เซี่ยอีอิ่งกัดริมฝีปากล่างแน่นด้วยความเจ็บปวด องค์หญิงอย่างนางเหตุใดถึงได้อาภัพเช่นนี้ อยู่ดี ๆ น้ำใส ๆ ก็ไหลลงมาจากนัยน์ตาหงส์ คำพูดจากหวังหย่วนเหอแม้ดูร้ายกาจเอาแต่ใจตน แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้โฉมสะคราญรู้สึกรู้สาอันใด นางเพียงแค่ปวดไปทั้งร่างกายที่ถูกคนหน้าหนารังแกกันเช่นนี้ “ปล่อยข้านะ! ข้าไม่ปรนนิบัติท่านแล้ว” เมื่อหมดความอดทน คนตัวเล็กก็ตะโกนใส่หน้าบุรุษองอาจที่บัดนี้ก้าวเท้าลงมานั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำเดียวกันกับนาง
“กล้าตะโกนใส่ข้าเช่นนี้เลยหรือ ดี! ถ้าเช่นนั้นข้าก็จะย่ำยีเจ้าให้หนักกว่านี้” ไม่รอช้า หวังอ๋องคนใจโฉด แม้แต่สตรีตัวเล็ก ๆ เขาก็ยังอยากเอาชนะ ร่างสูงกระชากแขนสตรีให้เขยิบเข้ามาใกล้ ร่างบอบบางนั้นปลิวติดตามมือแข็งแรงมาในหนเดียว ขณะที่เขาพลั้งมือออกแรงหนักข้อไปเสียหน่อย
“นะ นี่อย่านะ อื้อ!!” ริมฝีปากที่เริ่มบวมเจ่อถูกรุกรานในอีกครั้งหนึ่ง ไม่มีแม้กระทั่งความรู้สึกเจ็บแม้ว่าริมฝีปากสาวจะแตกจนมีเลือดซิบออกมา ลิ้นร้อนไล่ปลอบประโลมบาดแผลนั้นราวกับสุนัขที่กำลังออดอ้อนเจ้าของที่มันรักและหวงแหน เซี่ยอีอิ่งนิ่งงันไปราวกับว่าลึก ๆ นางก็ใจอ่อนยอมให้บุรุษองอาจกระทำย่ำยีกันเช่นนี้ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบหน้า
“หยุดร้องไห้เถิด ข้าทรมานเจ้ามากถึงเพียงนั้นเลยหรืออย่างไรกัน” คำพูดหวานหูที่กระซิบชิดริมหูนั้นทำให้โฉมสะคราญตัวสั่นสะท้าน ไม่ใช่เพราะความหนาวจากน้ำที่แช่ แต่เป็นเพราะคำพูดที่แฝงความนัยไว้หลายประการ
“ข้าเกลียดท่านที่สุด!” เซี่ยอีอิ่งโกรธจนหน้าแดงก่ำ นางใช้กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปที่หน้าอกแข็งแรงนั้นหลายที แต่หวังอ๋องก็ยินยอมให้องค์หญิงห้าทุบตีอยู่เช่นนั้น กระทั่งนางหมดแรงนั่งหอบหายใจถี่รัว บุรุษองอาจถึงได้จับร่างบางพลิกตัวหันหลังแล้วรีบเข้ามาโอบกอดที่ด้านหลัง ซาลาเปาก้อนโตถูกฝ่ามือหยาบกร้านบีบเคล้นนวดคลึงด้วยความหลงใหลที่แม้แต่นางก็ขัดขืนไม่ได้
“ปล่อยนะ! ข้าบอกให้ปล่อย” โฉมงามพยายามดิ้นจนน้ำในอ่างสาดกระเซ็นแต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคให้หวังหย่วนเหอไม่ทำอะไรนางได้เลย
“เจ้าอยู่นิ่ง ๆ ก่อนเถิด ต่อต้านข้า ทุบตีข้า ทุกสิ่งที่เจ้าทำ ข้าจะเอาคืนให้สาสม วันนี้อย่าหวังว่าจะได้นอนเลย” หวังอ๋องขมวดคิ้วขึ้น เขารู้สึกแสบ ๆ คัน ๆ ตรงหน้าอกที่ถูกเซี่ยอีอิ่งทุบ เป็นครั้งแรกที่ชินอ๋องยินยอมให้สตรีทำร้ายมากถึงเพียงนี้ คำขู่นั้นทำให้องค์หญิงห้าหยุดดิ้นไปในทันที ร่างบางพยายามหดตัวหนีการรุกรานใต้น้ำนั้น แต่นางก็หนีไม่พ้นเมื่อแท่งร้อนสอดแทรกเข้ามาที่กึ่งกลางกายสตรีราวกับว่าพวกมันคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีแล้ว
“อะ อะอา” โฉมสะคราญเผลอร้องครางออกมาเมื่อถูกเจ้าแท่งร้อนนั้นไล่บดขยี้ที่เกสรดอกไม้งามจนเสียดเสียวไปทั่วท้องน้อย ความสยิวแผ่ซ่านทำให้นางถึงกับยกมือกำขอบอ่างน้ำแน่น สีหน้าเหยเกเพราะอ๋องคนโฉดเร่งสะโพกสอบไล่กระแทกกระทั้นสะโพกกลมกลึงไม่หยุดหย่อน
“เบา เบาหน่อยเจ้าค่ะ” สุดท้ายเซี่ยอีอิ่งก็จำยอมให้หวังหย่วนเหอครอบครองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ร่างสูงโน้มตัวลงมาใช้ปลายลิ้นเลียสัมผัสไปที่แผ่นหลังขาวเนียนขององค์หญิงห้าด้วยความลืมตัว พร้อมกับจุมพิตย้ำ ๆ จนหลังสตรีขึ้นรอยแดงจ้ำ เขาเกิดหน้ามืดหลงใหลสตรีจากฮวาเป๋ย
อย่างโงหัวไม่ขึ้น ความอยากเป็นเจ้าข้าวเจ้าของโฉมสะคราญทวีความรุนแรงมากกว่าในทุกครั้งที่อ๋องอย่างเขาคิดปรารถนาสิ่งใดสักอย่าง
“อีอี อะอา” หวังอ๋องครางเสียงแผ่วเบาที่ข้างหูสตรี เขากดจมูกโด่งสวยลงที่หลังคอโฉมงามแล้วก็จุมพิตย้ำ ๆ สูดดมกลิ่นหอมจากตัวของร่างบางสีหน้าเคลิบเคลิ้มหลงใหลอย่างถึงที่สุด ส่วนด้านล่างก็เร่งสะโพกสอบไม่หยุดหย่อน เขาไม่คิดให้นางตั้งตัวด้วยซ้ำ น้ำรักทุกหยาดหยดก็ไหลชโลมร่องสาวทันทีที่เขาปลดปล่อยมันออกมา
“อาาาา” เสียงคำรามของบุรุษดังอยู่ด้านหลัง ลมหายใจร้อน ๆ รดรินลวกผิวกายสตรีให้ยิ่งร้อนรุ่ม ยอดถันทั้งสองข้างตั้งชี้ชูชัน นิ้วมือทั้งสิบจิกลงกับขอบอ่างอาบน้ำโดยไม่ทันรู้ตัว ความเสียวสยิวแผดเผาไปทั่วร่างที่ขาวเนียน บัดนี้ทั่วทุกอณูนั้นเต็มไปด้วยร่องรอยทำรักจากริมฝีปากหยักสวย เมื่อเสร็จสมอารมณ์หมายหวังหย่วนเหอก็คลายมือออกจากเอวคอดกิ่วของสตรีโฉมสะคราญ แล้วเคลื่อนตัวไปนั่งเอนหลังหลับตาลงสีหน้าผ่อนคลายอยู่หลายส่วน
