สองคนกรีดร้องพร้อมกัน เมริยาจ้องมองตนเองผ้าห่มเลื่อนลงมาจนเกือบถึงเอว ร่างไร้ซึ่งอาภรณ์ใดปกปิดรีบดึงผ้ากลับมากระชับไว้ กันตธรเมินหนีใบหน้าเรียวคมแดงก่ำเปิดผ้าก้มมองตนเองยังเบื้องล่าง ไม่อยากเชื่อเลยทำไมเขาถึงทำอะไรไร้สติแบบนี้ หาเรื่องให้ตนเองแท้ๆ คว้าผ้าเช็ดตัวมาพันรอบเอวหย่อนขาลงข้างเตียง อยากจะบ้าตายจำไม่ได้เลยสักอย่าง ถ้าทำมันต้องรู้สึกสิเขาคิดเช่นนั้น
“เป็นไปได้ยังไง ไม่เข้าใจเลย!”เขารำพึงกับตนเอง
“แกทำอะไรฉัน ทำไมทำกับฉันแบบนี้!”เมริยาต่อว่าน้ำตาคลอ ดึงผ้าห่มแล้วขยับห่างจากเขา
“บ้าหรือไง ผมยังไม่รู้ตัวเลยว่าทำอะไรลงไป ถ้าผมมีสติดีผมบอกเลยไม่มีทางที่ผมจะยุ่งกับผู้หญิงแบบคุณเด็ดขาด!”
เมริยากัดฟันจ้องมองดวงตาเขียวขุ่น หมายความว่ายังไงไอ้คำพูดแสนน่าเกลียดแบบนี้
“ผู้หญิงแบบฉันเป็นยังไงฮะ พูดให้มันดีๆ นะ!”หญิงสาวตวาดแว๊ด
“ก็อย่างที่เห็นไงล่ะ เมาแล้วไม่รู้จักระวังตัว ปล่อยตัวไปเรื่อย!”
“นี่คุณ ปากหรือไงที่พูดน่ะ!”
“แล้วคุณเห็นว่าเป็นอะไรล่ะ ถ้าไม่ใช่ปาก!”กันตธรย้อน ตอนนี้มันน่าหงุดหงิดเขาไม่อยากต่อปากต่อคำด้วยหรอก
ตกลงเธอเป็นคนผิดหรือไง ทั้งที่เสียใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาควรเอ่ยคำขอโทษเธอหรือไม่ก็ปลอบโยนแสดงท่าทีรับผิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่นี่อะไรนอกจากไม่มีคำขอโทษแล้ว ยังมีแต่ถ้อยคำถากถางเยาะเย้ย ไม่ให้เกียรติกันเลยสักนิด
“คุณทำกับฉันแบบนี้ แล้วยังมีหน้ามาว่าฉันอีกเหรอ!”หญิงสาวน้ำตาคลอ
“จะมาเรียกร้องเอาอะไร ปกติเรื่องพวกนี้คุณก็ทำอยู่แล้วเป็นประจำไม่ใช่หรือไง!”
คนฟังสะท้อนในอก คนภายนอกปกติมองเธอในแง่นี้อยู่แล้ว ไม่เว้นแม้แต่เขาไม่แปลกที่มันควรเป็นเช่นนี้ แต่กันตธรไม่มีสิทธิ์มาพูดจาแสนทุเรศ เหมือนต้องการย้ำกันให้จมดิน กันฟันข่มกลั้นมากกว่านี้ไม่ไหวเสียแล้ว จับหมอนข้างตัวฟาดลงบนลำตัวคนนิสัยเสีย
“หยุดเดี๋ยวนี้ คุณทำบ้าอะไร!”เขาตวาด แล้วปัดหมอนออก
“ปากดีนักใช่ไหม ผู้ชายเฮงซวย ไอ้คนไม่มีจิตสำนึก ขาดความรับผิดชอบ!”
กันตธรคว้าข้อมือสองข้างเพื่อให้อีกฝ่ายหยุดทำร้าย แต่ดูเหมือนเธอจะโกรธเสียจนหยุดไม่อยู่ ร่างบางดิ้นรนหมายจะเอาคืนเสียให้ได้
“ปล่อยนะไอ้คนเฮงซวย ปล่อยฉัน!”เธอกรีดร้อง
“หยุด! หยุดได้แล้ว ผมบอกให้หยุดไง!”ชายหนุ่มตวาด
ความโกรธทำให้เธอหมดความยับยั้งชั่งใจ เมริยาดิ้นรนอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อเอาคืนอีกฝ่าย ผู้ชายไร้ความเป็นสุภาพบุรุษปากร้าย ไม่รู้เธอหลงเสน่ห์ตั้งแต่แรกพบได้อย่างไรกัน
อาการของเธอทำให้ชายหนุ่มเริ่มหัวเสีย ทั้งดิ้นทั้งโวยวาย กรีดร้องเสียจนแก้วหูเขาแทบแตก ชายหนุ่มสุดทนพลิกกายสาวไว้ใต้ร่างแล้วใช้ท่อนขากดทับส่วนล่าง แล้วรวบมือบางไว้เหนือศีรษะเพื่อตัดปัญหาทันที
เมริยารู้ในทันใดว่าเวลานี้เสียเปรียบอยู่เต็มประตู ดวงตาคู่สวยเริ่มไหวระริกด้วยความกลัวขึ้นมาในทันใด
“แกจะทำอะไร!”
