บทที่ 4
คำตอบของสามีทำให้เจมีน่าคลี่ยิ้มกว้าง จุ๊บที่ปากรูปกระจับหนึ่งทีก่อนจะกอดเขาไว้แน่น เธอไม่รู้หรอกว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่วันนี้ตอนนี้เขารับปากเธอแล้ว เธอก็ขอเชื่อให้หมดหัวใจ
“พี่ปูนขา”
“ขา” เขาตอบรับเสียงเรียกออดอ้อนที่ดังอยู่ข้าง ๆ หู
“ถ้าเรื่องนี้จบลงด้วยดี จูนอยากมีลูกแล้วค่ะ พี่ปูนยอมให้จูนมีได้ไหมคะ” ถ้าเขายอมเธอจะเลิกคุมกำเนิดทันที
“ทำไมต้องรอให้จบเรื่อง” จบคำเขาก็เบี่ยงตัวเอาคนบนตักนอนแผ่หลาลงไปบนเตียงแล้วคร่อมไว้ทันที “เริ่มมันตอนนี้เลยเถอะ”
ใบหน้านวลคลี่ยิ้มกระจ่างตา สีหน้าบ่งบอกความดีใจ “พี่ปูนอยากมีลูกแล้วเหรอคะ”
“เฉย ๆ มีก็ได้ ไม่มีก็ได้ ถ้ามีพี่ก็รักอยู่แล้ว เพราะเขาเป็นลูกของเรา แต่พี่จะตามใจเมีย ถ้าเมียอยากมีพี่ก็จะทำให้เดี๋ยวนี้เลย” เริ่มหยอกเสียงกระเส่าเมื่อทุกอย่างกลับสู่สภาวะปกติ
“ขอบคุณค่ะ ทำให้น่ารักเหมือนจูนเลยนะคะคุณสา” เธอไม่สนใจความรู้สึกที่ไม่อยากได้ใคร่มีของสามี เพราะมั่นใจว่าถ้ามีลูกจริง ๆ เขาจะรักลูกไม่ต่างกับที่รักเธอแน่
“แล้วถ้าลูกเหมือนพี่ หนูจะเสียใจไหม จะรักเขาไหม”
“ที่ไม่อยากให้เหมือนพ่อก็เพราะกลัวจะทั้งรักทั้งหวงเหมือนกับพ่อเขานี่แหละค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นก็มาเริ่มกันเถอะ” เขาชักชวนสีหน้าเปื้อนยิ้ม เริ่มจัดการลอกคราบเมียรักวัยขบเผาะที่สวมเสื้อคลุมไว้เพียงตัวเดียว ฝังใบหน้าไปที่ลำคอระหง ซุกไซ้ให้กระสันแล้วไล่ไปจูบปากดูดดื่ม ชอนไชไล่หยอกกับเรียวลิ้นอุ่น
ลูบไล้ไปทั่วผิวเนื้อนวลเนียน แวะหยอกกับส่วนที่ควรหยอกจนเจ้าของสยิวซ่าน ทำให้เธอตื่นตัวเต็มที่ แล้วจึงดำดิ่งเข้าใส่ แหวกว่ายในสายธารจนเกิดคลื่นซัดสาดลูกแล้วลูกเล่า
ห้องทำงานของภพธร
ความกังวลตลอดหนึ่งอาทิตย์กว่า ๆ ของภพธรหายเป็นปลิดทิ้ง หลังจากได้คุยโทรศัพท์กับน้องสาว
ภาพถ่ายของน้องเขยกับหญิงสาวคนหนึ่ง ที่ถูกส่งมาข่มขู่เรียกเงินถึงห้าล้านบาทนั้นเป็นภาพจริง แต่เป็นภาพในอดีตตั้งแต่ก่อนที่ทั้งคู่จะคบหากัน ผู้หญิงคนนั้นอดีตเคยเป็นพริตตี้และมักจะข้ามไปรับจ๊อบที่คาสิโนของภาสกรเพราะเงินดี
ครั้งหนึ่งเธอเคยถูกซื้อตัวให้ขึ้นเตียงกับน้องเขย คนที่ติดต่อเธอกำชับว่าห้ามถ่ายรูปห้ามพูดมาก แต่ให้บริการให้ดีถ้าอยากได้ทิปหนัก ตอนนั้นเธอไม่รู้ว่าน้องเขยเขาเป็นใคร แต่คิดว่าคงจะเป็นระดับวีไอพี จึงแอบถ่ายรูปตอนเขาหลับอยู่บนเตียงกับเธอเก็บไว้ และไม่ได้สนใจอีกเลย
ผ่านไปหลายปี เธอบังเอิญได้เห็นรูปเขาที่ถ่ายคู่กับภรรยาในนิตยสารเล่มหนึ่ง จึงรู้ว่าเขาเป็นเจ้าของคาสิโนแห่งนั้น และยังมีธุรกิจอื่น ๆ อีกมากมายหลายอย่าง
เมื่อรู้ว่าเขารวยมากจึงเกิดความโลภ เพราะตัวเองมีหนี้สินจากการเล่นการพนันรอบตัว จึงรีบค้นดูรูปเก่า ๆ ที่ถ่ายโอนเก็บไว้ในแฟลชไดร์ฟจนเจอ พอมั่นใจว่าใช่เขาแน่ จึงชักชวนเพื่อนชายที่ทำงานอยู่ในคาสิโนแห่งนั้นให้มาร่วมมือกัน
หลังจากนั้นภาพนั้นก็ถูกส่งมาให้น้องสาวเขา จึงเกิดเรื่องขึ้นตามที่เขาได้รับรู้ แต่ตอนนี้ก็จับตัวการมาได้เรียบร้อยแล้วทั้งคู่
