การกลั้นเสียงร้องไห้ของเตชินท์ยิ่งทำให้ติณณภพรู้สึกอยากเข้าไปประทุษร้ายชนิตา หลายครั้งที่เธอตั้งใจทำให้เขาเห็นว่าเธอจะทำอย่างไรกับคนเป็นลูก ถ้าเขายังคงไม่ให้ความสนใจเธอ
“อ้อ ลืมไปเลยนะคะ นึกว่าไม่อยู่แล้ว” ชนิตาเหยียดยิ้ม เธอมองหญิงชราด้วยแววตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
“หึ ก็จะอยู่ดูหายนะของเธอไง” ช่อฟ้านั้นดูคนออก เธอรู้ว่าชนิตาเป็นคนอย่างไร ในตอนที่รู้ว่าคนเป็นหลานทำผู้หญิงท้อง ใจของคนชราอย่างเธอก็อดดีใจไม่ได้ ทว่าพอเห็นว่าหลานสะใภ้เป็นคนอย่างไร ความรู้สึกกล้ำกลืนก็เกิดขึ้นกับเธอ
“เธอเคยบอกว่าจะให้เตมาหาฉัน ในวันเสาร์อาทิตย์ แล้วทำไมไม่ทำตามที่พูด เธอมาทำไม”
“หึ เปลี่ยนใจไง” ชนิตายกแขนขึ้นกอดอก เธอก้มหน้าลงมองคนเป็นลูกพร้อมกับใช้สายตาข่มให้เตชินท์หยุดสะอื้นไห้เสียที “เปลี่ยนใจ ถ้าจะให้เตมาหา ก็ให้มิ้งมาหาด้วย ไม่งั้น...ก็ไปหาเตอย่างเดียว”
“_”
“หรือไม่งั้น ก็ไม่ต้องเจอเตชินท์อีก” เด็กเล็กที่รู้ความแล้วอย่างเตชินท์ เขาเกิดความสับสนภายในใจ อยากจะเดินออกไปให้ไกลจากเสียงทะเลาะของคนเป็นพ่อแม่
“เต...” ติณณภพเดินเข้ามาใกล้ เขานั่งยอง ๆ ลงตรงหน้าบุตรชาย “ไว้พ่อไปหานะ...ถ้าเตอยากมาหาพ่อ เตโทรมานะ”
“อึก...” เด็กชายหลบสายตาคนเป็นพ่อ เขาโทรมาหาไม่ได้หรอก หากทำอย่างนั้น...แม่ของเขาคงไม่พอใจ
หมับ!
“กลับ!” หญิงสาวคว้าแขนเล็กของบุตรชาย ก่อนที่เธอจะกึ่งลากกึ่งจูงออกจากบ้านหลังใหญ่นี้ ทำเอาหัวใจของติณณภพปวดหนึบขึ้นมา จนแล้วจนรอดคนตัวโตก็ทนไม่ไหว
“มิ้ง!!” เสียงเรียกของติณณภพทำให้ชนิตาหยุดเดิน เธอยกยิ้มมุมปากก่อนจะหันไปหาเขา “ฉันรู้ว่าเธอยังไม่ได้กินอะไร”
“หึ...จะชวนไปกินข้าวสินะ มิ้งไม่อยากกินที่นี่” น้ำเสียงของเธออ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด ชนิตาได้ใจเมื่อเห็นว่าเขามีท่าทียอมให้กับเธอ
“ไปกินข้างนอกไง” พอได้ยินอย่างนี้ ชนิตาก็หันหน้าไปมองหญิงชรา เธอไหวไหล่ให้กับท่านอย่างเหนือกว่า ซึ่งท่าทีของอดีตหลานสะใภ้ทำให้ช่อฟ้าเดินออกจากห้องรับแขกในทันที ก่อนที่ชนิตาจะเลื่อนสายตามามองชายคนรักอีกครั้ง
“ที่เดิมของเรานะ” หญิงสาวฉีกยิ้มกว้าง ก่อนที่ติณณภพจะเดินมาหาบุตรชาย เขายื่นฝ่ามือไปคว้ามือเล็กของเตชินท์
“ไม่ร้องนะ เตอยากกินอะไร” ความรู้สึกอบอุ่นที่ฝ่ามือทำให้ดวงหน้าเล็กของเด็กชายผ่อนคลายลง เขากลัวคนเป็นแม่ตีจนไม่กล้าทำอะไร ทว่าพอเห็นคนเป็นพ่อทำอย่างนี้ เด็กชายก็รู้สึกดีขึ้นมา
“หิวข้าว เตยังไม่ได้กินข้าวเลยครับ” ติณณภพยีผมนุ่มของคนเป็นลูกอย่างเอ็นดู ก่อนที่เขาจะเดินจูงมือคนเป็นลูกออกจากบ้านไป และแน่นอนว่าทันทีที่ชนิตาเห็นอย่างนี้ หญิงสาวก็รีบเดินมาควงแขนของเขาในทันที ซึ่งชายหนุ่มก็ไม่ได้สะบัดออกอย่างที่ควรจะเป็น เขาต้องทำให้เธอใจเย็นก่อนไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดเรื่องไม่ดีกับเตชินท์ ขณะเดียวกันแม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าชายหนุ่มข้างกายยอมเธอเพราะอะไร แต่ชนิตาก็รู้สึกดีใจ
@The best restaurant
ภัตตาคารหรูใจกลางเมืองเป็นร้านอาหารที่เขาและเธอมากินบ่อยครั้ง ชนิตาทำหน้าไม่พอใจที่ติณณภพไม่ได้สนใจเธอเท่าที่เธอต้องการ หญิงสาวมองหน้าของเขาที่กำลังชวนเตชินท์คุย
“มิ้งอยากซุปครีมขิง” น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความฉุนเฉียวทำให้ติณณภพเลื่อนสายตามามองเธอ เขานั่งอยู่ฝั่งเดียวกับเตชินท์ ขณะที่สาวเจ้านั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ท่าทีของเธอก็บอกแล้วว่าหญิงสาวต้องการอะไร เห็นอย่างนั้นฝ่ามือหนาก็ยกมือขึ้นเรียกบริกรในทันที
“ซุปครีมขิงเพิ่มครับ”
“น้ำด้วย...”
“สั่งไปแล้วไม่ใช่เหรอ” ชนิตาขมวดคิ้ว เธอพยักหน้าให้กับเขา อย่างน้อยชายหนุ่มตรงหน้าก็จำได้ว่าเธอสั่งไปแล้ว
“เตมานั่งข้างแม่...”
“แต่...”
“เต...แม่บอก”
“พอเหอะน่า เตนั่งข้างฉันก็ได้”
“ไม่ได้ ติณณ์ไม่มองหน้ามิ้งเลย” ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกมา ขณะที่เตชินท์ก็ได้ย้ายที่นั่งตามที่คนเป็นแม่ต้องการ ก่อนที่เธอจะชวนติณณภพคุย
“ตอนนี้มิ้งไปเรียนทำอาหาร”
“อืม ก็ดีแล้วนี่” ชนิตาขมวดคิ้ว เธออยากให้เขาถามเธอมากกว่านี้
“เชฟสอนไม่เข้าใจ ทำไม่อร่อยเท่าติณณ์ทำเลย”
“_”
“สอนมิ้งทำอาหารบ้างสิ”
“ไม่ได้หรอก ต้องทำงาน” เขาตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก ติณณภพมองเตชินท์ที่กำลังกินข้าวอยู่ ตัวเล็กได้อาหารก่อนใครเพื่อน ดูท่าแล้วบุตรชายคงหิว
“ก็วันหยุดไง แบบนี้ก็ได้...วันเดียว”
“ไม่ดีหรอก เธอก็ไปเรียนนั่นแหละ”
“จิ๊ อะไร ๆ ก็ไม่ได้!” หญิงสาวชักสีหน้าไม่พอใจ เธอกำลังจะพูดต่อว่าเขา ทว่าบริกรก็นำซุปครีมขิงที่เธอต้องการมาเสิร์ฟเสียก่อน หน้าตาของซุปในถ้วยน่ากินจนทำให้เธอเงียบเสียงไป มือบางรีบหยิบช้อนเล็กขึ้นตักน้ำซุปชิมทันที ทว่าความร้อนของมันทำให้หญิงสาวทิ้งช้อนในมือลง
เพล้ง!
“โอ๊ย! ร้อน! ทำไมไม่บอกว่ามันร้อน!” ชนิตาลุกขึ้นยืน เธอต่อว่าพนักงานเสิร์ฟอาหารในทันที ทำเอาชายหนุ่มที่มาด้วยรีบลุกขึ้นยืนเช่นกัน
“เอ่อ ผมขอโทษครับ”
“ไม่เป็นไรครับ”
“จะไม่เป็นไรได้ไงติณณ์ มิ้งปากบวมเลยเห็นไหม” ชนิตาโมโหเสียยิ่งกว่าเดิม เธอตวัดสายตามองบริกรคนนี้ด้วยแววตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ แม้ว่าเขาจะกล่าวขอโทษแล้ว
“ฉันต้องการคุยกับผู้จัดการร้าน”
“มิ้ง...มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แล้วทำไมเธอไม่ดู มันมีไอร้อนซะขนาดนั้น”
“ติณณ์กำลังจะบอกว่ามิ้งไม่ดูงั้นเหรอ ติณณ์!” ชนิตาขึ้นเสียงอย่างไม่พอใจ ชายหนุ่มตรงหน้าก็ไม่เข้าข้างเธอ แถมเขายังต่อว่าเธอต่อหน้าคนอื่นอีก
“ผมต้องขอโทษจริง ๆ ครับ”
“ขอโทษเหรอ? ฉันต้องการคุยกับผู้จัดการ อ้อ...ถ้าผู้จัดการออกมาก็น่าจะรู้ว่าฉันเป็นใคร” หญิงสาวยกแขนขึ้นกอดอก ยิ่งเห็นอดีตสามีทำอย่างนี้เธอก็ยิ่งโกรธและอยากเอาชนะ ขณะเดียวกันพฤติกรรมของชนิตาก็ทำให้ติณณภพส่ายหน้า เขาหันไปหาคนเป็นลูก
“เต...อิ่มหรือยังครับ”
“เอ่อ...อิ่มแล้วครับ” ติณณภพพยักหน้า เขากำลังจะเดินอ้อมโต๊ะไปหาคนเป็นลูก ทว่า
“ติณณ์จะไปไหน ไม่เห็นหรือไงว่ามิ้งจะคุยกับผู้จัดการร้าน”
“เธอก็คุยไปไง”
“ติณณ์รำคาญมิ้งเหรอ ทำไมทำหน้าแบบนั้น” หญิงสาวกำมือเข้าหากันแน่น เธอไม่ชอบเอาเสียเลย...ใบหน้าของเขาในตอนนี้
“หึ...เหนื่อยไง ฉันเหนื่อยกับเธอ”
“แล้วติณณ์จะไปไหน!!”
“_”
“เต อย่าไป...แม่บอกว่าอย่าไป!” เสียงตะคอกของมารดาทำให้เด็กชายสะดุ้ง ขณะเดียวกันการกระทำของชนิตายิ่งทำให้เจ้าของร่างหนารู้สึกเอือมระอาเต็มทน
“มิ้ง...ฉันกับลูกจะออกไปรอข้างนอก ถ้าเธอคุยเสร็จก็แค่ตามมา แค่นั้น”
“แล้วทำไมติณณ์ไม่ช่วยมิ้งคุย” ติณณภพข่มเปลือกตาปิดลง เขารู้สึกเหนื่อยเกินจะทนไหว เธอคนนี้ไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าตนกำลังทำเรื่องไม่ดี “หรือติณณ์ไม่ได้สนใจมิ้ง...ใช่ไหม อ้อ...หรือรีบไปหาอีกะหรี่นั่น”
“มิ้ง!”
“เหอะ ดูเอาไว้นะเต พ่อเตน่ะ...เจ้าชู้ไม่เปลี่ยน ทำแบบนี้กับแม่ เตยังจะไปกับพ่ออีกเหรอ”
หมับ!!
“อ๊ะ!!....ตะ ติณณ์” ชนิตายังพูดไม่ทันจบฝ่ามือหนาก็ยื่นมาจับต้นแขนของเธอไว้ ชายหนุ่มบีบต้นแขนเล็กของเธอจนหญิงสาวเบ้หน้า
“ฉันมีความอดทนของฉัน ถ้าเธอยังทำแบบนี้อีก...อย่าหาว่าฉันไม่เตือน” เขาเค้นเสียงใส่หน้าของเธอ ก่อนจะเลื่อนฝ่ามืออีกข้างไปคว้าเอาต้นแขนของบุตรชาย ทว่า
“เตชินท์...”
“เตจะอยู่กับแม่ ฮึก...” ใบหน้าเล็กของเด็กชายแดงก่ำ เตชินท์ไม่อาจกลั้นความรู้สึกที่อยู่ภายในใจของตนได้อีกต่อไป เขาร่ำไห้ออกมาในที่สุด “ฮืออ~ พะ พ่อปล่อยแม่ ฮืออ...”