เซี่ยอีอิ่งทรุดตัวลงนั่งกองลงไปในอ่างอาบน้ำหมดเรี่ยวแรง แข้งขาของนางอ่อนแรง ไม่มีแรงแม้แต่จะขยับเขยื้อน หวังอ๋องเห็นสภาพสตรีเป็นดังนั้นก็หัวเราะออกมา เขาหรี่ตามองร่างบางที่พยายามจะฝืนลุกยืนขึ้น
“แค่นี้องค์หญิงห้าก็หมดแรงแล้วหรืออย่างไรกัน” คนตัวโตสาดน้ำใส่หน้าคนตัวเล็กกว่าพยายามหยอกล้อ และนั่นก็ทำให้เซี่ยอีอิ่งกัดริมฝีปากแน่นด้วยความโกรธ สายตาตวัดมองหวังหย่วนเหอด้วยความขุ่นเคืองใจ
“กล้ามองข้าด้วยสายตาเช่นนี้ เจ้าคงไม่เข็ดใช่หรือไม่” หวังอ๋องพักได้ครู่หนึ่ง เจ้าแท่งร้อนก็แข็งขึ้นในอีกครั้งและครั้งนี้เขาก็คิดจะข่มเหงโฉมสะคราญให้ตายคาอกเขาไปเลย
“ข้าหนาวแล้วเจ้าค่ะ” โฉมสะคราญมองเห็นแววตาที่มีประกายโหดเหี้ยม ด้วยความหวาดกลัวอารมณ์แปรปรวนของชินอ๋องผู้นี้จึงรีบฝืนลุกขึ้นยืนแต่เพราะไม่ประมาณกำลังตนเอง ขาที่อ่อนแรงนั้นก็ทำให้องค์หญิงผู้อาภัพล้มลงมาบนตักของบุรุษองอาจ เมื่อสบโอกาสเขาก็กอดนางไว้แน่นไม่ยอมปล่อยมือ
“เจ้าอ่อยข้าหรืออย่างไรกัน” คนหน้าหนาขโมยหอมแก้มสตรีที่บัดนี้ถูกเขาจับเอาไว้ได้โดยที่นางเป็นคนเดินมาหาด้วยตัวเอง
“ปละ เปล่าเจ้าคะ” เซี่ยอีอิ่งพยายามขืนตัวออกและผินใบหน้าหลบจุมพิตที่เริ่มร้อนแรงนั้น แต่หวังอ๋องก็ไม่คิดปรานี เขาไล่ซุกไซ้ใบหน้าไปตามซอกคอขาวเนียน และฝ่ามือหยาบกร้านก็ค่อย ๆ ลูบไล้ไปทั่วร่างขาวเนียนนั้น
“วันนี้ข้าจะใจดีปรนนิบัติอาบน้ำให้เจ้าเองดีหรือไม่” หวังหย่วนเหอเปลี่ยนใจ เดิมเขาคิดให้เซี่ยอีอิ่งปรนนิบัติอาบน้ำให้ เหมือนอย่างที่เคยให้พวกสาวใช้ในจวนทำให้ แต่เมื่อเห็นท่าทางอ่อนแอของนาง เขาก็อดนึกสงสารมิได้
“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ข้าอาบเองได้” เพราะรู้ว่าการอาบน้ำของชินอ๋องนั้นจะต้องไม่ใช่การอาบน้ำเหมือนอย่างทั่ว ๆ ไป โฉมงามจึงรีบพูดปฏิเสธแม้จะรู้ว่าการรอดพ้นจากเงื้อมมือของอ๋องมากตัณหานั้นเป็นเรื่องที่ยากเย็นนัก
“เจ้าจะเขินอายไปทำไมกัน ทั้งเนื้อทั้งตัวของเจ้า ข้าก็เห็นทุกซอกทุกมุมแล้ว” หวังอ๋องนึกมันเขี้ยวสาวใช้อุ่นเตียงคนนี้ที่แม้ว่านางจะเป็นถึงองค์หญิงแห่งแคว้นฮวาเป๋ยแล้วอย่างไร สุดท้ายก็เป็นได้เพียงเชลยรักของเขาอยู่ดี
“บ้า! คนบ้า รีบปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะ” เซี่ยอีอิ่งนึกเกลียดหวังอ๋องผู้นี้ด้วยความรู้สึกขัดใจ เขาทั้งบังคับข่มเหงนาง และยังให้นางที่เป็นคู่หมั้นกลายเป็นเพียงสาวใช้อุ่นเตียงเพียงเท่านั้น แม้ว่าจุดเริ่มต้นจะเป็นนางที่ไม่อยากยอมรับความจริงว่าถูกบิดายกให้ชินอ๋องเลือดเย็นผู้นี้ก็ตาม
บุรุษองอาจยิ้มกริ่ม แววตาของเขาเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ยากที่จะหยั่งเชิงความคิดทั้งหมดในใจได้ “ถ้าข้าบ้า...ก็บ้าเพราะเจ้าทั้งนั้น” คำหวานที่ถูกเอ่ยออกมาจากปากของชายหนุ่ม ทำให้หญิงสาวหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธผสมปนไปด้วยความอับอาย
“นี่ท่านอย่ามาปรักปรำข้านะเจ้าคะ” เซี่ยอีอิ่งใช้กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปที่หน้าอกที่เต็มไปด้วยมวลกล้ามเนื้อที่แข็งแรงนั้น ผมที่เปียกน้ำจนลู่ลงมาแนบหน้าในยามนี้ไม่ได้ทำให้โฉมสะคราญลดความงดงามลงไปได้เลย หวังหย่วนเหอมองสบนัยน์ตาหงส์นิ่ง จากนั้นเขาก็ประคองข้างแก้มของสตรีเอาไว้แล้วรีบฉกริมฝีปากลงมาอย่างรวดเร็ว
“อือ! อื้อ! อ่อยอ้าอ๊ะ (ปล่อยข้านะ)” ร่างบางดิ้นขลุกขลักจนน้ำในอ่างหกออกไปข้างนอกจนเกือบหมด เหลือเพียงน้ำค่อนถังที่ยังอยู่แต่กระนั้นหวังอ๋องก็ไม่คิดจะใส่ใจ เขาชอบที่นางต่อต้านเช่นนี้เพราะจะได้มีข้ออ้างข่มเหงนางด้วยความรุนแรงได้อย่างที่ใจปรารถนา
ร่างเล็กถูกดึงเข้ามากอดอย่างแนบแน่นในท่าทางที่พวกเขากำลังเผชิญหน้าซึ่งกันและกัน ซาลาเปาสองลูกที่ใหญ่โตนั้นทาบลงบนหน้าอกแข็งแกร่งที่ค่อย ๆ สะท้อนขึ้นลงตามจังหวะการหายใจ ริมฝีปากหยักสวยรุกเร้าริมฝีปากสาวที่บวมเจ่อให้ยิ่งบวมเจ่อมากขึ้นไปอีก ลิ้นน้อยถูกดูดดึงกวาดต้อนน้ำหวานในโพรงปากสาวไปจนหมด เมื่อเซี่ยอีอิ่งใกล้หมดลมหายใจ หวังหย่วนเหอถึงได้ผละริมฝีปากออกแล้วค่อย ๆ ใช้ลิ้นร้อนเลียสัมผัสไปที่ข้างคอที่บัดนี้แทบไม่มีที่ว่างให้เขาทำรอยฝากรักไว้อีกแล้ว
“เจ้าเป็นของข้า เป็นเมียรักของข้า เข้าใจหรือไม่” ยังไม่วายพูดกล่อมให้โฉมสะคราญคล้อยตาม แม้ว่าชินอ๋องอย่างเขาจะมีสตรีอุ่นเตียงมากมาย แต่คนที่ติดใจมากที่สุดก็คงไม่พ้นองค์หญิงห้าผู้นี้
เซี่ยอีอิ่งตัวอ่อนยวบเหมือนขี้ผึ้งลนไฟ แล้วความทรงจำสุดท้ายในค่ำคืนนี้ที่นางนั้นจำได้ก็คือ ไม่ว่าจะมุมใดในกระโจมของแม่ทัพใหญ่ผู้นี้ เขาก็พานางไปเยือนทั้งหมด เสียงร้องครางน่าอับอายดังกระฉ่อนไปทั้งบริเวณ แล้วพรุ่งนี้องค์หญิงอย่างนางจะมีหน้าไปสู้ผู้อื่นได้เช่นไร