“ถึงร้านหนังสือแล้วครับ...คุณยูบีอา”
เสียงรายงานของบอดี้การ์ดหนุ่มทำให้ดาราวดีลดกระจกรถลงและเห็นว่าบริเวณที่โธมัสนำรถเข้าไปจอดนั้นไม่ใช่ย่านชุมชนพลุกพล่านแต่เป็นตรอกเล็ก ๆ ที่มีร้านค้าเป็นตึกเก่าสูงไม่เกินห้าชั้น สักครู่ร่างสูงประตูรถจึงถูกเปิดออก ชายหนุ่มปฏิบัติตามหน้าที่ของเขาแม้เป็นภาพอันเคร่งขรึมแต่หญิงสาวก็อดที่จะมองใบหน้าหล่อเหลานั้นไม่ได้ ร่างแน่งน้อยก้าวลงจากรถและกวาดสายตาไปรอบ ๆ ราวกับจะหาบางสิ่งบางอย่าง
“ร้านหนังสืออยู่ทางนี้...ตามผมมาสิครับ”
ดาราวดีก้าวเดินตามบอดี้การ์ดของเธอ ร่างสูงสง่าผึ่งผายซึ่งมองจากด้านหลังเดินไปหยุดที่หน้าตึกหนึ่ง และเมื่อเข้าไปด้านในหญิงสาวก็เห็นว่ามันเป็นร้านหนังสือเล็ก ๆ ที่มีชายแก่วัยราวเจ็ดสิบเป็นชาวเอเชียเชื้อสายจีนนั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์เล็ก ๆ ด้านหน้า
“สวัสดีครับ คุณผู้หญิง...มาหาซื้อหนังสือหรือครับ?”
ชายผู้นั้นกล่าวทักทายด้วยรอยยิ้มและคนที่เป็นฝ่ายตอบรับคือโธมัส
“ครับ...ผมขอพาเธอเข้าไปดูข้างในหน่อยนะครับ”
“เชิญตามสบายเลยครับ”
ชายสูงวัยน่าจะเป็นเจ้าของร้านหนังสือที่ไม่ได้มีการตกแต่งอย่างหรูหราเหมือนร้านในห้างใหญ่ แต่ด้านในมีชั้นวางหนังสือเรียงรายและจัดหมวดหมู่ไว้อย่างเป็นระเบียบ ปกติเธอจะไปแต่ห้างหรือร้านหนังสือขนาดใหญ่ ทว่าวันนี้บอดี้การ์ดคนใหม่พาเธอมาในสถานที่เล็ก ๆ มันสร้างความรู้สึกแปลกใหม่ให้หญิงสาวที่โดยปกติแล้วเธอจะอยู่แต่ในที่อ่าโถงและสะดวกสบาย ดาราวดีเดินตามหลังโธมัสเข้าไปถึงด้านในสุดก่อนที่สายตาคู่งามจะเลื่อนไปหยุดที่หนังสือเล่มหนึ่ง เธอหยิบมันจากชั้นวาง หน้าปกเป็นภาพวาดของนางเงือกแสนสวยดึงดูดสายตาและหญิงสาวก็จ้องมองมันเนิ่นนาน
“มีตำนานมากมายเกี่ยวกับนางเงือก”
เสียงห้าวหนักทำให้ดาราวดีเงยหน้าขึ้น เธอสบนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มอมเทาโดยไม่ได้ตั้งใจ โธมัสยืนอยู่ใกล้เธอมากในพื้นที่ระหว่างชั้นวางหนังสือที่เล็กแคบ ใบหน้าคร้ามเข้มและหล่อบาดจิตนั้นสะกดลมหายใจของหญิงสาวอีกครั้ง ประกายแหลมคมในตาคู่นั้นดูลึกลับทว่าน่าค้นหา ใบหน้างามแหงนมองเขาขณะมือเรียวบางกุมหนังสือไว้แน่น บอดี้การ์ดหนุ่มเลิกมุมปากขึ้นเล็กน้อย
“แต่ตำนานของเกาะครีต บอกเล่าเรื่องราวของนางพรายกับมนุษย์ผู้ชายคนหนึ่ง คืนหนึ่งชายคนหนึ่งเล่นพิณที่ริมชายหาด แล้วเหล่านางเงือกก็ว่ายเข้ามาสดับเสียงพิณของเขาด้วยความหลงใหล ชายผู้นั้นหลงในความงามของเงือกตนหนึ่ง เขาอยากได้นางมาเป็นภรรยา เขายอมทนให้นางเงือกที่กลายร่างเป็นนางพรายน่าเกลียดน่ากลัวทำร้ายเพื่อให้ได้นางมาครอบครอง แล้วเขาก็ได้นางมาเป็นของของเขาสมใจ”
“แต่นางเงือกก็ไม่ยอมพูดคุยกับเขา”
“ชายคนนั้นกลายเป็นคนอารมณ์ร้าย กระทั่งนางเงือกมีลูกกับเขา เขาจึงใช้วิธีขู่นาง ขู่ว่าจะเอาลูกของนางโยนลงในกองไฟ”
“แต่นางเงือกก็ทำในสิ่งที่เขาคาดไม่ถึง นางแย่งลูกจากเขาแล้วกระโดดลงในกองไฟ”
“ชายผู้นั้นถึงได้รู้ว่า...เขาทำในสิ่งที่ผิดอย่างมหันต์ เขาเสียทุกอย่างไป ทั้งนางอันเป็นที่รักและลูกซึ่งเป็นดวงใจของเขา”
“แล้วหลังจากนั้นล่ะคะโธมัส”
“คุณคิดว่าจะเป็นยังไงล่ะ”
ชายหนุ่มถามกลับ หญิงสาวนึกคำตอบไม่ออกเพราะดวงตาคู่หวานจับจ้องอยู่บนใบหน้าหล่อคมที่ตอนนี้เขายืนในระยะใกล้เธอมาก ดาราวดีแทบลืมหายใจ ราวกับมีบางอย่างจุดประกายขึ้นระหว่างร่างเล็กบอบบางที่ยืนประจันหน้ากับร่างสูงใหญ่
“อาจเป็นเรื่องที่เราต้องขบคิดต่อไปใช่มั้ยคะ แทบไม่มีตำนานไหนเลยที่จบลงด้วยความสุข”
“ส่วนใหญ่มักเป็นโศกนาฏกรรม ความทุกข์และความผิดหวังเป็นสิ่งที่ฝังลงในความทรงจำของเราได้ยาวนานที่สุด”
“ตกลงฉันจะซื้อเล่มนี้นะคะ”
ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะเดินกลับไปจ่ายเงินที่เจ้าของร้านเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเสียก่อน เธอล้วงมันออกจากกระเป๋าและรับสาย
“ค่ะ...คุณพ่อ ตอนนี้หนูอยู่ที่ร้านหนังสือค่ะ...จะให้โธมัสไปส่งที่ภัตตาคารเลยเหรอคะ...โอเคค่ะ”
ดาราวดีวางสายก่อนจะบอกกับบอดี้การ์ดของเธอว่า
“ฉันคงซื้อหนังสือได้แค่เล่มเดียว คุณพ่อรออยู่ที่ภัตตาคารน่ะค่ะ...ท่านอยากดินเนอร์กับฉันก่อนเพราะเลื่อนเวลาเดินทางเร็วขึ้นสองชั่วโมง”
“ครับ...คุณยูบีอา”
โธมัสมองตามหลังร่างบางที่เดินไปจ่ายเงินค่าหนังสือให้เจ้าของร้านด้วยประกายตาวาววับ สันกรามถูกขบเข้าหากันแน่น เฟอร์นันโดเลื่อนกำหนดเวลาเดินทางและเขาต้องทานดินเนอร์กับลูกสาวก่อนขึ้นเครื่องบินส่วนตัวไปยังโมนาโก บางที...นี่อาจเป็นอาหารมื้อสุดท้ายที่เจ้าพ่อค้าหุ้นระดับโลกจะได้มีโอกาสทานพร้อมหน้ากับลูกสาวบุญธรรมที่เขารักและหวงหนักหนาก็เป็นได้
กำหนดการเดินทางไปยังประเทศโมนาโกที่เร็วขึ้นทำให้ดาราวดีต้องรีบเดินทางไปยังภัตตาคารเพื่อทานอาหารมื้อเย็นกับเฟอร์นันโดซึ่งเขารออยู่ก่อนแล้ว สำรับอย่างดีถูกเสิร์ฟภายในห้องอาหารพิเศษของภัตตาคารหรูใจกลางเขตควีนส์ กรุงนิวยอร์คและภายในห้องนั้นนอกเหนือจากเจ้าพ่อค้าหุ้นระดับโลกและบุตรสาวบุญธรรมก็มีเพียงบุคคลที่ได้รับอนุญาตโดยเฉพาะเท่านั้นที่เข้าไปได้ซึ่งนั่นก็หมายถึงบอดี้การ์ดคนใหม่ของดาราวดี เขายืนนิ่งเงียบในท่าทีสำรวมอยู่มุมหนึ่งภายในห้องอาหารที่แอร์เย็นฉ่ำขณะสองพ่อลูกนั่งทานอาหารที่โต๊ะและคุยกันท่ามกลางบรรยากาศที่ดูเหมือนแสนสุข