“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง”
“ทางผ่าน”
“ช้องทราบค่ะ”
“อืม ตั้งใจเรียนล่ะ”
“ค่ะ”
“อย่าไปแจกเบอร์ผู้ชาย”
“ไม่เคยแจกค่ะ” ฉันแอบกรอกตาเมื่อเจอคำนี้จากเขาแล้วก็หันไปยิ้มตอบ
“แล้วโทรมาทุกวี่ทุกวันมันหมาโทรหารึไง”
“เขาสืบหาเองค่ะ ช้องไม่ได้แจกสักหน่อย”
“อย่าให้รู้”
“ไม่ต้องห่วงค่ะ ช้องจะสแกนน้องเขยให้คุณขุนอย่างดีเลยค่ะ”
“เหอะ! เพิ่งจะมัธยมตั้งใจเรียนก่อนเถอะ อย่าให้ขายขี้หน้าตระกูลฉัน”
“ตั้งใจเรียนอยู่แล้วค่ะ”
“ให้มันจริง สมองอย่างเธอฉันว่าคงได้เสียเงินจ่ายค่าเทอมให้มหาลัยเอกชนสักที่แน่นอน”
“ไม่เสียหรอกค่ะ พี่ผาบอกว่าจะช่วยติวให้ยังไงช้องก็สอบติดอยู่แล้ว คุณขุนไม่ต้องกลัวเสียเงินเพิ่มหรอกค่ะ”
“หึ! จะรอดู”
“ค่ะ ช้องไปเรียนแล้วนะคะ สวัสดีค่ะ” ฉันยกมือไหว้ผู้ชายตัวใหญ่ที่อยู่ในชุดนักศึกษามหาลัยก่อนจะเดินลงรถหรูของเขาที่ขับมาจอดหน้าโรงเรียนทีไรคนจะต้องมองกันด้วยความสนใจทุกที
หงุดหงิดทุกครั้งที่ต้องติดรถเขามาเรียนเพราะต้องเจอคำพูดกระแนะกระแหนแบบนี้ตลอดเลย
“ช้องนาง~”
“ว่า~” ฉันขานรับเพื่อนสนิทอย่างยัยเอิงเอยที่รีบวิ่งเข้ามาหา
“พี่ขุนเขาไปแล้วเหรอ” เอยถามฉันแต่มองตามรถสีแดงคันนั้นตาละห้อยเชียว
“มองตาละห้อยเชียวนะ”
“อยากเจอพี่ขุนเขา อยากเห็นตัวจริงมากกว่านั่งหอมรูปจูบกระดาษ”
“น่าเกลียด เป็นผู้หญิงดูพูดจาเข้า”
“ก็พี่ชายแกหล่อ” ดูทำหน้าเพ้อฝันเข้า เอิงเอยเอ้ย
“หน้าอกแกไซต์อะไร”
“32”
“คัพ A แถมยังเป็น A- สำหรับเขาด้วย ไม่ผ่านจ้ะเพื่อนรัก แกไม่ใช่สเป็คเขาแน่นอน” ฉันยิ้มให้เพื่อนรักแต่เพื่อนฉันกลับทำตาโตใส่
“โห~ มันก็เสริมได้ไหมล่ะ พูดซะเพื่อนเสียกำลังใจเลย” หน้าหงิกหน้างอใส่ฉันเลยค่ะ
“นี่ชอบเขาจริง ๆ เหรอ”
“ชอบ~ หน้าตาหล่อแบบนั้นใครไม่ชอบ ว่าแกเถอะ เอานมมาเปลี่ยนกับฉันเร็วฉันจะได้ไปเป็นพี่สะใภ้แกตอนนี้”
“ฮ่า ๆๆ พอเลย เพ้อเจ้อ ไปเร็วเดี๋ยวก็เข้าแถวแล้ว” ฉันขำเพื่อนสนิทก่อนจะดันหลังให้เดินเข้าไปในโรงเรียน เลิกกพูดเรื่องนี้เพราะพูดยังไงก็ไม่จบถ้าไม่ตัดบทเองเพราะเอิงเอยกับเพื่อนอีกหลายคนกรี๊ดเขากันทั้งนั้น
กรี๊ดคุณขุนเขาพี่ชายของฉันที่ยังไม่เคยมีใครเห็นตัวจริงแต่ก็เป็นคนดังในโลกออนไลน์ของสาว ๆ แต่ทุกคนหลงแค่รูปค่ะ ถ้าลองได้อยู่ใกล้เชื่อเถอะคนนิสัยเสียแบบนั้นไม่มีใครรักลงหรอก เหอะ!
-เวลาต่อมา-
“ป้ากรองสวัสดีค่ะ” ฉันเดินเข้าบ้านแล้วตรงเข้าไปหาป้ากรองซึ่งท่านเป็นผู้มีพระคุณที่เลี้ยงฉันมาตั้งแต่ที่คุณพ่อคุณแม่บุญธรรมของฉันเสีย
“มาแล้วเหรอลูก เป็นไงบ้างจ้ะ”
“รถติดมากเลยค่ะป้ากรอง ว่าแต่วันนี้ป้ากรองทำอะไรให้ช้องกินค่ะ” ฉันเดินยิ้มเข้าไปอ้อนท่านที่กำลังทำอาหารกับพี่ ๆ แม่บ้าน
“แกงเขียวหวานปลากราย ไข่เจียวปู แล้วก็เต้าเจี้ยวหลนผักสด”
“หือ? มีคนจะมากินข้าวที่บ้านเหรอคะ”
“ใช่จ้ะ” ป้ากรองหันมายิ้มมีความสุข
“...”
“หน้าหงิกหน้างออะไร พี่เขามากินข้าวเย็นด้วยไม่ดีใจรึไง”
“ชอบแกล้งช้อง ช้องไม่อยากกินข้าวด้วยหรอกค่ะ” ฉันย่นจมูกด้วยความเซ็ง ไม่อยากเจอหน้าผู้ปกครอง แค่เจอเมื่อเช้าก็เซ็งจะแย่แล้ว
แล้วอีกอย่างการมากินข้าวเย็นด้วยถือเป็นเรื่องผิดปกติ ต้องมีเรื่องอะไรไม่ปกติแน่นอน ไม่งั้นผู้ปกครองของฉันไม่กลับบ้านตั้งแต่หัวค่ำหรอก
“พี่เขาก็รักนั่นแหละถึงแกล้ง สองคนนี้นี่นะทะเลาะกันตั้งแต่เด็กจนโตเลย เดี๋ยวสักวันป้าจะตีทั้งสองคนเลยคอยดู”
“ป้ากรองบอกคุณขุนเถอะค่ะ ชอบหาเรื่องช้อง” ฉันหน้างอใส่ป้ากรองท่านก็เลยยิ้มให้
“พี่เขาแสดงความรักไม่เป็น ป้าดูออกว่ารักน้อง ถ้าไม่รักจะร้องให้พ่อกับแม่พาหนูมาอยู่ด้วยทำไมล่ะลูก”
“เอามาเป็นตุ๊กตาไงคะ” นึกถึงก็หงุดหงิดขึ้นมาอีกแล้ว เขาแกล้งฉันตั้งแต่เด็กจนโต มีแค่พี่ภูผากับพี่สายธารเท่านั้นที่คอยโอ๋ ส่วนอีกคนน่ะเหรอ เหอะ!
