ตอนที่ 10 : ความรู้สึกที่แฝงตัว

2509 คำ
ปานรวีตื่นได้พักใหญ่ แต่ยังนอนนิ่งๆ มองดูเอรินที่หลับอยู่และยังคงโอบกอดปานรวีเอาไว้หลวมๆ คนที่ถูกกอดอยู่นั้น รู้สึกแปลกใจกับอ้อมกอดที่ทำให้รู้สึกอบอุ่นจนหลับสบาย เอรินดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี ถึงกับร้องเพลงกล่อมจนหลับไปตอนไหนไม่รู้ตัว ปานรวีไม่เคยใกล้ชิดสนิทสนมกับเพื่อนหรือผู้หญิงคนไหนมากเท่านี้มาก่อน อันที่จริงเมื่อคืนที่ผ่านมาก็ไม่ถึงกับว่าจะนอนไม่หลับเสียทีเดียว อาจจะแปลกที่เล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งจริงๆ ก็คงจะหลับได้ในเวลาไม่นานนัก แต่ความใส่ใจของเอรินนั้นกลับทำให้หัวใจรู้สึกสงบ “อรุณสวัสดิ์ค่ะ” เอรินทักทาย หลังจากลืมตามาเห็นปานรวีจ้องตาแป๋วอยู่ก่อนและขยับตัวออกจากอ้อมกอดในทันทีที่เอรินตื่นขึ้น “อรุณสวัสดิ์ค่ะ ขอบคุณนะคะ” ปานรวีบอกและลุกขึ้น เตรียมตัวไปทำกิจวัตรประจำวันในยามเช้า เอรินถอนใจเบาๆ กับใบหน้าเรียบนิ่งนั้น ในวันปกติเอรินมักจะออกไปวิ่งในตอนเช้า หากแต่วันนี้มีแขกมาพักที่บ้าน กิจวัตรจึงต้องเปลี่ยนแปลงไป ปานรวีกำลังจัดเตรียมอาหารเช้าโดยบังคับให้เอรินรออยู่ที่โต๊ะรับประทานอาหาร “อันที่จริง มันหน้าที่ของเจ้าบ้านนะคะ” เอรินบอกหลังจากปานรวียกขนมปังไข่ดาวและกาแฟมาวางให้ “อยากขอบคุณ บ่นมากริ้วรอยขึ้นนะคะ” ปานรวียิ้มจางๆ ไม่รู้ทำไม ถึงไม่ค่อยกล้ามองสบตากับเอริน หลังจากที่ตื่นมาก่อน แล้วจ้องมองคนหลับ อยู่จนเอรินตื่นมาประสานสายตาด้วย “ตามวัยล่ะคะ เรื่องริ้วรอย อ๋อมขี้เกียจดูแลตัวเองด้วย ว่าแต่นอนหลับสบายไหมคะ” เอรินถาม หลังจากจิบกาแฟไปเล็กน้อย “ดีค่ะ” ปานรวีพูดเพียงแค่นั้น จิบกาแฟและหันมองออกไปทางด้าน ข้างตัวบ้าน ซึ่งมีต้นไม้เขียวครึ้ม “รำคาญที่อ๋อมร้องเพลง หรือเปล่าคะ ยังไม่จบเพลงเลย พี่ป๊อบก็หลับแล้ว” เอรินพูดเสียงอ่อยๆ ยกแก้วกาแฟแล้วเดินไปดึงมือปานรวีให้เดินตามออก มาที่สนามหน้าบ้าน ซึ่งวันนี้อากาศค่อนข้างดีแดดไม่ร้อนมากนัก “ถ้ารำคาญคงไม่หลับหรอกมั้งคะ อ๋อมน่ารักดีนะ ท่าทางเป็นคนเอาใจใส่คนอื่นดี” ปานรวีพูดโดยไม่ได้มองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม มองไปยังกล้วยไม้ ที่ออกดอกสวยงามบานสะพรั่งและส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ มาให้รู้สึกสดชื่น “เพิ่งมีพี่ป๊อบนี่ล่ะที่ชม ปกติอ๋อมจะปรูดปราด ไม่ค่อยอ่อนโยนเท่าไรนักแม่ยังว่าเลยค่ะ” เอรินพูดยิ้มๆ “แล้วทำไม” ปานรวีไม่ได้พูดต่อ เมื่อมองเห็นคนที่จ้องมองอยู่นั้นยิ้มน้อยๆ ให้ “ปกติพี่ป๊อบทำอะไรคะ วันหยุด” เอรินพูดเปลี่ยนเรื่อง เพราะพอจะเดาสิ่งที่ปานรวีไม่ได้พูดออกมาได้ว่า ทำไมตัวเธอนั้นถึงได้เอาใจใส่ในตัวของปานรวี เพราะเอรินเองก็ไม่มีคำอธิบายให้ “ตื่นเช้าก็ยืดเส้นยืดสาย โยคะบ้างไปวิ่งบ้าง แล้วแต่สภาพร่างกายค่ะ” ปานรวีบอก “วันหลังไปสปอร์ตคลับกันไหมคะ เพื่อนอ๋อมเปิดอยู่มีหลายอย่างเลย เรื่องออกกำลังกาย อ๋อมยังไปฝึกยูโดเลยค่ะ อันที่จริงต้องเรียกว่า ไปให้เพื่อนทุ่มมากกว่า เพราะคนสอนสายดำเลย” เอรินพูดเสียงอ่อยๆ ทำให้ปานรวีเกิดรอยยิ้ม เพราะคนที่ทำหน้าจ๋อยเมื่อพูดเรื่องโดนเพื่อนทุ่ม “ไม่ชวนตรัยล่ะ รายนั้นชอบออกกำลังกาย” ปานรวีแอบถอนใจ “ไม่อยากไป พี่ป๊อบก็แค่บอกว่า ไม่อยากไปก็พอค่ะ” “แล้วอ๋อมล่ะ ทำอะไรวันหยุด” ปานรวีรีบพูดเปลี่ยนเรื่อง เพราะน้ำ เสียงที่ได้ยินเมื่อสักครู่ ทำให้ตัวคนพูดขึ้นก่อนนั้นไม่สบายใจด้วยเช่นกัน “ปกติอ๋อมก็วิ่งตอนเช้าค่ะ ถ้าหยุดแค่วันเดียว ก็นอนเล่น อ่านหนังสือ ซื้อของเข้าบ้านไว้ทานบ้าง ก็หมดวันแล้ว” เอรินบอก “ตู้เย็นโล่งมาก มีแต่ไข่กับผลไม้นิดนึง” ปานรวีพูดยิ้มๆ “ขนมก็มีค่ะ ขวดโหลตั้งอยู่เต็มเลย” เอรินอมยิ้ม “คุณหมอไม่ค่อยรักษาสุขภาพนะคะ แล้ววันนี้จะไปซื้อของไว้ทานไหม พี่จะไปเป็นเพื่อน” ปานรวีบอก “ผักผลไม้เต็มตู้เย็นแน่เลย ถ้าพี่ป๊อบไปด้วย” เอรินพูดเสียงอ่อยๆ “ทานผักผลไม้ดีออกค่ะ ขนมก็ทานได้ แต่เพิ่มไอ้ที่มีประโยชน์เข้าไปอีก ไหนว่า ไม่ดื้อไงคะ คุณหมอ” ปานรวียิ้มกว้าง เมื่อเห็นคนที่หน้าจ๋อยตักไข่ดาวเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ “ไม่ดื้อก็ได้ค่ะ แต่ซื้อของแล้ว พี่ป๊อบมาทำกับข้าวให้ทานด้วยได้ไหมคะ นะคะ นะ” เอรินยิ้มจ้องมองคนที่ทำท่าคิดก่อนที่จะพยักหน้า อาหารที่ได้มา ส่วนหนึ่งปานรวีเป็นคนเลือกให้ และอีกส่วนหนึ่งเอรินเป็นคนเลือกเอง ส่วนของตัวเองนั้นก็มีนมสด ขนมปังและขนมต่างๆ โดนตีมือไปหลายที หลังจากหยิบช็อคโกแลตบ่อยเข้า เอรินหัวเราะเมื่อถูกปานรวีตีมือ “พี่ป๊อบตีมือบ่อยมาก อ๋อมมือหักพอดีค่ะ” เอรินอมยิ้ม เมื่อเห็นคนที่เดินเคียงข้างอยู่หันมาทำหน้าดุใส่ “น่าตีไหมล่ะ ดูสิหยิบของแต่ละอย่าง” ปานรวีพูดดุ “ก็เห็นผักผลไม้เต็มคันรถ หนึ่งสัปดาห์จะทานหมดหรือเปล่าก็ไม่รู้ มีขนมนิดเดียวเองค่ะ” เอรินพูดเสียงอ่อยๆ “อ๋อมทำงานหนัก ทานอาหารมีประโยชน์เพิ่มขึ้นหน่อยน่าจะดีกว่านะ ไม่อย่างนั้น เจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมาจะแย่ เราน่ะ ยิ่งต้องอยู่กับคนป่วยทั้งวันอยู่ด้วย ที่บ้านก็ขนมเยอะแยะแล้ว ยังจะซื้ออีก” ปานรวีพูดเสียงเข้ม “ซื้อของสด ก็ไม่มีเวลาทำอยู่ดีล่ะคะ” เอรินบอก “เดี๋ยวพี่ทำไว้ให้ ผักก็ทานเป็นสลัด แต่สัญญานะว่า ทำไว้ให้แล้วต้องทานด้วย อาหารเย็นไม่ค่อยทานล่ะสิ อ่านหนังสือ หรือดูทีวี ทานขนมแทนข้าวใช่ไหมล่ะ” ปานรวีถาม “รู้ทันอีก บางวันก็แวะทานก่อนเข้าบ้านค่ะ ไม่ต้องลำบากเตรียมให้หรอกค่ะ ไว้วันหยุดอ๋อมทำเองได้ค่ะ” เอรินพูดด้วยความเกรงใจ “กลัวไม่อร่อยหรือเปล่าคะ” ปานรวีแกล้งยื่นหน้ายื่นตามาถามใกล้ๆ เอรินถึงกับต้องขยับตัวออกไปเล็กน้อย “กลัวอร่อย แล้วเคยตัวมากกว่าค่ะ” เอรินหัวเราะแหะๆ “แป๊บนะ พี่รับโทรศัพท์ก่อน” ปานรวียิ้มจางๆ ให้เอรินที่ยิ้มๆ และพอ จะเดาออกว่า คนที่โทรฯ มานั้นเป็นใคร ปานรวีเดินออกห่างเอรินไปเล็กน้อย แต่คนที่เดินเข็นรถเข็นและหยิบขนมบ้างก็พอจะได้ยิน “ป๊อบออกมาซื้อของค่ะ พี่โตตามสบายเลยค่ะ ป๊อบไม่อยากไปไหน” ปานรวีบอกกับคนที่อยู่ปลายสาย หลังจากคุยกันอีกครู่หนึ่งก็วางสาย “อ๋อมกลับเองได้ค่ะ เกรงใจ วันหยุดของพี่ป๊อบ ต้องมาเดินซื้อของกับอ๋อมแบบนี้” เอรินยิ้มน้อยๆ ให้คนที่ทำหน้านิ่งๆ จ้องมองอยู่ “กลับอย่างไรล่ะ มารถพี่นะ” ปานรวีบอก “แท็กซี่เยอะไปค่ะ” “ไม่อยากให้ทำกับข้าวให้ทานแล้ว หรือคะ” ปานรวีถาม “เกรงใจ พี่โตด้วยค่ะ” เอรินพูดเสียงอ่อยๆ “พี่โตจะไปตีกอล์ฟกับเพื่อน พี่ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่นัก ส่วนใหญ่หนุ่มๆ คุยกันเรื่องงาน ภรรยาหรือว่าที่ภรรยาก็คุยกันเรื่องสวยๆ งามๆ พี่ไม่ค่อยถนัดนักนะ อ๋อมเบื่อหรือเปล่าที่พี่มากวนเวลาพักผ่อน” ปานรวียิ้มจางๆ มองสบตากับคนที่ยิ้มกว้างมากขึ้น “ไม่เบื่อค่ะ ปกติก็นอนกลิ้งอ่านหนังสือ ถ้าไม่ได้ออกไปไหน ซื้อของเสร็จแล้วแวะไปดูสปอร์ตคลับกันเลยไหมคะ เผื่อมีโอกาสได้มาออกกำลังกายด้วยกัน” เอรินเสนอความคิดเห็น “ก็ดีนะ เผื่อจะมีใครยอมให้ทุ่มบ้าง” ปานรวีหัวเราะ เดินลิ่วๆ นำหน้าไปเพื่อชำระเงิน “ทำไมมีแต่คนอยากทุ่มนะ ไอ้อ๋อม” เอรินยิ้มแล้วเดินตามปานรวีไป เอรินยิ้มจางลง เมื่อเห็นทองทิพย์มองออกมาและมองเลยไปยังคนที่เดินเคียงข้างมาด้วย คนที่จ้องมองอยู่นั้นเลิกคิ้วเล็กน้อย หลังจากนั้นคิ้วขมวดเข้าหากัน รอยยิ้มของเอรินหายไปในทันที