ตอนที่ 4 เหนื่อยมากเหมือนกัน

1263 คำ
“เค็มเกินไป ทำมาใหม่!” เสียงทุ้มเข้มออกคำสั่งท่ามกลางบรรยากาศแสนวุ่นวาย “ครับเชฟ!” ชายวัยสามสิบขานรับแข็งขัน เขารีบกระวีกระวาดแก้ไขความผิดพลาดของตนเอง “แค่คาเนเล่ยังทำให้ดีไม่ได้” หัวหน้าห้องครัวฝ่ายขนมหวานของโรงแรมชื่อดังส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ “ทำใหม่น่าจะไม่ทันค่ะ ฉันมีทำสำรองไว้จากรายการอาหารเมื่อครู่ นำไปให้ลูกค้าก่อนดีไหมคะ” ร่างเล็กเดินมาพร้อมของในมือ คาเนเล่เป็นขนมหวานฝรั่งเศสที่หาทานได้ยาก มีลักษณะเป็นชิ้นเล็ก ๆ ทรงสูงคล้ายถ้วยคว่ำสีน้ำตาลเข้ม ด้านนอกจะมีความกรอบจากคาราเมลส่วนด้านในจะเป็นเนื้อที่มีความนุ่มคล้ายกับคัสตาร์ด มาพร้อมรสชาติหวานและกลิ่นหอมของวานิลลา “ดีมากเหม่ยหง สมแล้วที่ได้ขึ้นมาเป็นผู้ช่วยเชฟด้วยอายุเพียงเท่านี้ อย่างน้อยก็ยังมีความสามารถมากกว่าบางคน” ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทุกคนได้ยินคำพูดเปรียบเทียบ มันยังคงสร้างความรู้สึกขัดแย้งให้อยู่เสมอ ในฐานะเชฟเขาทำเช่นนี้เพื่อให้เกิดการแข่งขันกันระหว่างผู้ร่วมงาน พวกเขาจะกดดันและพัฒนาตนเองได้ไวกว่าปกติ “ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวลอบถอนใจ ที่เธอออกหน้าก็เพื่อไม่ให้ลูกค้าไม่พอใจ เพราะถ้าโดนตำหนิคนที่รับเคราะห์ไปด้วยก็คือตัวเธอเอง ดวงตาเรียวฉายชัดถึงความกรุ่นโกรธ ตานวูหมิงทำงานอยู่ในห้องครัวมาเกือบสิบปี เขาทำทุกอย่างไม่ว่าจะล้างจาน เก็บกวาด ดูแลเครื่องปรุง เพียรทุ่มเทเรื่อยมากระทั่งได้อยู่ในตำแหน่งทำของหวานแบบง่ายซึ่งอยู่ในระดับล่างสุดของการไต่เต้าเป็นเชฟ ทว่าไม่กี่ปีมานี้กลับมาเด็กสาวเข้ามาสมัครงานพาร์ตไทม์เพื่อฝึกงานในขณะที่เรียนไปด้วย ฝีมือของเธอก้าวหน้ารวดเร็วยิ่งกว่าบรรดาพ่อครัวจากสถาบันดัง ๆ เสียอีก ทันทีที่เธอใกล้เรียนจบก็ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้ช่วยเชฟโดยมีหัวหน้าพ่อครัวให้ความเอ็นดู “เหม่ยหง มีลูกค้าถามหานามากาชิที่ทำคราวก่อน พรุ่งนี้สามารถทำมาเตรียมไว้หน้าครัวได้ไหม” โรงแรมนี้มีจุดเด่นคือตู้ขนมหวานที่จะจัดวางอย่างสวยงามทุกเช้า มันจะกระตุ้นความต้องการอยากกินของลูกค้าให้เพิ่มขึ้นเมื่อเห็นรูปลักษณ์หน้าตาของขนมชั้นยอด “ได้ค่ะเชฟ” เสียงหวานขานรับ เธอฝึกปรือของหวานมาทุกประเทศเท่าที่จะศึกษาหาความรู้ได้ นามากาชิที่พูดถึงเป็นขนมญี่ปุ่นโบราณที่มีความคล้ายดังโงะและไดฟูกุรวมกัน ทำจากแป้งข้าวจ้าว ผ่านกรรมวิธีการนึ่ง เผา หรือปิ้ง โดยปั้นออกมาในรูปทรงต่าง ๆ ตามความเหมาะสมพร้อมสอดไส้ด้วยถั่วแดงกวน ซึ่งขนมญี่ปุ่นโบราณอย่างนามากาชินี้มักมีรสชาติที่ค่อนข้างหวานจึงนิยมทานคู่กับชาเพื่อให้รสชาติกลมกล่อมกว่าเดิม มันได้รับความนิยมมากเมื่อเธอปั้นออกมาเป็นรูปสัตว์ตัวเล็กน่ารักอย่างกระต่ายหรือจิ้งจอกหิมะ “ทำเป็นอวดเก่ง” เสียงพึมพำไม่เบานักดังขึ้นตรงมุมห้อง พนักงานในครัวหลายคนไม่พอใจที่เหม่ยหงเกินหน้าเกินตาผู้ที่อยู่มาก่อน พวกเขามักใช้ช่วงเวลาที่เชฟออกไปคุยกับลูกค้ากระแนะกระแหนเธอเสมอ “ถ้าคุณคิดว่าสามารถทำได้ก็ขึ้นมาอยู่แทนฉันเลยค่ะ เพราะการอยู่ในตำแหน่งนี้ก็เหนื่อยมากเหมือนกัน” ดวงตากลมตวัดมองฝ่ายตรงข้าม เธอไม่มีความคิดที่จะเจียมเนื้อเจียมตัวสักนิด