกคนเดียว อยากมีพี่น้องเหมือนคนอื่นเขา เจ้าก็อย่าคิดมาก”
ท่านตาเข้าใจข้าที่สุด บางครั้งข้าก็อยากมีน้องน่ารักๆเหมือนหยาว หยาว บ้าง คิดแล้วก็นึกถึงครอบครัวที่จากมา พวกเราอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ มีเสียงหัวเราะและนั่งดูละคร
“ได้ขอรับนายท่าน” ตอนนี้ข้ามีพี่ชายตั้งสามคน พี่กุ้ยฉ่าย พี่ทงจี้ พี่เจี่ยไฉ่ อิ อิ อิ มีความสุขจัง
ชาติก่อนเป็นพี่ใหญ่มีน้องๆ สามคน ชาตินี้มีพี่ชายสามคน 55555 แต่ละคนหน้าตาดีๆทั้งนั้น ลี่เซียงเธอไม่เหงาแล้วนะ มีทั้งพี่ทั้งเพื่อน
มาถึงบ้านก็ยามโหย่วแล้ว ท่านยายอยู่หน้าบ้านรอพวกเราอยู่ และบอกว่าหลังคาเสร็จแล้ว
ก็ให้ท่านลุงและพี่กุ้ยฉ่ายกลับไปพักผ่อน ส่วนท่านตามีพี่เจี่ยไฉ่ช่วยยกของเอาไปไว้ในครัว
“ท่านยายข้าซื้อซาลาเปามาฝากเจ้าค่ะ ซื้อเผื่อท่านลุงด้วย พวกเขาไปนานแล้วหรือเจ้าคะ”
“ยายกลัวว่าเจ้าจะกลับดึกอย่างวันนั้น ก็เลยให้กลับก่อน ยังไม่ได้เอาค่าแรงให้ทั้งสองคนเลย บอกว่าพรุ่งนี้ค่อยมาใหม่”
“พี่เจี่ยไฉ่ ข้าซื้อซาลาเปาเอา พี่เอาไปฝากพี่สะใภ้ด้วยนะเจ้าคะ”
“คุณหนู…..ขอบคุณขอรับ” จะไม่รับก็กลัวนางจะเสียใจ ดูสายตานางสิ
“ท่านตาข้าซื้อซาลาเปาให้ท่านลุงด้วยแต่เขากลับไปแล้ว บ้านท่านลุงอยู่ไกลหรือเปล่าเจ้าคะ”
ท่านตาหันไปถามพี่เจี่ยไฉ่ ว่ารู้จักลุงกุ้ยไหไหมที่อยู่กับลูกชายสองคน บ้านเขาอยู่ใกล้กับผู้ใหญ่บ้าน
พี่เจี่ยไฉ่บอกว่ารู้จัก อีกอย่างบ้านเขาเลยบ้านท่านลุงไปอีก จึงอาสาเอาไปให้
ส่วนนางก็เอาไปฝากหยาว หยาว อยากจะรู้ด้วยว่าเสี่ยวหยวนเป็นยังไงบ้าง