เมื่อเห็นนิมาเดินมาสมทบกับคนที่ยืนอยู่ก่อนแล้ว “ทิพย์ นี่พี่ป๊อบ” “สวัสดีค่ะ” ทองทิพย์พนมมือไหว้ นิมาก็เช่นกัน “สวัสดีค่ะ” ปานรวีรู้สึกแปลกๆ จากสายตาของสองสาวที่จ้องมองมาตั้งแต่เดินเข้ามาแล้ว “จะมาไม่เห็นบอกก่อน” ทองทิพย์พูดเอ็ดเอรินที่ทำหน้าจ๋อย “มาซื้อของเข้าบ้านเลยพาพี่ป๊อบมาดูสปอร์ตคลับ เผื่อจะแวะมาใช้บริการบ้าง” เอรินบอก “ยินดีต้อนรับค่ะ พี่ป๊อบมีแผนออกกำลังกายอยู่แล้วหรือเปล่าคะ” “ไม่มีค่ะ อ๋อมชวนมาก็เลยแวะมาดูก่อน” ปานรวียิ้มน้อยๆ “แวะมาเมื่อไหร่ก็ได้ค่ะ ทิพย์ยินดีต้อนรับเสมอ ชวนพี่โตกับตรัยมาด้วยก็ได้นะคะ ไม่ได้เจอตรัยนานแล้วเหมือนกัน” ทองทิพย์เห็นท่าทางอึดอัดของคนเป็นแขก เริ่มจะรู้สึกกังวลเป็นห่วงเอรินขึ้นมา นิมาหันมามองสบตาแต่ ไม่ได้พูดอะไรปล่อยให้ทองทิพย์ทำหน้าที่ดูแลแขกอย่างปานรวี นิมาเห็นเอรินยืนอยู่ไม่ไกลนักเลยรั้งตัวเอาไว้ “ยังไงกันไปซื้อของเข้าบ้านด้วยกันกับพี่ป๊อบ อย่างนั้นหรือเปล่า” “อ๋อมรู้นะว่ากำลังจะทำให้พี่ป๊อบด่างพร้อย พยายามเตือนตัวเองอยู่ตลอด ยิ่งออกห่างก็เหมือนยิ่งอยากเข้าใกล้” เอรินยิ้มจางๆ นิมาโอบไหล่ปลอบ โยนเพื่อนเอาไว้ “เกิดอะไรขึ้น เมื่อวานเห็นยังดุอ๋อมอยู่เลย” นิมาถาม “ดุแล้วก็ขับรถไปจอดอยู่หน้าบ้านอ๋อม เมื่อคืนนอนค้างที่บ้าน” เอรินบอกพูดอ้อมแอ้มดูมีพิรุธ “อะไรนะ ยังไงกัน อ๋อมคิดอะไรอยู่” นิมาถามเสียงเข้มทำเอาทองทิพย์กับปานรวีหันมามอง “อ๋อมรู้สึกดีกับพี่ป๊อบ ไม่รู้ว่าขอบเขตมันแค่ไหน ไม่เคยรู้สึกดีแบบนี้ แล้วอ๋อมเองก็ไม่ได้เป็นแบบทิพย์กับนิ่มด้วย อ๋อมเลยไม่รู้ว่า จะอธิบายให้นิ่มเข้าใจได้อย่างไร” เอรินพูดเสียงอ่อยๆ “เกิดอะไรขึ้นบ้างเมื่อคืน พี่ป๊อบนอนที่ไหน” นิมารู้ว่า ไม่ควรจะล่วงล้ำเรื่องส่วนตัว แต่ด้วยความเป็นห่วงในตัวของเอริน จึงถามออกไปอย่างนั้น เอรินเริ่มเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น ตั้งแต่เมื่อวานจนกระทั่งถึงตอนนี้ นิมาถอนใจแต่ก็ไม่ได้แปลกใจอะไรนัก เพราะจากเรื่องที่เล่ามานั้น ทั้งสองคนไม่รู้ ตัวเลยว่า กำลังรู้สึกดีๆ ต่อกันเกินความเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้อง ถึงแม้จะแค่กอดกันจนหลับไปก็ตาม นิมาแอบถอนใจอีกครั้งและกำลังคิดว่า ควรจะให้คำ แนะนำหรือพูดอย่างไรให้เอรินเข้าใจว่า ความรู้สึกที่แอบก่อตัวขึ้นนั้น นานวันเข้าอาจจะกลายเป็นความรัก ซึ่งเป็นแบบเดียวกันกับความรักของทองทิพย์และตัวเธอ นิมากระชับมือที่โอบไหล่ของเอรินอีกเล็กน้อย “มีอะไรก็ว่ามา เอาตรงๆ เลย” เอรินพูดขึ้น ในขณะที่ยังจ้องมองไปที่สองสาว ซึ่งกำลังพูดคุยกัน “พี่ป๊อบไม่ได้ตัวเปล่านะ มีพี่โตแถมยังมีนายตรัยพ่วงอยู่ในชีวิต และที่เล่ามา นิ่มเตือนในฐานะเพื่อนไม่อยากให้ความสัมพันธ์ก้าวหน้าไปกว่านี้ ถ้าอ๋อมไหวก็ถอยออกมา” นิมาถอนใจจนเอรินต้องหันมามอง “แต่อ๋อมไม่คิดว่าจะไปไกลขนาดนั้นนะ นิ่ม” “มันเพิ่งเริ่มนานไปอ๋อมจะถอยไม่ได้ มันจะกลายเป็นพายุลูกใหญ่ที่ทำให้คนเสียใจอีกหลายคน โดยเฉพาะพี่ป๊อบ ทั้งหมดเป็นความคาดเดาของนิ่มนะ คงต้องวัดเอาจากความรู้สึกข้างในของอ๋อมเองว่าใช่อย่างที่นิ่มพูดหรือเปล่า ถ้าหยุดตั้งแต่ตอนนี้ แผลเล็กนิดเดียวไม่นานก็หาย แต่ถ้ายังปล่อยไปแบบนี้ ความรู้สึกดีๆ ที่แฝงตัวอยู่ในความรู้สึกที่ว่าไม่ได้ชอบผู้หญิงด้วยกันนั้น จะกลายเป็นความรักขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวและที่สำคัญ ถ้าเป็นความรู้สึกเพียงข้าง เดียวหรือแม้จะทั้งสองข้างก็ตาม อ๋อมคิดว่าพี่ป๊อบจะเลือกทางไหน ความรัก ความถูกต้องหรือความเหมาะสม” นิมาพูดเสียยืดยาวเอรินฟังอยู่เงียบๆ จริงๆ แล้ว สิ่งที่นิมาพูดก็ไม่ได้ต่างจากที่คิดไว้ก่อนหน้านี้ แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน การโอบกอดปานรวีจนหลับไปด้วยกันทั้งคู่อย่างมีความสุข เหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับเพื่อนคนไหนและความรู้สึกดีๆ ที่แฝงตัวนั่นอีก จึงทำให้นิมาแสดงความห่วงใยออกมาอย่างเห็นได้ชัด และไม่แปลกใจเลยที่จะได้ยินคำแนะนำให้รีบถอยออกมา “อ๋อมลองถอยแล้วแต่พอพี่ป๊อบเข้าใกล้ ความรู้สึกดีๆ ก็กลับมาชัดเจนขึ้นอีก” เอรินพูดเสียงอ่อยๆ “พี่ป๊อบไม่รู้ตัวหรือเปล่าว๊ะ” นิมาหันมามองสบตากับเอริน “มันก็เข้าใจยากนะ ไอ้ความรู้สึกแปลกๆ อ๋อมยังไม่ค่อยเข้าใจเลยว่าที่รู้สึกอยู่นี่มันแตกต่างอะไรกับการเป็นเพื่อน เป็นพี่ นอกจากเรื่องเมื่อคืนที่กอดพี่ป๊อบเอาไว้จนหลับไป แต่ที่อ๋อมคิดก็เพียงแค่กังวลอยากให้พี่ป๊อบหลับสบายก็แค่นั้นเองนะ” เอรินพูดความจริง นิมายิ้มจางๆ และโอบกอดเพื่อนให้แน่นขึ้นกว่าเดิม “ก็เพราะไม่รู้ไงล่ะว่าจริงๆ รู้สึกอะไรและจะพัฒนาไปอย่างไร แต่นิ่มรู้เพราะนิ่มรักทิพย์ นิ่มชอบผู้หญิง สายตาเอื้ออาทรที่พี่ป๊อบมองอ๋อม ก็พอจะดูออกนะสำหรับนิ่ม” นิมาบอกกับเอรินที่ขมวดคิ้วจ้องมองอยู่
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม