ตอนที่ 1 : แรกพบ

1815 คำ
เอรินยืนหอบหายใจแรง หลังจากวิ่งออกกำลังกายเป็นระยะทางค่อน ข้างไกลในเช้านี้ ซึ่งเจ้าตัวเพิ่มระยะวิ่งให้ไกลขึ้นและเร็วขึ้นกว่าทุกๆ วัน อากาศไม่ร้อนมากนัก แต่คนที่เพิ่งผ่านการวิ่งมามีเหงื่อโทรมกาย เอรินยิ้มๆ กับภาพที่ได้เห็น หลังจากมองไปยังบริเวณที่มีสนามเด็กเล่น เครื่องเล่นสีสันสดใสกับเสียงเด็กที่หัวเราะคิกคัก ทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้น “พี่ป๊อบ” ภาพของปานรวีปรากฏขึ้น กำลังวิ่งตามเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ซึ่งกำลังวิ่งไล่กวดกันนั้น เอรินจ้องมองตาไม่กระพริบ นานหลายปีแล้วที่ไม่ได้พบกับผู้หญิงที่มีรอยยิ้มสวยสดใส เอรินถอนใจในทันที ไม่รู้น้ำตาที่ไหลรินนั้นเป็นน้ำตาแห่งความปีติหรือความเศร้ากันแน่ แต่ภาพของปานรวีที่เห็นอยู่ตรง หน้าได้ทำให้ความทรงจำเก่าๆ หวนกลับมาอีกครั้ง แรกพบ เอรินยิ้มๆ หลังจากชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดี ซึ่งคบหาพูดคุยกัน และวันนี้ชายหนุ่มคนดังกล่าวได้ขอคบหาในฐานะคนรัก ซึ่งตัวเธอเองนั้นไม่ได้ปฏิเสธหรือตอบรับชัดเจนนัก แต่การไม่ปฏิเสธ ตรัยซึ่งก็คือชายหนุ่มคนที่กล่าวถึงนั้นได้รวบรัดในทันทีว่า เอรินตอบตกลงที่จะเป็นคนรักของเขา “เย้ ขอบคุณมากนะครับ อ๋อม” เอรินหรืออ๋อม ยิ้มๆ กับท่าทางดีใจของชายหนุ่มรูปงามที่ใครหลายๆ คนบอกกับเธอว่า อิจฉาที่ได้เป็นคนรู้ใจของตรัยหนุ่มหล่อหน้าตาดี ดีกรีนายแบบ ซึ่งพ่วงด้วยความเนื้อหอมมาเต็มอัตรา “อ๋อมยังไม่ได้พูดอะไรสักคำเลยนะ ตรัย” เอรินบอกกับตรัยที่ยิ้มกว้างขึ้นในทันที “ไม่ปฏิเสธ ถือว่า ตอบรับ” ตรัยพูดสรุป “ล่อลวงพามาทานข้าวที่บ้านอีกต่างหาก ไม่บอกกันก่อน ดูสิกระโปรงยีนเสื้อยืดเลยเหอะ” เอรินบ่นพึมพำ “น่ารักจะตายไปนะครับ คุณหมอคนสวย” ตรัยพูดยิ้มๆ “แต่งตัวเหมือนคุณหมอมากเลย เด็กกะโปโลชัดๆ” เอรินหัวเราะ เมื่อเห็นรอยยิ้มสวยๆ ของตรัย “ตอนเจออ๋อมใหม่ๆ ภาพของแพทย์หญิงไม่มีในหัวเลยนะ ภาพสาวสวยในวันแรกที่ได้เจอกันน่ะ นางแบบชัดๆ” ตรัยยิ้มให้กับเอริน ซึ่งหัวเราะออก มาเสียงดังลั่น “บ้า จำได้ด้วยหรือ วันแรกที่เจอกันน่ะ” “จำได้สิเหวี่ยงใส่ซะขนาดนั้น คิดล่ะสิว่า ตรัยเป็นเพลย์บอยจีบไปเรื่อย รักใครรักจริงนะ จะบอกให้” ตรัยทำหน้านิ่งๆ เก๊กหล่อทำเอาเอรินหัวเราะเสียงดังหนักกว่าเดิม “นายแบบหล่อเฟี้ยวมีสาวล้อมหน้าล้อมหลังขนาดนั้น โดนเหวี่ยงก็ถูกแล้ว รู้จักก็ไม่รู้จักยังมาตามตื้อของเบอร์โทรศัพท์ ขอนามบัตรอยู่ได้” เอรินบ่นพึมพำ แต่การสนทนาจบลงเมื่อพี่ชายและว่าที่พี่สะใภ้ของตรัยเดินยิ้มออก มาต้อนรับด้วยกันทั้งคู่ คงเพราะเสียงหัวเราะของทั้งสองคนที่ค่อนข้างดัง ภาพของผู้หญิงที่มีรอยยิ้มสวยสดใส ทำให้เอรินเงียบไป จ้องมองดวง ตาคู่สวยที่กำลังมองมาที่เธอเช่นกัน รอยยิ้มน้อยๆ ที่มีให้นั้น ทำให้ในหัวใจรู้สึกแปลกๆ เอรินรู้สึกอย่างนั้น แต่ดูเหมือนว่า ทุกท่วงท่าของคนที่พอจะเดาได้ไม่ยากว่าเป็นใครนั้น กำลังสะกดให้เอรินตกอยู่ในภวังค์ เอรินยิ้มน้อยๆ แต่หญิงสาวที่กำลังถูกจ้องมองอยู่นั้น เริ่มที่จะไม่กล้าสบตาด้วย คนที่จ้องมองไม่วางตารู้สึกตัวในทันทีว่า ตัวเองเสียมารยาท โชคดีที่การแนะนำของตรัยทำให้เอรินตื่นจากภวังค์ “อ๋อมนี่พี่โต และว่าที่พี่สะใภ้ของตรัย พี่ป๊อบ” เอรินรู้สึกประหม่ามากขึ้นอีก หลังจากได้มายืนอยู่ใกล้ๆ รู้สึกแปลกใจตัวเองเหมือนกันกับแววตาอันอ่อนโยน ซึ่งก็ธรรมดาของคนที่สูงวัยกว่า แต่ก็รู้สึกแปลกๆ กับการที่ทำให้รู้สึกว่าทำไมตัวเธอนั้นถึงได้ดูเก้ๆ กังๆ ชอบกล “ได้เจอตัวสักที นายตรัยมาโม้ให้ฟังว่า หมอน่ารักอย่างโน้นอย่างนี้” โตมรพี่ชายยิ้มกับน้องชายที่ออกอาการเขินอายเล็กน้อย หลังจากเอรินหันมามองด้วยความสงสัย “มานินทาให้ฟังมากกว่า หรือเปล่าคะ” เอรินยิ้ม เมื่อเห็นรอยยิ้มของปานรวีที่ยิ้มน้อยๆ โดยไม่ได้พูดอะไร “บ้าชมต่างหากจ๊ะ ใช่ไหมครับ พี่ป๊อบ” ตรัยยิ้มและกำลังดึงให้ว่าที่ พี่สะใภ้เข้ามาเป็นพวกด้วย ปานรวีหัวเราะเล็กๆ “พี่ว่าเพ้อมากกว่านะ ตรัย” ปานรวียิ้มสวยๆ ให้เอรินที่ยิ้มน้อยๆ แต่ชักเริ่มไม่กล้าที่จะมองสบตาด้วย น่าแปลกใจ ความมั่นใจที่เคยมีหายไปไหนเจ้าตัวไม่สามารถที่จะล่วงรู้ได้เลย หลังจากได้เห็นแววตาสวยๆ ของผู้หญิงที่ชื่อปานรวีที่สายตาเหมือนมีมนต์สะกดให้นิ่งๆ และเฝ้ามอง แต่ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในหัวใจนั้นไม่ได้นิ่งเหมือนท่าทางสักเท่าไหร่นัก “แหมน่ารักขนาดนี้ ผมเพ้อคงไม่แปลกมั้งครับ” ตรัยพูดชมคนรักของตัวเองให้ปานรวีฟังอยู่บ่อยครั้ง “อ๋อมท่าทางไม่ค่อยช่างพูดนะคะ” ปานรวียิ้มให้เอริน “ค่ะ” เอรินรู้สึกอึดอัดตัวเองขึ้นมาอย่างไรไม่รู้ อันที่จริงก็อยากจะพูดอยากจะคุย แต่ทำไม่รู้สึกปากหนักขึ้นมาในเวลานี้ “เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมดูเงียบๆ ไปนะ” ตรัยหันมาถามเอรินที่ยิ้มจางๆ ให้อยู่ “ไม่ต้องตื่นเต้นหรอก อ๋อม คนกันเอง อีกหน่อยคงได้เป็นญาติกันแล้วล่ะ ใช่ไหมนายตรัย” โตมรพูดแซวน้องชายที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่หันไปมองคนรักที่ยิ้มน้อยๆ อยู่ข้างๆ “พี่โตไปพูดแซว เดี๋ยวก็ยิ่งอายกันไปใหญ่ค่ะ” ปานรวีพูดปรามคนรักที่ยิ้มๆ ให้กับเอริน “ทราบจากตรัยว่า พี่ป๊อบรับราชการทหาร” เอรินแอบถอนใจ หลังจากเริ่มพูดคุยกับคนที่ยังคงยิ้มน้อยๆ ให้อยู่ “ตรัยไปนินทาให้ฟัง หรือคะ” ปานรวีถาม “เปล่าคะ ก็เล่าให้ฟังบ้างน่ะคะ” เอรินไม่ค่อยกล้าสบตากับสายตาเรียบนิ่งของปานรวีนัก “ผู้กองคนสวย” โตมรพูดยิ้มๆ แต่ปานรวีหยิกเข้าที่แขนทำเอาคนรักหัวเราะออกมา “พี่โต ก็” “เอ๊า พี่พูดเรื่องจริงนะคะ” โตมรบอกกับปานรวี “ทานข้าวดีกว่าครับ แหมชมกับซึ่งหน้าขนาดนี้ พี่ป๊อบอายแย่” ตรัยยิ้มๆ กับพี่ชาย โตมรรับราชการทหารตามบิดา ซึ่งเป็นครอบครัวทหารมาแต่ไหนแต่ไร แต่ตรัยออกนอกกรอบ บิดาและมารดาออกจะเป็นห่วงจึงท่านฝากฝังให้โตมรดูแล ซึ่งพี่ชายก็ทำหน้าที่ได้ดีมาตลอดหลายปี หลังจากบิดามารดาเสียชีวิตไป “อ๋อมขออนุญาตไปล้างมือก่อนนะคะ” เอรินบอก ตรัยทำท่าจะลุกขึ้นพาไป แต่ปานรวีอาสาขึ้นก่อน “มาพี่พาไปเองค่ะ” เอรินยิ้มน้อยๆ หันไปยิ้มกับตรัยที่พยักหน้าให้ “ขอบคุณค่ะ” เอรินบอกปานรวีที่เดินนำหน้าไป “ยื่นมือมาค่ะ พี่ช่วยเช็ดให้” ปานรวีถือผ้าผืนเล็กๆ สีขาวอยู่ในมือ เอรินยิ้มจางๆ จ้องมองคนที่จ้องตาแป๋วอยู่ตรงหน้า “อ๋อมเช็ดเองก็ได้ค่ะ พี่ป๊อบ” เอรินแบมือไปตรงหน้าปานรวีที่ยิ้มๆ และเริ่มเช็ดมือให้กับเอรินที่ดึงมือกลับ แต่ก็ถูกรั้งเอาไว้ ปานรวีเอื้อมไปจับมืออีกข้างของเอรินที่แอบถอนใจเบาๆ กับการเอาใจใส่ดูแลของปานรวี ซึ่งช่วยเช็ดมือทั้งสองข้างให้จนแห้งสนิท “เสร็จแล้ว ถ้าไม่ดื้อจะน่ารักนะ อ๋อม” ปานรวีพูดยิ้มๆ กับคนที่ยิ้มอายๆ ซึ่งกำลังโดนคว้ามือพาเดินกลับออกไปด้านนอก “เป็นอะไรไปว๊ะ ตรู” เอรินรำพึงกับตัวเอง แต่ก็เดินตามปานรวีออก มาแต่โดยดี อาหารมื้อค่ำเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ตรัยเป็นคนช่างพูดช่างคุย ส่วนโตมรพี่ชายถึงแม้จะพูดน้อย แต่ก็ร่าเริงสดใส เอรินเองปกติถือได้ว่าเป็นคนช่างพูด แต่ค่ำนี้ท่าทางจะเป็นคนพูดน้อยที่สุด ส่วนปานรวีถึงแม้จะดูนิ่งๆ แต่ก็พูดคุยกับทั้งคนรักและตรัยอย่างสนุกสนาน เอรินพยายามดึงตัวเองออกมาจากการเฝ้าสังเกตอากัปกิริยาของปานรวี แต่ยิ่งพยายามกลับยิ่งหันไปสนใจมากขึ้น ท่วงท่ากิริยาดึงความสนใจของเอรินอยู่ได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะรอยยิ้ม “อ๋อมชอบทานอะไร วันหลังพี่จะได้เตรียมให้” ปานรวีถาม หลังจากสังเกตเห็นเอรินนั่งเงียบๆ และเขี่ยอาหารในจานอยู่พักใหญ่ “แอบทานขนมมาก่อนแน่เลย แบบนี้” ตรัยพูดแหย่ “ชอบทานขนม หรือคะ” ปานรวีถาม “พี่ป๊อบ อย่าไปฟังตรัยมากนักเลยค่ะ” “ไม่รู้เป็นหมอได้อย่างไรครับ ทานแต่ของไม่มีประโยชน์” ตรัยยังคงพูดคล้ายๆ เป็นการฟ้องปานรวี “ตรัยขี้ฟ้องนะ” เอรินพูดด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอด โตมรยิ้มๆ กับความน่ารักของเอรินและตรัย ซึ่งปานรวีก็ยิ้มกับความน่ารักนั้นด้วยเช่นกัน “ดีเลย คราวหน้าจะซื้อขนมมาให้ทานแทนข้าว” ปานรวียิ้มให้เอริน “พี่ป๊อบคะ อ๋อมโตแล้วนะคะ เอาขนมมาล่อเป็นเด็กๆ เลย” เอรินบ่นพึมพำ แต่ก็ยิ้มน้อยๆ ให้ปานรวีที่มองดูด้วยแววตาอันอบอุ่น “เดี๋ยวจะลองซื้อขนมมาให้ทาน ลองดูสิว่า ใช่ขนมที่อ๋อมชอบหรือเปล่า อ๋อมเข้าเวรเสาร์อาทิตย์ด้วยหรือเปล่าคะ” ปานรวีถาม เพราะพอจะรู้ข้อมูลมาบ้างจากการบอกเล่าของตรัย “มีบ้างค่ะ อืมอ๋อมให้นามบัตรไว้ดีกว่านะคะ โทรฯ หาอ๋อมก่อนน่า จะสะดวกกว่า” เอรินหยิบนามบัตรส่งให้กับปานรวีที่รับมาพร้อมด้วยรอยยิ้ม “พี่โตว่ามั๊ย อีกหน่อยเราสองคน คงจะโดนผู้หญิงนินทาลับหลังแน่ๆ ดูสิเข้ากันได้ดีนะครับ ว่าที่คู่สะใภ้คู่นี้” เอรินหยิกเข้าที่แขนของตรัย ซึ่งร้องเอะ อะโวยวายเสียงลั่นทำเอาทุกคนหัวเราะออกมาพร้อมๆ กัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม