เวลาต่อมา
“สุดยอดเลยว่ะเจ๊...” น้ำชาส่ายหน้าให้กับเสียงของต้น เธอคว้าเอาฮู้ดตัวโคร่งมาสวมใส่ ก่อนจะหยิบหมากฝรั่งมาเคี้ยว
“สนุกโคตร คิดถึงตอนเรียนเลยว่ะ” หญิงสาวไม่ได้สนใจเสียงของคนเป็นเพื่อนที่กำลังพูดคุยกันถึงเรื่องในอดีตสมัยเรียน เธอนั่งลงที่โซฟาตัวยาวก่อนจะล้วงเอาโทรศัพท์ออกมาดู น้ำชาจำได้ว่าก่อนจะร้องเพลงเธอมีสายเรียกเข้า แต่พอเห็นหมายเลขเท่านั้นแหละ
“ไอ้บ้าเอ๊ย...” หญิงสาวสบถออกมาทันทีเมื่อจำได้ว่าเจ้าของเบอร์ที่ไม่ได้รับนี้เป็นใคร
“เจอหน้าจะขอเตะก้านคอให้” คิดได้ดังนั้นหญิงสาวก็กดโทรกลับทันที เธออยากเจอไอ้ผู้ชายไร้ความรับผิดชอบคนนี้ ซึ่งรอไม่นานอีกฝ่ายก็กดรับ
ติ๊ด!
[ฮัลโหลครับ เอ่อ...ผมมาทันหรือเปล่าครับ ตอนนี้ผมอยู่ฟรายเดย์] น้ำชาแค่นหัวเราะ เธอลุกขึ้นยืนพร้อมกับยกมือบอกให้เพื่อน ๆ หุบปาก ซึ่งเพื่อนพวกเธอก็กำลังจะถามพอดิบพอดี
“ทัน ฉันยังไม่กลับ” หญิงสาวว่าพร้อมกับเดินออกจากห้องพักนักดนตรี เธอเคี้ยวหมากฝรั่งด้วยท่าทางอารมณ์ดี ก่อนจะคายทิ้งใส่ถังขยะระหว่างทางเดิน น้ำชาอารมณ์ดีที่จะได้ชกหน้าเจ้าของปลายสายนี้
[จริงเหรอครับ ผมอยู่โซนบาร์เทนเดอร์นะครับ”
“อ๋า...ใส่เสื้อสีอะไร”
[เชิ้ตขาวครับ เอ่อ...แล้วคุณล่ะ]
“เดี๋ยวนะ ใส่เสื้อสีไรนะ” น้ำชาชะงักฝ่าเท้า เธอยืนมองผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังหันซ้ายหันขวา เธอจำได้ว่าเจ้าของร่างสูงนี้เป็นใคร เขาล้วงมือในกระเป๋ากางเกงข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างยกโทรศัพท์แนบหู
[สีขาวครับ คุณอยู่ตรงไหนครับ]
“ข้างหลังนาย...”
[หืม...] ติณณภพที่ได้ยินอย่างนั้นเขาหันขวับไปทางด้านหลังในทันที ร่างหนาชะงักนิ่งค้าง เขาขมวดคิ้วด้วยความตกใจระคนดีใจในเวลาเดียวกัน เช่นเดียวกับน้ำชา เธอมองชายหนุ่มเจ้าของนัยน์ตาสีนิลนี้ ร่างหนากำยำของเขาคนนี้ทำให้เธอเผลอไล่สายตามองอย่างลืมตัว ชายหนุ่มสูงเกือบหนึ่งร้อยเก้าสิบ ผมสีน้ำตาลของเขาทำให้ใบหน้าหล่อเหลาขาวผ่องเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ริมฝีปากหยักได้รูปสีแดงสดนี้ยกยิ้มขึ้น ไม่รู้ว่าพรหมลิขิตหรือเกิดอะไรขึ้น ทำไมคู่กรณีของเขาคือเจ้าของบทเพลงก่อนหน้านี้
“บ้าเอ๊ย...” น้ำชาสบถออกมา เธอลดโทรศัพท์ลงก่อนจะ หันไปคว้าเอาแก้วเหล้าที่วางอยู่บนโต๊ะเหล้าโต๊ะหนึ่ง หญิงสาวเดินเข้าหาชายหนุ่มรูปงาม
“หึ น่าเสียดายจังที่ผมดื่มด้วย....”