“ก็น้องของพี่เขาน่ารักนี่ลูก ไม่เอาแล้ว ไป ๆๆ ไปเปลี่ยนชุดได้แล้วป้าเหม็นเด็ก”
“เหม็นที่ไหนกันคะ ช้องตัวหอมจะตาย ไม่เชื่อป้ากรองลองหอมแก้มดูก็ได้ค่ะ” ฉันฉีกยิ้มก็จะยื่นแก้มไปให้ท่านทำให้ท่านหัวเราะแล้วก็หอมแก้มฉันตามที่ฉันเสนอแล้วจากนั้นฉันก็เลี่ยงไปเก็บของเปลี่ยนเสื้อผ้ามาช่วยที่ทำอาหาร
-19.45 น.-
“ป้ากรองทานก่อนไหมคะ”
“ไม่เป็นไรลูก รอพี่เขาก่อน” ป้ากรองยิ้มให้ฉันแต่ฉันเซ็ง เป็นคนนัดป้ากรองว่าจะมาทานข้าวเย็นกับท่านเอง ท่านก็รีบเตรียมอาหารเมนูโปรดให้หลานชาย แล้วดูสิ ดูเขาทำ จะสองทุ่มแล้วก็ยังไม่มา ไม่แม้แต่จะโทรมาบอกก่อนด้วยซ้ำว่าจะมาช้า
จริง ๆ เลย ไม่รู้ไปส่งสาว ๆ คนไหนอยู่น่าเบื่อที่สุด
นั่งรอคนสำคัญของอาหารค่ำมื้อนี้ต่ออีกประมาณสิบนาทีก็ได้ยินเสียงดังของซุปเปอร์คาร์ของเขาดังขึ้นมา มาแล้วสินะ
“พี่เขามาแล้วลูก หนูไปรับพี่หน่อยเร็ว”
“ค่ะ” ฉันลุกขึ้นแล้วก็เดินไปหน้าบ้านด้วยความเซ็งก็เห็นผู้ชายตัวใหญ่เดินเข้ามาพอดี สภาพดูเหนื่อย แต่สภาพแบบนี้ของคุณขุนเขาไม่ได้เกิดจากการทำงานหรอกฉันว่าไปฟัดกับกิ๊กมามากกว่า
“ไง หน้าบูดหน้าบึ้งไปทะเลาะกับหมาที่ไหนมา” เขาทักฉันที่ยืนมองเขาด้วยใบหน้าบึ้งตึง แต่เขาเองก็หน้าบึ้งไม่ต่างกันหรอก บึ้งกว่าฉันด้วยซ้ำ
“เปล่าค่ะ แค่หิวข้าว” บอกให้รู้ แต่บอกไปก็เท่านั้นแหละเขาไม่สำนึกหรอกว่าปล่อยให้คนอื่นรอ
“ก็กิน ใครบอกให้รอ” เห็นไหมล่ะนอกจากไม่คิดว่าตัวเองปล่อยให้คนอื่นรอเขายังเสียงแข็งกลับมาอีก
“ป้ากรองค่ะ”
“ทีหลังหิวก็กินจะมารอทำไม” เขาพูดพร้อมกับมองฉันด้วยหางตาที่ให้ความรู้สึกเหมือนฉันโง่คิดไม่เป็นจากนั้นเขาก็เดินผ่านหน้าฉันไปเลย ไปอารมณ์เสียที่ไหนมาถึงได้มาลงกับคนอื่น คิดว่าคนอื่นเป็นที่รองรับอารมณ์รึไง
“ก็ป้ากรองไม่ยอมกินช้องจะกินก่อนได้ยังไงคะ ทีหลังถ้าจะไม่ให้รอคุณขุนก็โทรมาบอกสิคะจะได้แยกอาหารไว้ให้แล้วจะได้กินกันก่อนเลย” ไม่อยากจะพูดยาวแต่เหลืออดแต่พอฉันพูดจบเขาที่เดินนำหน้าก็หยุดเดินแล้วหันกลับมามองฉันด้วยสายตากร้าวพร้อมกับชี้หน้าใส่ฉัน
“อย่ามาเถียงนะช้องนาง อย่าเพิ่งปากเก่งเพราะวันนี้เรามีเรื่องต้องเคลียร์กัน!”