สับสน

1525 คำ
"เดี๋ยวพี่อุ้มจีน่าเองครับ" ไทเลอลงมาเปิดประตูฝั่งที่นั่งข้างคนขับให้กับคะนิ้งเมื่อถึงที่หมายแล้ว เขาโน้มตังลงไปตั้งใจอุ้มจีน่าขึ้นแนบอกแต่อีกสิ่งที่เขาตั้งใจด้วยคือได้สูดดมกลิ่นหอมของเธอด้วยแต่ดันพลาดท่าในตอนที่กำลังจะอุ้มจีน่าขึ้นหมวกไหมพรมของเด็กน้อยหล่นลงพื้นทำให้คะนิ้งก้มลงจะเก็บเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ไทเลอโน้มตัวอุ้มจีน่าขึ้นแนบอกส่งผลให้้ปลายจมูกโด่งของเขาสัมผัสเข้าที่ซอกคอระหงของคะนิ้งเต็มๆ "อ่ะ!" คะนิ้งอุทานขึ้นแล้วนิ่งไปเมื่อไทเลอไม่ยอมผละใบหน้าออกมาง่ายๆ ก่อนที่มือเรียวของเธอจะดันที่แผงอกแกร่งข้างที่ว่างของเขาเบาๆ ทำให้ไทเลอที่ตกอยู่ในผวังค์เมื่อครู่ได้สติ "เออ" "ไปกันเถอะค่ะ" หัวใจแกร่งมันเต้นแรงจนแทบคลั่งเมื่อคะนิ้งไม่ได้ว่าอะไรแต่กลับเดินหลีกหนีไปด้วยท่าทางที่นิ่งเกินกว่าจะคิดดีๆ ได้ เธอเองก็คงจะเขินเขาอยู่ไม่น้อยเพราะหากเธอไม่ชอบป่านนี้เธอก็คงจะโวยวายเขาไปแล้ว "เอาไงดีครับจีน่า จีบเลยดีไหม" จีน่าพยักหน้าหงึกหงักราวกับรู้เรื่องที่ไทเลอพูด ก่อนจะซบพวงแก้มป่องลงที่ไหปลาร้าของผู้เป็นลุงโดยที่ไทเลอเองก็ส่ายหน้าแอบขำให้กับตัวเองเหมือนกันที่ปรึกษากับเด็กตัวเล็กแค่นี้ "นั่งตรงนั้นไหมคะ คนไม่ค่อยเยอะด้วยพี่ไทค์น่าจะไม่ค่อยชอบคนเยอะๆ ใช่ไหมคะ" โอ้วววว! ใส่ใจจนน่าสอดใส่จังเลยคะนิ้งขา ไทเลอตีสีหน้าเรียบนิ่งก่อนจะพยักหน้าเดินอุ้มจีน่าเดินนำหน้าคะนิ้งไปแล้วนั่งลงปล่อยจีน่าไว้บนหน้าตักแกร่งถ้าปกติคะนิ้งจะต้องนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามแต่เธอกลับนั่งข้างๆ เขาแล้วเป็นฝ่ายยกเอาเจ้าเด็กตัวกลมมาวางไว้บนหน้าตักของเธอเอง "เดี๋ยวพี่อุ้มเองก็ได้" "ไม่เป็นไรคะ นิ้งจะได้ให้หลานนั่งบังกระโปรงด้วย" ด้วยความที่เป็นคาเฟ่กลางทุ่งนาทำให้สถานที่ที่ไปต้องนั่งที่พื้นไทเลอที่เห็นอย่างนั้นก็เอากระเป๋านมของจีน่าขึ้นมาวางบนหน้าตักของคะนิ้งแต่ไม่ได้พูดอะไรออกไป หญิงสาวมองหน้ามาเฟียหนุ่มอย่างขอบคุณแต่ไทเลอก็ได้แค่ยิ้มเบาๆ ค่อยคิดบัญชีทีหลัง จะเอาทั้งต้นทั้งดอกให้คุ้มเลยเชียว "สั่งอาหารเลยไหมคะ" "ครับ" คะนิ้งเรียกบริกรมาสั่งอาหารไม่ว่าเธอจะสั่งอะไรมาก็แล้วแต่ไทเลอก็ไม่ได้ว่าเลยสักคำแถมยังนั่งอมยิ้มมองเธอได้ตลอดเวลาเขาเองก็ไม่คิดว่าจะมีโอกาศได้ใกล้ชิดกับคะนิ้งได้ขนาดนี้ จากที่แค่เคยติดตามในโซเชียลแต่ตอนนี้เขากำลังมีเธออยู่ข้างกาย "วันนี้ไม่ถ่ายรูปเหรอ ปกติเห็นชอบถ่ายรูปอัปลงไอจี" "พี่ไทค์รู้ได้ไงคะว่านิ้งชอบอัปรูปลงไอจี" "ออ คะ ... คือเคยได้ยินเจสซี่คุยกับออสตินน่ะ" "อ๋อ พอดีนิ้งอยากทำเพจท่องเที่ยวตามคาเฟ่น่ะคะ ตอนนี้ก็ทำอาชีพเสริมเป็นนักชิมกาแฟด้วยนะ แล้วก็เขียนวิจารณ์ตามจริงตามสถานที่ที่นายจ้างให้มา" ไทเลอนั่งท้าวคางฟังคะนิ้งคุยจ้อเขายิ้มตลอดที่ได้มองได้คุยกับเธอการที่ได้ใกล้ชิดเธอแบบนี้มันทำให้เขายิ่งอยากขยับเข้าไปใกล้เธออีกนิด ไทเลอเคยมีแฟนเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นหลังจากที่เลิกรากันไปเขาก็ไม่เคยคบกับใครอีกเลยเพียงแค่ซื้อกินบ้างเป็นบางครั้งเท่านั้น แต่ดันมาสะดุดเข้ากับคะนิ้งที่ยิ่งใกล้หัวใจแกร่งยิ่งเต้นแรง "พี่ไปเข้าห้องน้ำแป๊บนะครับ" "นี่นิ้งพูดมากไปจนน่าเบื่อหรือเปล่าคะเนี่ย" "เปล่าครับ เดี๋ยวพี่มานะ" คะนิ้งอุ้มจีน่ามาเล่นพร้อมกับป้อนนมเด็กน้อยไปด้วยโดยที่เธอไม่รู้เลยว่ามสายตาของไทเลอมองเธออยู่ตลอดเวลา มาเฟียหนุ่มเดินออกไปที่จุดสูบบุหรี่เขาหยิบบุหรี่ขึ้นมาอัดเข้าปอดก่อนจะปล่อยควันขาวคละคลุ้งออกมาเบาๆ หัวสมองกำลังตีกันให้วุ่นเมื่อใจหนึ่งก็อยากรุกหน้าให้เต็มที่ส่วนอีกใจก็ไม่อยากให้เธอเข้ามาพัวพันกับสิ่งที่เขาเป็น แน่นอนว่าหากจะให้เขาทิ้งสิ่งที่สร้างมาจนมีทุกวันนี้ได้เขาก็ทำไม่ได้ สุดท้ายไทเลอก็ตัดสินใจขอเฝ้ามองดูเธอไปตลอดเนี่ยแหละดีแล้ว เหรอ ... บ้าน่ามาถึงขนาดนี้แล้วจะปล่อยเธอไปง่ายๆ ได้ยังมาเฟียหนุ่มดับบุหรี่ลงในถังทรายที่ทางร้านเตรียมเอาไว้ แล้วเดินไปเข้าห้องน้ำเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำแล้วปิดประตูลงยกสองมือขึ้นปิดหน้าก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เพื่อเรียกสติให้กับตัวเอง ปู๊ด~ "หืมมมม~ ใครแม่งตดวะเหม็นฉิบหาย" ไทเลอตะโกนออกมาด้วยความลืมตัว เขาเดินออกไปที่อ่างล้างหน้าแล้วยืนกอดอกมองหาคนที่บังอาจผายลมออกมาขัดจังหวะทำสมาธิของเขา รออยู่พักหนึ่งก็ไม่มีใครกล้าเดินออกมา มาเฟียหนุ่มจึงเดินออกไปอย่างหัวเสียเมื่อเห็นคะนิ้งกำลังคุยโทรศัพท์อยู่เขาก็เดินเข้าไปเงียบๆ ที่จริงไม่ได้จะตั้งใจฟังแต่ที่เดินมาเงียบๆ เพราะไม่อยากรบกวนเธอต่างหาก "กินอะไรครับ ไหนพี่เหนือ พี่ใต้บอกหม่ามี๊เร็ว เดี๋ยวหม่ามี๊เสร็จธุระแล้วจะรีบซื้อไปให้เลย" ห๊ะ! หูเขาไม่ฟาดแน่ หม่ามี๊งั้นเหรอใช่ที่แปลว่าแม่หรือเปล่าแต่คะนิ้งยังเรียนอยู่เลยนะจะเป็นแม่คนได้ยังไง แต่เดี๋ยว! นี่มันสมัยไหนแล้วใครๆ ก็เป็นแม่ได้ปะวะ ทำไมเขาถึงไม่เคยรู้ว่าคะนิ้งมีลูกมาก่อน ใช่เหรอวะ "งั้นถามปะป๊าซิครับว่าอยากกินอะไร" เมื่อกี๊หม่ามี๊ อันนี้มีปะป๊าด้วย นี้เขากำลังจะเป็นชู้ของเธอเหรอเนี่ย แต่ได้ข่าวเมื่อก็มึงเพิ่งตัดสินใจปล่อยเธอไปไม่ใช่เหรอวะ เห้ยมันไม่ได้ดิวะแบบนี้มันเข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภคนี่นะเว้ย แต่ถ้าเขามีลูกแล้วจริงๆ มึงรับได้ไหม ... ไทเลอถามตัวเองในใจในขณะที่กำลังยืนอยู่ข้างหลังของคะนิ้งที่เพิ่งจะกดวางสายโทรศัพท์มือถือลงแล้วหันมาเล่นกับจีน่าต่ออย่างน่ารัก รับได้ นี่เป็นคำตอบของเขา แล้วถ้าเธอมีคนของเธออยู่แล้วละมึงจะเอายังไง อันนี้เขาก็ยังให้คำตอบกับตัวเองไม่ได้ เพราะความรู้สึกของเขาที่มีให้คะนิ้งมันมากขึ้นเรื่อยๆ คำตอบของเรื่องนี้มีแค่สองทางคือปล่อยเธอไปกับแย่งเธอมา "กับข้าวเย็นหมดแล้วค่ะพี่ไทค์" "นิ้งครับ" "คะ" "ปะ ... เปล่าครับ" อยากจะถามใจจะขาดแต่กลัวเสียบรรยากาศเลยไม่ถาม ไทเลอนั่งกินข้าวเงียบๆ โดยที่คะนิ้งเองก็งงกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของไทเลอไม่น้อยแต่เธอก็ไม่อยากจะถามอะไรมากเธอจึงเงียบลงบ้างแล้วให้ทุกอย่างเป็นไปตามสถานการณ์ ไทเลอขับรถไปส่งจีน่าคืนให้กับออสติน แล้วก็ขับรถออกมาทันทีโดยมีคะนิ้งนั่งรออยู่ในรถ บรรยากาศขากลับมันช่างแตกต่างจากขามาโดยสิ้นเชิงมาเฟียหนุ่มจอดรถอยู่ใต้คอนโดของหญิงสาวก่อนจะนั่งนิ่งเงียบทำให้คะนิ้งที่ไม่รู้ถึงการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ทำตัวไม่ถูก "เออ งั้นนิ้งขอตัวก่อนนะคะ ถ้าวันนี้นิ้งทำอะไรให้พี่ไม่โอเคนิ้งขอโทษนะคะ" หมั่บ! คะนิ้งทำท่าจะลงจากรถแต่ถูกไทเลอคว้าข้อมือเล็กเอาไว้ทำให้เธอยังต้องนั่งอยู่ที่เดิม "ทำไมวันนี้ถึงตัดสินใจไปกับพี่" อยากจะรู้ถึงเหตุผลที่เธอไปกับเขา ไปเพราะเกรงใจ ไปเพราะถูกมัดมือชก หรือไปเพราะอะไรกันแน่ ทำแบบนี้มันให้ความหวังกันชัดๆ คะนิ้งมองหน้าไทเลอเพียงนิดก่อนจะตอบคำถามของเขาออกไปอย่างตรงไปตรงมา "นิ้งเข้าใจว่าพี่ไทค์ชวนออกเดทค่ะ"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม