"เฮ้อ!" เจนซี่ทรุดตัวลงนั่งอย่างเหนื่อยล้ากับปัญหาที่กำลังเผชิญนี้เต็มที ก่อนจะยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นปิดแผลที่จ้าวฮายฝากฝังความแค้นเอาไว้ให้
"คนที่เจ็บก็คือคนที่ต้องแบกรับทุกอย่างไว้คนเดียวอย่างฉันต่างหาก อย่างนายมันจะไปเข้าใจอะไรฮาย"
ปากบางสีแดงระเรื่อเม้มเข้าหาหันเพื่อสะกัดกลั้นความเจ็บที่มาจากขมับด้านขวา สองเท้ายาวเรียวหยัดยืนขึ้นอีกครั้งด้วยความทุลักทุเล
วันต่อมา...
อนัญติญา พรีเวดดิ้ง,นครศรีธรรมราช
"เลิกทำหน้าแบบนั้นใส่เจนซี่กันสักทีจะได้ไหม" เธอหรือก็อุตส่าห์นัดแนะพี่ชายกับน้องชายทั้งสามชีวิตมาเพื่อจะให้ช่วยหาหนทางแก้ไขเกี่ยวกับเรื่องการแต่งงาน แล้วดูแต่ละคนที่ทำหน้าเข้าสิ ทำอย่างกับว่าเธอมีข้อหาฆ่าคนตายติดตัวเสียยังไงยังงั้น
"พี่ไม่เข้าใจว่าเจนซี่จะไปรับปากพ่อพล่อยๆแบบนั้นได้ยังไง" จอนนี่ พี่ใหญ่วัยห้าสิบสองปีส่ายหัวไปมาอย่างไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่น้องสาวคนรองกำลังกระทำอยู่
"เหอะน่าพี่จอน เลิกบ่นแล้วช่วยหาผัวหลอกๆให้เจนซี่ซะยังดีกว่า" เธอว่าขณะสองเท้าก็เดินวนไปมาด้วยหัวใจที่ไม่สงบสุข "แต่งหลอกๆไปงั้นๆ แหละ"
ทั้งๆ ที่พี่ชายกับพี่สะใภ้อย่างลูกวาดได้ให้กำเนิดหลานชายให้กับพ่อถึงสี่คนแล้วแท้ๆ ยังไม่รวมเจสันกับจัฟฟี่ที่มีทายาทกันอีกคนละสามคนจุกๆ นั่นอีกเล่า เธอแค่...ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมพ่อถึงยังจะมาอยากอุ้มลูกของเธออยู่อีกกันนะ
"จัฟฟี่ไม่เห็นด้วยนะ" จัฟฟี่แทรกขึ้น "ก็ในเมื่อพี่เจนซี่ไม่ได้รักคนๆ นั้นแล้วพี่จะไปดึงตัวเขาเข้ามาแต่งงานด้วยทำไม แต่งงานนะไม่ใช่ช็อปปิ้งที่จะได้ง่ายเหมือนการเลือกเสื้อผ้า"
"พี่ก็รักไอ้ฮาย ไอ้ฮายมันก็รักพี่" เป็นเจสันที่เอ่ยขึ้นมาบ้าง "ทำไมพี่ถึงไม่ยอมแต่งงานกับมันให้จบๆไป"
"ไม่ได้! แล้วก็หยุดพูดถึงนายคนนั้นกันสักทีจะได้ไหม ได้ยินชื่อแล้วพี่ปวดหัว" หญิงสาวว่าพลางยกสองมือขึ้นอุดรูหูอย่างไม่อยากจะได้ยิน
"แล้วเจนซี่จะทำยังไง" สามหนุ่มเอ่ยถามขึ้นมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย อันนั้นก็ไม่เอา อันนี้ก็ไม่ได้ รู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองไม่คิดจะมีครอบครัวมาตั้งแต่แรกก็ไม่น่าจะไปรับปากพ่อเอาไว้แบบนั้น แล้วพ่อนี่ก็ช่างกระไรก็ในเมื่อพวกเขาทั้งสามมีหลานชายไว้สืบสกุลถึงสิบคนแล้วแท้ๆ แต่ก็ยังจะเอาแต่ใจบังคับให้อนัญติญามีแต่งงานมีลูกอย่างกับคนไม่เคยมีหลานไปเสียได้
"ก็ต้องจ้างใครสักคนแหละ มันต้องมีบ้างแหละสักคนที่มันยังโสด" ยิ่งคิดถึงเธอก็ยิ่งเครียด เธอเคยคิดว่าถ้าหากบรรดาพี่ชายและน้องชายนั้นมีหลานให้พ่ออุ้มเยอะๆ แล้วคงจะละความพยายามให้เธอแต่งงานไปเอง แต่ที่ไหนได้ยิ่งนานวันเข้าความต้องการของพ่อในข้อนี้ก็ยิ่งเพิ่มพูลทวีคูณ
"เจนซี่" จอนนี่เอ่ยเรียกน้องสาวและยกสองมือขึ้นแตะไหล่เล็กนั้นเบาๆ "ไม่เห็นจำเป็นจะต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ ยิ่งสิ่งที่รู้อยู่แก่ใจว่าไม่มีวันที่จะทำได้ ก็อย่าฝืน"
เขาไม่อยากจะพูดอะไรมากนักด้วยรู้ดีว่าแท้จริงแล้วน้องสาวนั้นไม่ได้ปรารถนาที่จะอยู่คนเดียวอย่างที่ปากนั้นเอ่ยออกมา เขารู้ว่าน้องสาวเขามีความรักและรู้ดีว่าคนๆ นั้นเป็นใคร หากแต่เขาก็คงไม่มีความกล้าพอที่จะเอ่ยถามถึงความจริงข้างในหัวใจในข้อนี้ของน้องสาว แม้จะอยากรู้มากแค่ไหนแต่มารยาทและความเกรงใจต่อคนในครอบครัวก็ต้องมีมากกว่าเสมอ
"พี่จอน เจนซี่ขอโทษนะคะ" ดวงตาคู่สวยหลุบลงเพื่อหลบสามสายตาที่กำลังมองมาคล้ายจะคาดคั้นคำตอบ
"ยังไงเจนซี่จะลองคัดเลือกอีกทีค่ะ แต่เจนซี่ก็คงจะมีลูกไม่ได้แล้ว แก่เกิน" แม้ปากจะหัวเราะแต่ข้างในใจนั้นกลับมีแต่น้ำตา เธออยากมีลูกใจจะขาดแต่หากไม่ใช่กับคนที่เธอรักเธอเองก็คงไม่คิดจะมีลูกกับใครที่...ไม่ใช่เขาคนนั้น
สามหนุ่มที่รู้ดีว่าเสียงหัวเราะนั้นไม่ได้ดังมาจากในใจก็ได้แต่สบตากันแต่ก็ไม่รู้จะช่วยให้อนัญติญายอมรับหัวใจของตัวเองเสียที
"กอดนะเจนซี่" และสิ่งที่พวกเขาพอจะทำได้ในตอนนี้ก็คงจะมีเพียงแค่สวมกอดร่างสูงโปร่งนั้นเอาไว้เพื่อจะสื่อให้เธอได้รับรู้ว่า เธอยังมีพวกเขาคอยเคียงข้างเสมอ
หลังจากเกิดเหตุการณ์ในวันนั้นเจนซี่ก็เลือกที่จะปิดร้านเป็นการชั่วคราวจนกว่าที่เธอจะเสาะหาคนที่เหมาะสมมาทำหน้าที่สามีให้กับเธอได้
และเธอก็หวังเอาไว้เป็นอย่างยิ่งว่าการมีสามีจะทำให้เธอหลุดพ้นไปจากการรุกรานของชายรุ่นน้องอย่างจ้าวฮายได้เสียที...
ถ้าใครพอจะจำได้ อรรถพลหรือจอร์แดน แต่งงานกับกระเจี๊ยบ พิยดาจากเรื่อง come-Later วาสนาเมีย(น้อย) มีลูกด้วยกันสามคนคือ เจนซี่ และเจสันกับจัฟฟี่ลูกชายฝาแฝดอีกสองคน (อ่านฟรีย้อนหลังได้ที่แอปธ*****ยน๊า)
ป.ล. ลงตอนผิดค่า แก้ไขแล้วนะคะ ใครที่อ่านไปก่อนหน้านี้อย่าพึ่งว่ากันน้า