หนึ่งเดือนที่ผ่านมาเราเจอกันค่อนข้างบ่อยเพราะความบังเอิญในบางครั้งและหลายครั้งก็มีเขาคอยดูแลช่วงที่นั่งดื่มเหล้าคล้ายเหงาคนเดียว เขาพูดคุยกับเธออย่างเป็นกันเองไม่ได้มีท่าทีว่าจะชอบหรือแอบรักเลยสักนิด เขาแค่นั่นดื่มด้วยก่อนจะส่งเธอขึ้นรถหรือไม่ก็ขับรถมาส่งที่คอนโดเอง
ระหว่างเรามันคืออะไรกันแน่
หวั่นไหวกับเฮียเฟยทั้งที่มีแฟนงั้นเหรอ?
เธอนี่มัน…เลวจริง!
"นอนเถอะเฮียไม่ทำอะไรหรอก"
"..."
"ขอแค่กอดเฉยๆเดี๋ยวรู้สึกดีขึ้นเมื่อไรจะออกไปเอง"
"กอดตลอดทั้งคืนเลยก็ได้ค่ะ หนู…"
"ไม่รู้สึกผิดกับแฟนแล้วเหรอ?"
"ถ้าหนูเลิกกับเขาแล้ว…เรื่องของเราละคะ?"
"หนูอยากให้เป็นแบบไหนละ?"
"ไม่รู้ค่ะ หนูไม่รู้ว่ารู้สึกอะไรกันแน่"
"งั้นเฮียคงเป็นที่พักใจเป็นแค่คนขั้นเวลาของหนู แต่ไม่เป็นอะไรหรอกเฮียชินแล้วแหละ"
"หนู…"
"ใครๆก็ทำกับเฮียแบบนี้ทั้งนั้นแหละไม่ต้องคิดมากหรอก หนูนอนเถอะนะ" น้ำเสียงอบอุ่นติดหม่นเศร้าทั้งที่ไม่รู้สึกถึงความเศร้าเลยสักนิดเพราะสิ่งที่พูดไปมีความจริงอยู่เพียงเสี้ยวเดียวเท่านั้นเอง เขาไม่เคยเป็นคนขั้นเวลาของใครเพราะทุกคนมันก็แค่ทางผ่านในแต่ล่ะคืนไม่เคยผูกมัดไม่มีความผูกพันหรือบางครั้งเดินสวนกันก็อาจจะลืมไปแล้วก็ได้ว่าครั้งหนึ่งเคยอยู่ในวิชาเพศศึกษาของกันและกันอย่างละเอียดทุกอณูผิว
ไม่มีความรัก มีแค่ความใคร่
คืนนี้จะไม่นอนที่โซฟาคนเดียวเพราะมีคนตัวอุ่นผิวนุ่มให้กอดขนาดนี้และเธอกำลังหวั่นไหวอย่างหนักนั่นยิ่งต้องหาทางเข้าถึงหัวใจแสนเปราะบางให้ได้ก่อนจะครอบครองทุกอย่างทั้งกายทั้งใจแล้วตัดสินใจได้สักทีว่าควรจะเลือกใครที่ดีกว่า
ตัวเลือกเดียวของเธอน่ะคือเขา
นอนกอดเมียคนอื่นแล้วยังได้เชยชมเรือนร่างเย้ายวนไร้ร่องรอยของใครมาทำให้หงุดหงิด แม้จะไม่ใช่สำรวจไปทุกสัดส่วนแต่สิ่งที่ทำก็ไม่ต่างจากชู้คนหนึ่งแล้วยังคิดแย่งมาเป็นของตัวเองนั้นยิ่งแย่กว่าแต่ถ้าให้เลือกใหม่กี่ครั้งก็จะทำแบบเดิมไม่เปลี่ยนไปแน่นอน
เพราะทุกอย่างมันมีการแข่งขันเสมอ
ไม่เว้นแม้แต่ความรัก!!
หลับไปตอนไหนก็ไม่มั่นใจแต่เมื่อลืมตาตื่นขึ้นยังคงอยู่ในอ้อมกอดอุ่นของผู้ชายที่ไม่ได้เป็นคนรักแต่กลับทำให้รู้สึกดี เฮียเฟยหลับสนิทคงเพราะในเวลานี้ไม่มีเเสงแดดทะลุผ้าม่านสีดำเข้ามา ท่อนแขนใหญ่กอดรัดจนตัวเราแนบชิดส่วนท่อนขาหนักก็พาดทับลำตัวคล้ายว่ากักกันไม่ให้หนีออกไปได้ง่ายๆ
ทำไมต้องยิ้มด้วยละ?
เธอไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าเพราะอะไรถึงได้ไม่รู้สึกผิดในสิ่งที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อยทั้งที่ควรจะรู้สึกแบบนั้น แต่ก่อนสมองจะสรรหาคำตอบมาให้ได้โทรศัพท์ที่วางไว้ก็สั่นถี่ๆ เธอเอื้อมมือไปหยิบด้วยความพยายามจะไม่รบกวนเวลานอนของเขามากเกินไปแล้วอ่านข้อความด้วยความรู้สึกเจ็บและเหนื่อยมาก
วันนี้ต้องจบเรื่องที่ยืดเยื้อมาเกือบครึ่งปีซะที
จบกับเขาแล้วค่อยเริ่มต้นใหม่
เธอค่อยๆขยับตัวออกอย่างแผ่วเบาแต่กลับถูกดึงเข้าไปกอดเช่นเดิม ปลายจมูกโด่งกดจูบลงที่แก้มอีกครั้งก่อนเปลือกตาหนังอึ้งขยับเปิดออกมองด้วยความงัวเงียอย่างชัดเจนแล้วปิดไปอีกครั้งพร้อมกับคำถามด้วยน้ำเสียงแหบแห้งกระซิบชิดใบหูที่ทำให้รู้ว่าเขาไม่ได้หลับต่อ
"จะไปไหนแต่เช้า…หื้ม?"
"หนูมีธุระต้องจัดการค่ะ"
"เฮียไปส่ง"
"อย่าเลยค่ะนอนพักเถอะ"
"เอางั้นเหรอ?"
"หนูต้องจัดการหลายอย่างเยอะเลยค่ะ เฮียเฟยยังง่วงอยู่เลยนอนพักเถอะค่ะ"
"เย็นนี้กินข้าวกันไหม?"
"อืม…"
"กินคนเดียวมันไม่อร่อย…กินข้าวกับเฮียนะมารี"
"แต่ว่า…"
"กินที่นี่หรือกินที่ร้านก็ตามใจ หนูเลือกเลย"
"ถ้าสาวๆรู้ว่าเจ้าของผับขี้เหงาขนาดนี้คงอาสามาช่วยคลายเหงานะคะ"
"ไม่มีใครคิดแบบนั้นหรอก"
"งั้น…หนูไปอาบน้ำก่อนนะ"
"กินอาหารด้วยกันก่อนไปนะ เดี๋ยวเฮียทำรอ"
"ทำเป็นด้วยเหรอคะ?"
"เป็นชายโสดแถมอยู่คนเดียวมันก็ต้องทำอะไรเป็นบ้าง"
"หนูจะรอชิมนะคะ" เขายิ้มกว้างแล้วหอมแก้มอีกฟอดใหญ่ก่อนจะขยับตัวลุกนั่งทำท่าทางบิดตัวไปมาเพื่อให้ตื่นเต็มตาจริงๆ เขาหันมายิ้มให้จากนั้นก็ยื่นมือมายีผมหยอกเย้าเบาๆถึงได้ลุกออกจากเตียงแล้วเดินออกไป
เฮียเฟยทำให้เธอยิ้มได้กว้างมาก
ไม่ควรเลยจริงๆ
เธอรีบขยับตัวลุกนั่งบิดคลายเมื่อยเล็กน้อยถึงได้เดินไปอาบน้ำอุ่นอย่างสดชื่นแต่ว่าหลังจากนี้คงขมขื่นแน่นอน การไปคอนโดของแฟนในเวลานี้อาจจะทำให้เธอเห็นภาพบาดตาหรืออาจจะไม่มีอะไรให้เห็นแต่ถึงยังไงก็หมดเวลาของคนไม่รักดีแล้วแหละ เธอตัดสินใจแล้วว่าต้องการยุติความสัมพันธ์ทุกอย่างและจะไม่มีการรีเทิร์นเด็ดขาด
เพื่อนสนิทที่แอบกินกับคนรักลับหลังจะได้เลิกพยายามสักทีหลังจากที่พยายามแสดงตัวมานานว่ามีความสัมพันธ์พิเศษกับแฟนเพื่อน เธอเองก็จะได้ให้โอกาสตัวเองเริ่มต้นใหม่อีกครั้งแม้ว่ามันจะรู้สึกไม่ชินแต่อีกไม่นานก็จะชินไปเอง
เฮียเฟยจะต้องไม่ถูกกล่าวหาว่าเป็นชู้ใคร
เขาจะกลายเป็นตัวจริง!