เรื่องนี้ไม่ได้กลายเป็นข่าวดัง เพราะมีฝ่ายกฎหมายจัดการ แต่จบลงด้วยการดำเนินคดีเพราะน้องเขยเขาไม่ยอม แม้น้องสาวจะบอกให้ยอมความเพราะไม่ได้เสียหายอะไร แต่เขาบอกว่าเขาเสียหายเยอะมาก เขาต้องเสียเวลาและเสียเงินเพื่อปิดข่าว ลูกน้องหลายคนต้องเสียเวลางานไปโดยเปล่าประโยชน์
เหนือสิ่งอื่นใดคือความรู้สึกของเธอที่เสียไป มันสาหัสมากจนเขาอภัยให้ไม่ได้ เธอจึงไม่กล้าขอร้องเขาเพื่อผู้หญิงคนนั้นอีก เพราะไม่อยากให้สามีเสียความรู้สึกกับเธอเหมือนกัน
ในฐานะพี่ชายที่รักน้องสาวเอามาก ๆ เมื่อได้ยินเรื่องเล่าจากปากของเธอ ก็คิดว่าน้องเขยทำถูกต้องที่สุดแล้ว และขอชื่นชมความรักเมียปานจะกลืนกินของน้องเขยสุด ๆ
เห็นทีต้องหาโอกาสไปขอโทษที่ต่อยหน้าเขาในวันนั้น
ก๊อก ๆ ๆ
“ขออนุญาตครับบอส”
“เชิญครับคุณรังสรรค์” ภพธรเปลี่ยนจากท่านั่งสบาย ๆ เป็นนั่งหลังตรง เตรียมฟังเลขารุ่นใหญ่ที่ทำงานมาตั้งแต่รุ่นบิดาอย่างตั้งใจ
“แฟ้มงบประมาณสัมมนาปีนี้ครับ” รังสรรค์วางแฟ้มเสนอเซ็นลงบนโต๊ะทำงานของเจ้านายรุ่นที่สอง “คุณมีนัดทานกลางวันกับคุณแมรี่นะครับ ที่ห้องอาหารโรงแรมแม็คแคนเลย์”
“ครับ ผมไม่ได้ลืม”
“ผมฟังข่าวรายงานการจราจร เขาบอกว่าย่านสีลมรถติดหนักมาก คุณควรจะออกไปตั้งแต่ตอนนี้นะครับ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับคุณรังสรรค์ วันนี้ผมขี่มอเตอร์ไซค์มา จากนี่ถึงโรงแรมน่าจะใช้เวลาไม่เกินชั่วโมง” ไม่ต้องฟังรายงานจากวิทยุเขาก็รู้ว่าย่านนั้นรถติดบรรลัยขนาดไหน และเพราะเหตุนี้เขาจึงขี่บิ๊กไบค์คู่ใจมาทำงานแทนรถยนต์ ดีกว่าต้องเสียเวลางานไปกับการเดินทาง
“บอสไม่ควรจะขี่เจ้าสองล้อนั่นนะครับ มันดูไม่ภูมิฐานสมฐานะเอาซะเลย” รังสรรค์ตำหนิอย่างสุภาพ
“ทำไงได้ล่ะครับ การจราจรในเมืองหลวงของบ้านเรามันบังคับให้ผมต้องเป็นสิงห์นักบิดนี่ครับ” สองล้อของเขาคันละตั้งหลายล้าน ไม่ทำให้เขาดูภูมิฐานสมฐานะอีกเหรอ
“บอสมีเหตุผลที่ผมค้านไม่ได้อยู่เสมอ แต่ผมก็ยังอยากแนะนำให้บอสออกเร็วอีกสักนิด เผื่อเวลาไว้ดีกว่านะครับ เพราะคุณแมรี่เธอค่อนข้างเจ้าระเบียบ”
“โอเคครับ ผมเชื่อคุณรังสรรค์.. อีกครึ่งชั่วโมงผมจะออกไปก็แล้วกัน” ภพธรตอบหลังจากดูเวลา
“ดีครับ ผมขอตัวไปทำงานต่อนะครับ”
“เชิญครับ”
สุริษากำลังยืนรอคำตอบจากประชาสัมพันธ์ที่ต่อสายคุยกับใครสักคน เธอละสายตาจากหญิงสาวหน้าสวยแล้วมองไปรอบ ๆ ระหว่างที่รอ และขณะที่กำลังชักสายตากลับมายังจุดเดิมนั่นเอง สายตาก็ไปสะดุดกับคนที่ต้องการพบเข้าพอดี เธอมองตามเขาที่เดินผ่านหน้าไปห่าง ๆ
“คุณชายโฉด!” แล้วเผลอโพล่งออกไปเสียงดังพอให้คนที่อยู่ในระยะห้าเมตรได้ยิน เธอไม่ได้ตั้งใจจะเรียกเขาแบบนั้น แต่มันดันพลั้งปากไปด้วยความลืมตัว
ภพธรได้ยินคำว่าคุณชายโฉดลอยมาเข้าหู ก็นึกถึงหญิงสาวคนหนึ่งทันที จึงหันไปมองด้วยความอยากรู้
สิ่งที่เห็นคือหญิงสาวหน้าตามักคุ้นนางหนึ่ง กำลังโบกมือทักทายมาให้ เขาหยุดเดินและยืนนิ่งเป็นศิลาจารึก ใจเต้นผิดจังหวะอย่างห้ามไม่อยู่ เพราะเธอคือผู้หญิงที่นาน ๆ จะวนเวียนเข้ามาในความคิดของเขาสักครั้ง