ซ่า!!
“ไอ้บ้า! ขับรถอะไรของนาย ไม่มีตาหรือไงถึงไม่เห็นว่ามีรถจอดอยู่ บ้าชะมัด!!” หญิงสาวโวยออกมาเสียงดังลั่น ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันที่เสียงเพลงได้เงียบลง ขณะที่ติณณภพยังคงตกใจกับน้ำเมาที่เจ้าหล่อนสาดใส่หน้าของเขา ชายหนุ่มกำลังจะบอกว่าเขาเสียดายที่ดื่มกับเธอไม่ได้เพราะต้องเข้างานพรุ่งนี้เช้า ซึ่งเสียงร้องโวยวายของเธอก็ทำให้เขานิ่งงัน
“ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ เรื่องรถ...ผมยินดีชดเชยให้คุณทุกอย่างเลย”
“_”
“ชื่ออะไรครับ ผมชื่อติณณ์ ติณณภพ”
“ไม่ได้ถาม”
“ครับ ผมอยากบอก”
“_”
“คุณสวยมากเลย” น้ำชาอ้าปากเหวอ เขาสบตากับเธอด้วยแววตาจริงจังจนหญิงสาวขมวดคิ้ว น้ำชาส่ายหน้าก่อนที่เธอจะหมุนตัวเดินหนีเขา ทว่าร่างหนาก็อาศัยความตัวโตกว่าเดินไปขวางหน้าเธอ
“เอ๊ะ!” หญิงสาวพ่นลมหายใจออกมา เธอมองหยดน้ำเมาที่กำลังหยดลงจากเส้นผมของเขา ทำเอาหน้าอกกว้างของคนตัวสูงตรงหน้าเปียกชุ่มไปด้วยหยดน้ำเมา
“หลีกไป ยิ้มอะไรของนาย”
“คุณจำผมได้ไหม ผมที่ไปเคาะประตูห้องคุณเมื่อวาน”
“_”
“ดีใจที่ได้เจออีกครั้งครับ”
“ไอ้บ้า...หลีกไปอย่าหาว่าฉันไม่เตือน” น้ำชาชักจะโมโห ผู้ชายหน้าม่อคนนี้ เขายิ้มแป้นแล้นให้เธออยู่ได้
“โอเคครับ ว่าแต่จะให้ผมชดเชยยังไงดีครับ”
“ไม่ต้อง ฉันไม่ต้องการ”
“แต่ผมไม่สบายใจน่ะครับ” น้ำชากลอกตามองบน เธอสบตากับเขาก่อนจะยกมือขึ้นกอดอก
“ไปหัดขับรถให้ดี ๆ เถอะ อย่าไปชนใครอีก เพราะคราวหน้าอาจจะเป็นใครสักคนที่ต้องเจ็บตัว ถึงตอนนั้นคำขอโทษของนายก็คงไม่มีความหมาย” หญิงสาวว่าเสียงจริงจัง ซึ่งถ้อยคำของเธอก็ทำให้เขาชะงักไป กว่าจะรู้ตัวอีกทีสาวเจ้าก็หมุนตัวจากไปเสียก่อน
ติณณภพยกยิ้ม เขาไม่เคยถูกชะตากับใครได้มากเท่านี้มาก่อน ใบหน้าสวยหวานของเธอ แววตาน่าค้นหา เสียงพูดและยิ่งเสียงร้องเพลงก่อนหน้านี้ของเธออีก เธอทำให้เขาเคลิบเคลิ้มโดยไม่ต้องพยายามเหมือนกับผู้หญิงคนอื่น
คุณหมอหนุ่มยกยิ้มอีกครั้งให้กับเจ้าของแผ่นหลังบาง เขาคิดว่าคงได้เจอเธออีก หากว่าได้เจอเธออีกครั้ง มันคงเป็นพรหมลิขิต ซึ่งพรหมลิขิตที่เกิดขึ้นนี้อาจจะเป็นรักแท้ของเขาก็ได้
“หึ...” คุณหมอหนุ่มส่ายหน้าให้กับความเพ้อเจ้อของตัวเอง และขณะนั้นเอง
ครืดดด ครืดดด~
เสียงโทรศัพท์ของเขาก็ได้ดังขึ้น ติณณภพล้วงโทรศัพท์ขึ้นมา ก่อนที่เขาจะกดรับเมื่อเห็นปลายสาย
[หมอติณณ์คะ คนไข้พรีเมี่ยมจะเข้ามาพบค่ะ]
“เวลานี้น่ะเหรอ ตีหนึ่งเนี่ยนะ”
[เอ่อ ค่ะ ผอ. โทรมาเมื่อกี้เลยค่ะ]
“มันเลยเวลางานผมแล้วนะ”
[หมอติณณ์มาที่นี่ก่อนนะคะ ค่อย...] ติณณภพดึงโทรศัพท์ออกจากหูเมื่ออยู่ ๆ เขาก็พบความผิดปกติบางอย่าง ชายหนุ่มไม่ได้สนใจเสียงของพยาบาลที่โทรมา เขากำลังสงสัยอะไรบางอย่างที่กำลังเกิดขึ้นนี้
คิ้วหนาขมวดด้วยความสงสัยให้กับเสียงฮือฮาที่เกิดขึ้น การตีวงออกราวกับล้อมอะไรบางอย่างทำให้ฝ่าเท้าหนาก้าวขาเดินในทันที ก่อนที่เขาจะได้ยินเสียงคุ้นหู
“ปล่อย!! ฉันบอกว่าไม่ ไม่ได้ยินหรือไง!!”
“ไม่อะไรล่ะคนสวย ฉันชอบเธอมากเลยเมื่อกี้บนเวที” ติณณภพกำลังจะแหวกผู้คนเพื่อไปช่วยเจ้าของเสียงนี้ หญิงสาวที่เขาเพิ่งคุยด้วยเมื่อครู่กำลังถูกฉุดกระชากจากฝีมือผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งไม่ทันที่เขาจะได้เข้าไปช่วยอะไร น้ำชาเจ้าของสายดำเทควันโดก็ปล่อยหมัดใส่ใบหน้าชายหนุ่มร่างใหญ่คนนี้เสียก่อน
ผลั๊วะ!!
ตุ๊บ!
“ไอ้บ้าเอ๊ย!” น้ำชาชักจะทนไม่ไหว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ในคลับที่เธอไปเล่นดนตรี เมื่อใดที่เธอร้องเพลงโดยเปิดหน้าเหมือนกับวันนี้ ก็มักจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นซ้ำ ๆ
ซึ่งชายหนุ่มที่ล้มลงไปกองกับพื้น เขายันมือกับพื้นพร้อมกับมองออกไปรอบกาย ผู้คนที่เริ่มยกโทรศัพท์ขึ้นอัดวิดีโอพร้อมกับหัวเราะนั้นทำให้เขารู้สึกอับอาย ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มชายฉกรรจ์สามคนได้ปรี่เข้ามาในวงล้อม ซึ่งเป็นเพื่อนในวงของเธอเอง ติณณภพจำได้
“ชา! เกิดไรขึ้นวะ”
“น่าเบื่อฉิบหาย” เจมส์จับแขนของเพื่อนสาวพลิกไปมาเพื่อเช็กว่าเพื่อนคนนี้ได้บุบสลายหรือไม่ ขณะที่ต้นก็ได้ยื่นมือไปดึงฮู้ดของน้ำชาขึ้นไปสวมให้เธอ
“กลับกัน...” เป็นกั้งที่พูดขึ้น พอได้ยินอย่างนั้นน้ำชาก็หันหลังในทันที ทว่าขณะนั้นเองที่ชายร่างใหญ่คนที่เธอเพิ่งชกใบหน้าไปเมื่อครู่กำลังคิดจะทำอะไรบางอย่าง
เขามองเห็นขวดเหล้าที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ ชายหนุ่มลุกพรวดขึ้นไปคว้าเขาคอขวดเหล้านั้นก่อนที่เขาจะฟาดมันใส่ขอบโต๊ะจนขวดเหล้ากลายเป็นปากฉลาม
เพล้ง!!