“แล้วคุณคิดว่าท่านี้เขาทำอะไรกันเล่า!”เขาย้อน
ดวงตาเธอเบิกกว้างด้วยความตกใจ เขาคิดจะทำอะไรกันแน่ มันจบไปแล้วและมันไม่มีอีกแล้ว ไม่มีวันยอมให้เป็นเช่นนั้นอีกแน่นอน
“ปล่อยฉันนะ ไอ้บ้า! ปล่อยเดี๋ยวนี้!”เธอดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอดอีกครั้ง
“ปล่อยให้โง่สิ”
คนตัวเล็กไม่อาจสู้แรงเขา เธอจึงหยุดดิ้นน้ำใสๆ เริ่มเอ่อล้นดวงตา ช่างน่าอับอายทำไมไม่รู้จักเอาตัวรอด เพราะคิดว่าธีร์คงช่วยเหลือเหมือนทุกครั้ง แต่คราวนี้ทุกอย่างมันผิดพลาดไปหมด กันตธรเห็นน้ำตาเลยตัดสินใจปล่อยมือด้วยเชื่อว่าคนใต้ร่างคนสิ้นฤทธิ์ไม่กล้าอาละวาดอีกแล้ว
“ผมปล่อยแต่คุณห้ามทำร้ายผมอีกเข้าใจนะ”
มือเธอเป็นอิสระแล้ว
เพียะ!
ใบหน้าเรียวคมหันตามแรงฝ่ามือ คนทำยิ้มด้วยความสะใจ อย่างน้อยเธอก็ขอเอาคืนบ้างในเมื่อเสียหายไปแล้วเพราะเขา
“แค่นี้ยังน้อยไป คุณสมควรได้รับมากกว่านี้เสียอีก!”
“นี่เธอ!”เขาตวาดลั่น
คนตัวเล็กง้างมือเพื่อฟาดลงบนหน้าอีกครั้ง แต่ทว่าข้อมือกลับถูกตวัดรวบไว้ กันตธรดันร่างบางล้มลงบนเตียงเอาลำตับทาบทับ คราวนี้เธอทำเกินไปจนเขาทนไม่ไหวแล้วจริงๆ
“ฤทธิ์เยอะนัก ผู้หญิงอะไร!”
“ปล่อยฉัน อย่าให้หลุดไปได้นะ!”เมริยาร้องลั่น
“ใครจะยอมปล่อยผู้หญิงนิสัยเสียอย่างคุณ ถ้าปล่อยคุณคงลุกขึ้นมาตบผมอีก!”ชายหนุ่มย้อน
กันตธรหันซ้ายหันขวาหาทางออก สายตาเขาเหลือบเห็นเข็มขัดเอื้อมมือหมายจะคว้า เป็นโอกาสให้คนถูกจับมีโอกาสเป็นของตนเอง คนตัวเล็กออกแรงรีบสุดกำลังจนอีกฝ่ายเสียการทรงตัวหงายหลังล้มลง เมริยาตะเกียกตะกายหนีทันที แต่กลับถูกคนตัวใหญ่คว้าผ้าห่มพันกายเอาไว้เสียก่อน
ร่างบางหนีจนสุดกำแพงห้องโดยไม่รู้ตัวว่าสิ่งปกปิดกายเพียงหนึ่งได้หลุดออกจากเรือนร่าง ชายหนุ่มชะงักค้างดวงตาเบิกกว้างกลืนน้ำลายลงคอเอือกใหญ่เมื่อเห็นทรวดทรงสลักเสลาราวกับประติมากรรมชั้นยอดต่อหน้า เมริยารับรู้ถึงอากาศกระทบผิวก้มลงมองตนเองเมื่อเห็นสภาพดวงตาเธอเบิกกว้างอ้าปากค้างด้วยความตกใจ
“กรี๊ด!”เมริยากรีดร้องทรุดกายลงนั่งชั่นเข่าเพื่อปกปิดร่างกายอันเปลือยเปล่าเอาไว้
ชายหนุ่มตั้งสติรีบดึงตนเองกลับมา เขาลุกยืนกอดอกจ้องมองเธอกำลังคุดคู้เพื่อปกปิดร่างกาย น่าแปลกทำไมถึงต้องแสร้างแกล้งอายขนาดนี้ทั้งที่ก่อนหน้ายังยั่วยวนอยู่ตลอดเวลา ยิ่งตอนนี้น้ำตาเธอกำลังไหลรินออกมา ยิ่งขัดแย้งต่อสิ่งอันเคยได้ยินมา
“นี่คุณ ไม่เห็นต้องร้องไห้เลย เรื่องแบบนี้คุณน่าจะคุ้นเคยนี่นา”กันตธรแกล้งเย้ย แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะนิ่งเงียบไม่ตอบโต้