หลังจากที่ได้รับอนุญาตให้มาทานร่วมโต๊ะกับเจ้าของบ้านได้ รนิดาก็จัดเต็มมื้ออาหารแสนอร่อยในทุกๆวัน บรรดาสาวใช้อดแปลกใจไม่ได้ที่ชายหนุ่มเปลี่ยนใจจากกาแฟดำและขนมปังมาเป็นข้าวสวยร้อนๆกับกับข้าวที่รนิดาตั้งใจทำ เมื่อก่อนเขาคิดว่าการมานั่งทานข้าวเช้าคือเรื่องเสียเวลาแต่ว่าตอนนี้กับคิดตรงกันข้ามกับเมื่อก่อน อาหารเช้าคือมื้อสำคัญทั้งเรื่องสุขภาพของกายและใจ เขามีโอกาสได้พูดคุยกับลูกสาวก่อนจะออกไปทำงาน ได้มีโอกาสบอกรักเพื่อเติมแรงใจให้กันในแต่ละวัน มันดีมากเลยในความคิดของเขา
“ทานแบบนี้ทุกวันลูกสาวของพ่อต้องโตเร็วแน่ๆเลยครับ”
“คิกๆ”
“หนูทานผักได้ด้วยหรอครับ” เขาถามออกไปด้วยความประหลาดใจ
“ทานได้ค่ะ”
“ขอบคุณนะครับที่สอนให้แกทานผัก ผักมีประโยชน์พ่อเข้าใจดีครับว่าเด็กๆไม่อยากทานเพราะตอนพ่อเป็นเด็กก็ไม่อยากทานเหมือนกัน ว่าแต่มีวิธีอะไรดีๆล่ะครับ”
“ฉันมีวิธีของฉันค่ะซึ่งมันเป็นความลับ” เธอตอบกลับยิ้มๆ
“ไม่ทานเดี๋ยวน้านิลไม่รักค่ะ” สาวน้อยบอกคนเป็นพ่อตามความจริง
“นี่คุณขู่แกไว้หรอครับ”
“ก็ต้องมีขู่บ้างละค่ะ ไม่งั้นสาวน้อยคนนี้จะดื้อ”
“งั้นขู่ไว้ก็ดีครับผมเห็นด้วย” เขาตอบกลับยิ้มๆ อะไรที่ดีเขาก็เห็นด้วยกับเธอ
“คุณพ่ออิ่มแล้วหรอคะ”
“อิ่มแล้วครับ วันนี้พ่อกลับช้าหน่อยนะครับต้องเข้าไปจัดการอะไรที่บริษัทสักหน่อย” เขามีเอกสารต้องเซ็นต์เลยเลี่ยงที่จะไม่เข้าไปไม่ได้
“ค่ะ” สาวน้อยพยักหน้าเข้าใจ
“อย่าดื้ออย่าซนเกินไปนะครับคนเก่งของพ่อ”
“แกไม่เคยดื้อกับฉันหรอกค่ะคุณอธิป”
“ถ้าเป็นอย่างที่คุณพูดจริงๆก็ดีมากครับ พ่อไปก่อนนะลูก รักนะครับ” เขาจะบอกรักลูกสาวทุกวันเพราะทุกวันที่มีกันคือวันที่มีค่า
“บ๊ายบายค่ะ รักคุณพ่อค่า”
“เก็บจานได้เลยค่ะ”
“คุณอธิปทานจนหมดเลยหรอจ๊ะหนูนิล”
“ใช่ค่ะนม คุณอธิปทานหมดเลย”
“คงอร่อยน่าดู”
“อร่อยไม่อร่อยก็ลองชิมสิคะ นิลทำเผื่อทุกคนแล้วค่ะ”
“จริงหรอจ๊ะ หนูนิลใจดีกับพวกเรามากๆเลย”
“จริงสิค่ะ”
“จัดไปค่ะ ขอชิมหน่อยนะคะว่าอร่อยจริงหรือเปล่า” สาวใช้อีกคนถามกลับยิ้มๆ ทั้งที่ในใจก็รู้อยู่แล้วว่าฝีมือการทำอาหารของหญิงสาวถึงขั้นไหน
“ตามสบายเลยค่ะเดี๋ยวนิลจะพาน้องข้าวสวยไปข้างบนแล้ว”
“ค่ะๆ” ตอนนี้เธอซื้อใจคนในบ้านได้เกือบหมดแล้ว
“ยัยอิ่มไม่กินหรอ”
“ไม่ล่ะฉันทานของคุณอังอร่อยกว่าเยอะ ของแบบนี้มันบ้านๆ”
“จ้าๆ งั้นก็ตามใจมาพวกเรามากินกันเร็ว” อิ่มแทบกลืนน้ำลายเมื่อต้องมองดูคนอื่นๆทานอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย
“อิ่มไหมคะ”
“อิ่มมากค่ะ” สาวน้อยซบลงที่อกอุ่นของหญิงสาว น้องข้าวสวยชอบให้รนิดากอดแน่นๆอยู่แบบนี้
“อิ่มแล้วก็ง่วงแน่ๆเลยใช่ไหมคะ”
“ค่ะ”
“แต่เพิ่งกินไม่ควรนอนนะคะเรามาเล่นวาดรูปกันดีกว่านะคะ”
“ก็ได้ค่ะ” สาวน้อยใช้เวลากับรนิดาทั้งวัน หญิงสาวพยายามหากิจกรรมที่เหมาะสมกับช่วงวัยของสาวน้อยมาให้ทำเสมอ ซึ่งนั่นก็ทำให้น้องข้าวสวยมีพัฒนาการที่ดีเยี่ยม เธอต้องถามชายหนุ่มสักหน่อยว่าหนูน้อยมีนัดฉีดวัคซีนหรืออะไรทำนองนี้ไหม และเธอก็ได้ความว่าสาวน้อยยังมีวัคซีนเข็มสุดท้ายที่ยังไม่ได้ฉีด เธอจึงอาสาจะพาน้องข้าวสวยไปเองเพราะเขาบอกว่าวันเวลานั้นเขาไม่ว่าง
“นั่นหล่อนจะไปไหน”
“วันนี้นิลจะพาน้องข้าวสวยไปฉีดวัคซีนค่ะ”
“ฉันไปด้วย”
“ได้สิคะ ไปเลยนะคะเพราะว่านิลให้คนรถเตรียมรถเอาไว้แล้วค่ะ”
“ก็ไปสิ”
“คุณย่าขา”
“ว่าไงคะ”
“หนูไม่อยากฉีดยา ฮือๆ” น้องข้าวสวยร้องไห้ออกมาเบาๆอย่างน่าสงสาร
“ไม่ฉีดไม่ได้นะลูกเพราะว่ามันเป็นเรื่องสำคัญจำเป็นมากๆเลย เราต้องทำตามที่คุณหมอบอกนะคะ วันนี้ย่าจะไปให้กำลังใจข้าวสวยด้วยนะคะ” คนเป็นย่าไม่รู้จะทำยังไงให้หลานสาวหยุดร้องไห้
“เจ็บๆ” สาวน้อยไม่อยากไปโรงพยาบาลเลย กลัวเจ็บ
“เจ็บนิดเดียวนะลูก อย่าร้องเลยนะคะย่าใจจะขาด” คุณย่าพยายามปลอบใจหลานสาว หล่อนรู้ดีว่าเด้กๆน่ะกลัวเข็มกันทั้งนั้น
“ฟังน้านิลนะคะการฉีดวัคซีนจะช่วยกระตุ้นภูมิต้านทาน ป้องกันและลดโอกาสการเกิดโรค ทำให้หนูมีภูมิคุ้มกันสูงขึ้นนั่นหมายถึงเชื้อโรคทำอะไรหนูไม่ได้ง่ายๆ หนูถึงต้องได้รับวัคซีนครบทั้งปริมาณ และได้รับตามเวลา ที่สำคัญป้องกันโรคได้ในระยะยาวด้วยค่ะ” หญิงสาวอธิบายยาวเหยียดจนหนูน้อยไม่กล้าขัดยอมไปฉีดวัคซีนแต่โดยดี
“ก็ได้ค่ะ”
“อีกข้อหนึ่งคือป้องกันการแพร่กระจายของโรค เราไม่เอาเชื้อโรคไปให้คนอื่นคนอื่นก็ไม่เอาเชื้อโรคมาให้เราค่ะแบบนั้นดีสุดๆไปเลยใช่ไหมคะ”
“ใช่ค่ะ” หนูน้อยเห็นด้วยกับเธอในทันที
“งั้นพร้อมหรือยังคะ” เธอถามอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ
“พร้อมค่ะ” สาวน้อยพยักหน้าหงึกๆ มารดาของชายหนุ่มอดทึ่งไม่ได้ที่หญิงสาวทำให้หลานสาวตัวน้อยยอมไปฉีดวัคซีนแต่โดยดีด้วยเหตุและผล