“ชา!!...” เสียงร้องเรียกชื่อของเจมส์ ทำให้น้ำชาเงยหน้าขึ้นมองคนเป็นเพื่อน ซึ่งไม่ทันที่เธอจะได้พูดอะไร เจมส์ก็เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วพร้อมกับดึงร่างบางของเพื่อนสาวเข้ามาในอ้อมกอด
จึก!!
“ไอเจมส์!!” ดวงตาของคนเป็นเพื่อนเบิกกว้างขึ้นให้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนจะเป็นต้นที่ตั้งสติได้ก่อน เขากระโดดถีบร่างหนาของชายฉกรรจ์ที่เพิ่งใช้ขวดปากฉลามแทงเพื่อนของเขาไป ร่างของมันล้มลงอย่างแรง ก่อนที่กั้งจะเข้าไปซัดหน้าของมันจนเละ
ปึก!! ปึก!! ปึก!!
เหตุการณ์ชุลมุนเกิดขึ้นด้วยความรวดเร็วและอยู่ในสายตาของคุณหมอหนุ่มตลอด เขากำลังจะช่วยเธอแต่มันก็ไม่ทันเสีย โชคยังดีที่เพื่อนของเธอที่อยู่ใกล้กว่าเคลื่อนตัวไปบังปลายแหลมคมของขวดเหล้านั้นได้ ทว่าตำแหน่งที่เพื่อนของเธอถูกแทงนั้น...
“ไอ้เจมส์!! มึงทำบ้าอะไรของมึง!!” น้ำชามือสั่นเทา ร่างบางเปื้อนไปด้วยเลือดที่กระฉูดออกมาจากแผลทางด้างหลังของเจมส์
“อิเจ๊ เกือบตายแล้วไหมมึง”
“อึก มึงนั่นแหละจะตาย ฮือออ~ ไม่ต้องพูดนะ อึก กู จะ โทรหาโรง'บาล”
“กูโทรเอง...มึงดูมัน” ต้นที่เพิ่งซัดหน้าคนก่อเหตุจนสลบไปได้เอ่ยพูดขึ้น เขาคิดว่าน้ำชาคงไม่มีสติพอจะคุยกับทางโรงพยาบาลได้
“จะ เจมส์หายใจเข้าลึก ๆ นะ อึก มึงรู้ใช่ไหมว่าพี่กู อึก พ่อกูเป็นหมอ” น้ำชาเลื่อนฝ่ามือเปื้อนเลือดไปตบหน้าคนเป็นเพื่อนเบา ๆ เพื่อเรียกสติ ขณะที่เจมส์สะลึมสะลือใกล้จะหมดลมหายใจเต็มที และขณะนั้นเอง
“หลีกทางด้วยครับ ผมเป็นหมอ...” ติณณภพเดินแหวกผู้คนที่กำลังให้ความสนใจกับเหตุการณ์สะเทือนขวัญ ในมือของเขามีกล่องพยาบาลอยู่ ชายหนุ่มวิ่งกลับไปเอาที่รถทันทีที่เห็นว่ามีผู้บาดเจ็บ
“มึงทำใจดี ๆ นะ อึก กูกำลังโทรหาพี่กู” น้ำชายกโทรศัพท์แนบหูเพื่อต่อสายหาพี่ชายที่เป็นแพทย์ อย่างน้อยตอนนี้พี่ของเธออาจจะช่วยแนะนำเธอได้ ก่อนที่หญิงสาวจะชะงักให้กับการปรากฏตัวของใครบางคน
“ปล่อยให้ผมจัดการนะ ผมเป็นหมอ”