ติณณภพปล่อยมือออกจากต้นแขนของชนิตาในทันทีตามคำร้องขอของบุตรชาย ก่อนที่เธอจะยกมือขึ้นลูบต้นแขน ร่างหนาไม่ได้สนใจความเจ็บปวดของเธอแม้แต่น้อย เขาโน้มหน้าลงเพื่อคุยกับคนเป็นลูกที่ตอนนี้เอาแต่ก้มหน้าร้องไห้
“เต...ไปอยู่กับพ่อไม่ได้เหรอ หืม”
“ฮึก...ฮืออ~” เตชินท์ไม่ตอบคำถามของคนเป็นพ่อ ไม่ใช่ว่าไม่อยากไปอยู่กับคนเป็นพ่อ เด็กชายแค่รู้สึกสงสารแม่ของเขาเพียงแค่นั้น
“เตมาหาแม่...” เพียงแค่เสียงคำสั่งจากปากชนิตา คนเป็นลูกก็ก้าวขาเดินไปหา เขาก้มหน้าหนีใบหน้าคนเป็นพ่อ ขณะเดียวกันการกระทำของเตชินท์ก็ทำให้ชายหนุ่มจนปัญญา เขาไม่รู้ว่าชนิตาบอกอะไรกับคนเป็นลูกบ้าง ทำไมเตชินท์มีท่าทีหวาดกลัวมากขนาดนี้
“หึ ถ้าอยากเจอเตอีก ก็ไปหา...มิ้งไม่ให้เตไปบ้านหลังนั้นอีกแล้ว”
“อะไรนะ เราคุยกันแล้วไม่ใช่หรือไงเรื่องนี้”
“ก็บอกว่าเปลี่ยนใจแล้ว ถ้าติณณ์อยากเจอเตอีกก็มาหามิ้งที่บ้านมิ้ง” ก้อนน้ำลายเหนียว ๆ ถูกกลืนลงคอ ติณณภพเลียริมฝีปากเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะข่มเปลือกตาปิดลงเพื่อระงับอารมณ์โมโหที่เกิดขึ้น
“เธอต้องการอะไรมิ้ง...ทำไมไม่พอสักที”
“ครอบครัว มิ้งอยากให้ติณณ์กลับมาอยู่กับมิ้ง...กับลูก” ติณณภพชะงักให้กับคำตอบของเธอ เขายกมือขึ้นเท้าเอวทั้งสองข้าง ดวงตาคมจับจ้องเข้าไปนัยน์ตาสีดำสนิทนั้น ใบหน้าสวยเฉี่ยวของเธอไม่ได้เรียกให้เขาสนใจ ชายหนุ่มส่ายหน้าเล็กน้อย เขาก้มหน้าลงมองบุตรชายอีกครั้ง
“พ่อขอโทษนะเต...พ่อทำไม่ได้” น้ำเสียงทุ้มลึกสั่นหวั่น ชายหนุ่มไม่อาจทำตามสิ่งที่ชนิตาพูดได้ เขาไม่สามารถทำมันได้แม้ว่าจะอยากอยู่กับลูกตลอด
“กลับกับแม่...เตชินท์” ชนิตาไม่รอคุยกับผู้จัดการอย่างที่ต้องการ หญิงสาวไม่อยากกลายเป็นคนแพ้ให้เขาเดินหนีเหมือนอย่างที่เคยเป็น ร่างบางกึ่งลากกึ่งจูงเด็กชายออกจากร้านอาหารหรู ปล่อยให้ติณณภพทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้ราวกับชีวิตไร้หนทาง
ขณะเดียวกันความรู้สึกไม่พอใจในตัวบุตรชายก็เพิ่มขึ้น ชนิตาลากแขนเตชินท์ไปในที่ลับตาคน ก่อนที่เธอจะฟาดฝ่ามือลงกลางแผ่นหลังของเด็กชาย
ปึก!
“อึก!!....”
“แม่บอกแล้วใช่ไหมว่าให้เตทำอะไร!”
“อึก...ตะ เต ยังไม่ได้คุย ฮืออ....” เสียงร่ำไห้ของบุตรชายไม่ได้ทำให้ชนิตาใจเย็นลง เธอใช้เล็บคม ๆ หยิกลงกลางแผ่นหลังของเขาซ้ำอีก
“ไม่ว่าพ่อจะทำอะไรให้เตโทรหาแม่ แม่พูดให้เตบอกแม่...แม่ให้ถามว่าพ่อจะนอนไหน ถามหรือยัง!!”
“ถะ ถามแล้ว”
“ทำไมเตไม่โทรบอกแม่ หืม...”
“อึก จะ เจ็บ...”
“เพราะเตเป็นแบบนี้แม่เลยลงโทษ เตไม่รู้เหรอว่าพ่อจะไปนอนกับผู้หญิงคนอื่น! หึ้ย! ไม่ได้ดั่งใจ โง่!” น้ำเสียงที่ตะคอกออกมาทำให้เตชินท์ห่อไหล่ขึ้น เขาตกใจให้กับเสียงของคนเป็นแม่ ก่อนที่ชนิตาจะปล่อยมือออกจากเนื้อตัวของเด็กชาย เธอกระแทกเสียงออกมาด้วยความรู้สึกโกรธเคืองในความไม่รู้เรื่องรู้ราวของตัวเล็ก หญิงสาวสั่งอะไรเขาก็ทำให้ไม่ได้สักกะอย่าง
“ขะ ขอโทษครับ ฮึก...ฮืออ พ่อบอกว่านอนคอนโด อึก...”
“เหรอ..ก็แค่นี้” หญิงสาวพยักหน้ารับรู้ แค่นี้ก็ง่ายต่อการติดตาม อย่างน้อยเธอจะได้รู้ว่าเขาพาใครมานอนด้วยอีก...หญิงสาวจะได้กำจัดง่าย ๆ