การก้าวมายืนอยู่ตรงนี้ได้หากยอมให้คนตำแหน่งต่ำกว่ามากดหัว แล้วใครจะเชื่อฟังคำสั่งของเธอในฐานะผู้บังคับบัญชา นิสัยเด็ดขาดเข้มแข็งมาจากประสบการณ์ชีวิตที่ต้องต่อสู้เพื่อดูแลน้องสาวเพียงคนเดียวมาตั้งแต่อายุเพียงสิบห้าปี คนฟังเงียบกริบเนื่องจากเถียงไม่ออก อีกฝ่ายอายุยี่สิบสองกลับต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ ทั้งตรวจสอบวัตถุดิบด้วยตนเอง เครื่องปรุงทุกอย่างต้องเป็นไปตามมาตรฐานของโรงแรม ถึงจะมีคนคัดกรองเบื้องต้นแล้วก็ตาม ไหนจะต้องเตรียมของในทุกเช้าก่อนงานจะเริ่มอีก เรียกได้ว่าเขามาถึงที่ทำงานเธอก็อยู่ในครัวก่อนใครทั้งยังเป็นคนที่กลับหลังสุดด้วย “ทำอะไรกันอยู่! ลูกค้ารอแล้ว” ร่างสูงของหัวหน้าพ่อครัวเข้ามาหลังจากโดนลูกค้าระดับสูงเรียกไปสนทนา บรรยากาศในที่ทำงานไม่เหมาะแก่การหยุดพักเพราะรายการขนมหวานที่ยาวเหยียด “ครับ/ค่ะ เชฟ” ทุกคนรีบเร่งเข้าประจำตำแหน่ง แต่ละวันผ่านไปเช่นนี้จึงยิ่งทำให้ใครบางคนไม่ทันสังเกตว่าบางสิ่งใกล้ตัวเริ่มเปลี่ยนไป แอ๊ดดด ประตูห้องเช่าขนาดกลางเปิดออกพร้อมร่างที่เหน็ดเหนื่อยอย่างหนักเดินโซเซเข้ามาด้านใน เธอกวาดตามองความมืดก่อนเหลือบดูนาฬิกาที่ระบุเวลาตีหนึ่งกว่า ป่านนี้น้องสาวคงเข้านอนแล้วจึงไม่อยากปลุก มือขาวผ่องเปิดตู้เย็นดูว่าเหลือวัตถุดิบอะไรบ้าง นอกจากของหวานเหม่ยหงยังสามารถทำของคาวออกมาได้อร่อยไม่แพ้กัน เธอต้องเตรียมข้าวกล่องสำหรับสามมื้อให้เจ้าตัวน้อยอุ่นกิน ทว่าสิ่งที่เห็นทำเอาในอกพลันจุกจนพูดไม่ออก กล่องอาหารที่ทำไว้เมื่อวานยังวางไว้ที่เดิมไม่มีร่องรอยการหยิบออกมากิน มันเป็นแบบนี้มาเกือบหนึ่งอาทิตย์หลังจากที่ทั้งสองทะเลาะกันครั้งล่าสุด เธอถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนพลางหยิบพวกมันออกมาทิ้งลงถุงขยะ เก็บกวาดล้างให้สะอาด อาหารที่ทิ้งข้ามวันมีโอกาสเสียสูงทั้งยังอาจก่อให้เกิดอาการท้องเสียได้ง่าย ส่วนใหญ่หญิงสาวจึงมักทำวันต่อวันมากกว่าทำเป็นหม้อแล้วอุ่นกินซ้ำ ๆ “พี่ควรทำยังไงดีนะ” ริมฝีปากสีซีดบ่นพึมพำ วันเวลาที่ผ่านมาเธอมักคิดว่าทุ่มเททำทุกอย่างได้ดีแล้ว น้องสาวคงเข้าใจว่างานที่ดีย่อมส่งผลต่อการเงินในอนาคต เพียงแต่จากที่มองในตอนนี้ดูเหมือนมันจะไม่เป็นเช่นนั้น ไม่รู้ว่าเธอก้าวพลาดตรงไหนกันแน่ ร่างอ่อนแรงเดินตรงไปหยุดอยู่หน้าห้องนอนใหญ่ เหม่ยหงยกห้องนี้ให้เหม่ยจูด้วยรู้ดีว่าตนอาจไม่ค่อยได้อยู่และคงดีกับอีกฝ่ายมากกว่าที่มีพื้นที่ทำหลายสิ่งหลายอย่าง มือบางเอื้อมไปจับลูกบิดประตูก่อนจะชะงักค้าง ‘นี่ฉันกำลังจะทำอะไร’ ความรู้สึกมากมายผสมปนเปจนยากจะรู้ชัด ทั้งโกรธที่น้องสาวทิ้งอาหารที่ตนพยายามทำอย่างเต็มที่ น้อยใจกับการโดนเมิน เสียใจที่ไม่สามารถตอบรับความคาดหวังของครอบครัวคนเดียวที่เหลืออยู่ได้และสุดท้าย…โศกเศร้าเหลือเกินเมื่อไม่ว่ายังไงเราก็ไม่เข้าใจกันเหมือนวันวาน หญิงสาวตัดสินใจถอยหลังแล้วกลับเข้าห้องของตนเองไป เลือกจะเก็บทุกสิ่งไว้ในใจเหมือนเดิมโดยไม่รู้เลยว่าในห้องนั้นไร้เงาเจ้าของนอนหลับเหมือนดั่งเช่นทุกวัน ..................................................................................... กอดเหม่ยหง หนูพยายามเต็มที่แล้วลูก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม