ตอนที่ 2 วาร์ปไปเกิดใหม่มาหลายภพหลายชาติ (2)

1467 คำ
ชายหนุ่มหน้าซีดสลดลงเมื่อได้ยินเสียงมนุษย์ป้าฉุนเยว่เผิงร้องป่าวประกาศออกไปเช่นนั้น แม้ว่าเขาจะเต็มใจรับผิดชอบชื่อเสียงของหญิงสาว ทว่า…ลึกๆ แล้วเขาเองก็รู้สึกหวั่นใจ เพราะหยางฟางหรงไม่เคยชายตาแลเขาเลย คนที่สาวเจ้าเก็บเอาไปใฝ่ฝันคือหนุ่มโรงพยาบาลทำงานชามข้าวเหล็ก เผิงเจียวหวง ลูกติดของแม่เลี้ยงเขานั่นต่างหากล่ะ แต่เวลานี้อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับชีวิตของคนที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาหรอก “ฟางหรง ฟางหรง” สืออู๋เฉินยังคงเขย่าตัวหญิงสาวในอ้อมแขนแรงๆ หวังจะให้เธอลืมตาตื่นขึ้นมา เวลานี้เขาเองก็ทำอะไรไม่ถูก จังหวะที่เขาตัดสินใจจะร้องให้คนช่วยนั้น ร่างบอบบางในอ้อมแขนแกร่งก็ค่อยๆ ปรือตาขึ้นมา “สืออู๋เฉิน” เสียงที่เปล่งออกมาจากปากของหยางฟางหรงทั้งเบาและแหบแห้ง ทว่า…กลับทำให้หัวใจอีกดวงเต้นแรงและให้ความรู้สึกชุ่มฉ่ำ ราวกับว่านี่คือฝนแรกแห่งวสันตฤดู หญิงสาวไอแค้กๆ ออกมาสองสามครั้งก่อนจะค่อยๆ ขยับตัวนั่ง สืออู๋เฉินช่วยจับให้เธอนั่งเอาหลังพิงต้นไม้ “เป็นอย่างไรบ้าง?” น้ำเสียงของเขาช่างอ่อนโยนนัก ในความอ่อนโยนนั้นยังเจือไปด้วยความอบอุ่นและห่วงใย เล่นเอาหญิงสาวน้ำตารื้นขึ้นมา หยางฟางหรงมองใบหน้าของสืออู๋เฉินผ่านม่านน้ำตา ชายหนุ่มผู้นี้ไม่ว่าชีวิตนี้หรือชีวิตที่แล้วเขาก็คือ ‘คนดี’ ของเธออยู่วันยันค่ำ เมื่อนึกถึงวันวานที่ผันผ่านในชีวิตที่แล้วแม้แต่คนที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘คนเก่งหัวใจแกร่ง’ ยังต้องหัวใจอ่อนยวบ ชีวิตที่แล้วหยางฟางหรงจำได้ว่าตอนที่เธอจมน้ำนั้นเหมือนครั้งนี้ไม่มีผิด ครั้งนั้นก็เป็นสืออู๋เฉินคนนี้มาช่วยชีวิต จากนั้นก็มีชาวบ้านมาเห็นตอนที่ชายหนุ่มกำลังอุ้มเธออยู่ก็เข้าใจผิดคิดไปเองว่าพวกเขาทั้งสองคนแอบได้เสียกันจึงเที่ยวโพนทะนาไปทั่ว จากเรื่องการช่วยชีวิตกลายเป็นเรื่องผิดผี พวกเขาถูกจับแต่งงานกันในวันถัดมา และ…คืนเข้าหอ ปรากฏว่าเจ้าบ่าวต้องนอนเฝ้าห้องหออย่างโดดเดี่ยวเพราะเธอซึ่งเป็นเจ้าสาวได้หนีตามผู้ชายคนอื่นไป ‘หึ!เผิงเจียวหวง ไอ้ผู้ชายสารเลว’ จู่ๆ แววตาของหยางฟางหรงก็แข็งกร้าวขึ้นเมื่อนึกถึงผู้ชายอีกคน คนที่มันทำให้ชีวิตของเธอต้องพังพินาศเหมือนตกนรกทั้งเป็น หลังจากที่เธอแอบหนีออกจากห้องหอ เผิงเจียวหวงก็พาเธอหนีเข้าไปในเมืองใหญ่ คราแรกหยางฟางหรงนึกว่าชายหนุ่มจะพาเธอไปเลี้ยงดูอยู่กินฉันสามีภรรยา พอมันได้เจาะไข่แดงและร่วมรักกับเธอจนสมใจแล้วจึงเฉดหัวเธอทิ้ง มันพาเธอไปเป็นนางบำเรอนายทหารปลดเกษียณผู้หนึ่งเพื่อแลกกับเงินจำนวนไม่น้อย ใช่…มันขายเธอนั่นเอง ทุกๆ วันหยางฟางหรงต้องคอยบำเรอกามให้กับตาเฒ่าตัณหากลับนั่น มันไม่ใช่ตัณหากลับอย่างเดียวแต่เป็นพวกโรคจิตด้วย นอกจากมันจะชอบกระทำรุนแรงเวลาร่วมรักแล้วมันยังให้ช่างภาพมาถ่ายภาพเธอตอนเปลือยเปล่าล่อนจ้อนและถ่ายตอนขณะที่เธอถูกมันข่มเหง เธอถูกจัดให้ถ่ายรูปอนาจารแบบนั้นหลายท่าทาง และภาพถ่ายอนาจารของเธอได้กลายมาเป็นสินค้าราคาแพงในหมู่นายทหารและเศรษฐีที่ชอบเรื่องอย่างว่า หยางฟางหรงทนมีชีวิตแบบ ‘อยู่ไม่สู้ตาย’ ได้อีกไม่นานก็ตัดสินใจแขวนคอลาโลก หลังจากวิญญาณออกจากร่างเธอก็ได้เห็นว่าไม่มีใครสนใจเรื่องการตายของเธอเลย แม้แต่พ่อแท้ๆ ก็เถอะ แต่มีผู้ชายเพียงคนเดียวที่โศกเศร้าเสียใจกับการจากไปแบบไม่มีวันกลับของเธอถึงขนาดตรอมใจตายตาม ก่อนตายเขาได้สารภาพรักกับเธอ เขาบอกว่ารักเธอสุดหัวใจแม้ว่าเธอจะเป็นอย่างไรก็ตาม แม้ว่าเธอจะผ่านผู้ชายมากี่คนก็ไม่ว่า แม้ว่าในหัวใจของเธอจะไม่เคยมีเขาอยู่เลย แต่อย่างไรเขาก็จะรักเธอ เขารักเธอตั้งแต่วันที่เธอยื่นถังหูลู่ไม้นั้นให้เขา นับจากวันนั้นเป็นต้นมาเธอคือสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจในชีวิตเพียงหนึ่งเดียวที่เขามี ไม่ว่าชาตินี้หรือว่าชาติไหน หากเป็นไปได้เขาจะคอยติดตามไปรักเธอ ผู้ชายคนนั้นก็คือ…สืออู๋เฉิน หนุ่มชาวบ้านทำงานคอมมูน ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาผู้แสนอาภัพ ถึงแม้ว่าเขาจะหล่อเหลาคมคายและโดดเด่นยิ่งกว่าชายหนุ่มคนใดในคอมมูน แต่ไม่มีหญิงสาวคนไหนชายตาแลเขาเลย นั่นเป็นเพราะสาวๆ ในยุคสมัยนี้ติดค่านิยมที่ว่า ‘ชายหนุ่มที่ดีคือชายหนุ่มที่มีงานชามข้าวเหล็กทำ’ ‘สืออู๋เฉิน ฉันกลับมาแล้ว คราวนี้ฉันจะไม่ทำให้คุณผิดหวังหรือเสียใจ ตอนนี้ฉันเลิกโง่แล้ว ฉันเก่งขึ้นเป็นกองเลย คอยดูนะ ใครที่มันเคยรังแกพวกเรา ฉันจะจัดการให้อยู่หมัดเลย คอยดู หึหึ’ หยางฟางหรงจ้องมองใบหน้าที่ดูเหลอหลาของชายหนุ่มตรงหน้ายิ้มๆ “อะ เอ่อ ฟางหรง คุณ คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?” สืออู๋เฉินยังไม่หายตระหนก ก่อนหน้านี้เขากลัวว่าหญิงสาวตรงหน้าจะไม่ฟื้นขึ้นมาเสียแล้ว หากเป็นเช่นนั้นเขาคงขาดใจเป็นแน่ “ไม่เป็นไร ฉันไม่เป็นไรแล้ว ว่าแต่คุณเถอะ มาทำอะไรแถวนี้ ไม่ไปลงแปลงนาหรือ?” ทั้งๆ ที่รู้แต่หยางฟางหรงก็แสร้งถามออกไป เธอรู้ว่าชายหนุ่มผู้นี้เป็นห่วงเธอมาก เพราะที่ผ่านมาเธอนั้นมีร่างกายอ่อนแอ มักจะเป็นลมตอนลงแปลงนาในช่วงบ่ายที่แดดจัดๆ เสมอ เขาคงแอบตามเธอมาถึงลำธารเพราะกลัวว่าเธอจะเป็นลมหมดสติไปตอนไหนอีกก็ไม่รู้ “เอ่อ ผม ผมมาตกปลา” สืออู๋เฉินอ้ำๆ อึ้งๆ พลางเสมองไปทางอื่น หยางฟางหรงอมยิ้ม สำหรับเธอแล้วสืออู๋เฉินคือหนุ่มชาวนาผู้ไร้พิษสงใดๆ มีแต่ความจริงใจให้กับผู้คน แต่โลกก็ช่างใจร้ายกับเขาได้ลงคอพอๆ กับที่ใจร้ายกับเธอนั่นแหละ แต่วันนี้สวรรค์เป็นใจแล้ว สวรรค์เข้าข้างเธอและให้โอกาสเธอได้กลับมาแล้ว เธอจะใช้โอกาสนี้แก้ไขชะตาชีวิตทั้งของตนเองและผู้ชายตรงหน้า เธอสัญญาว่าจะรักเขาให้เท่ากับที่เขารักเธอ ในชีวิตก่อนที่เธอคือหยางฟางหรงผู้อ่อนแอและโง่งมนั้น เธอจบชีวิตตนเองอย่างเอน็จอนาถด้วยการแขวนคอตาย หลังจากที่วิญญาณไปปรโลกเธอมีเหตุให้ไม่ได้ดื่มน้ำแกงของยายเมิ่ง และหลังจากที่เวียนว่ายตายเกิดไปอีกหลายชาติภพ ซึ่งแต่ละชาติภพนั้นซ้อนทับกันอยู่ เป็นเหตุให้บางชาติภพการไปเกิดนั้นอยู่ในเวลาที่ใกล้เคียงกันเพราะเวลาในแต่ละชาติภพนั้นเดินเร็วช้าต่างกัน และก่อนที่จะได้ย้อนกลับมาเกิดใหม่ในร่างเดิมในชาติภพนี้หญิงสาวได้รับพรวิเศษมาข้อหนึ่ง นั่นก็คือ เธอจะยังคงมีความทรงจำของทุกชาติภพติดตัวมาด้วย ‘เอาล่ะ หมอ พยาบาล ก็เคยเป็นมาแล้ว สถาปนึก เอ๊ย สถาปนิก วิศวะ เกษตรกร ครูอาจารย์ พนักงานบริษัท เชฟกระทะทองแดง นักเขียน นักแปล ดารา นักร้อง นักกีฬาว่ายน้ำ นักกีฬายิงธนูทีมชาติ อืม…มีอะไรอีกนะ? แต่ที่แน่ๆ กลับมาคราวนี้ฉันไม่ใช่หยางฟางหรงคนเก่าที่อ่อนแอและโง่งมให้พวกแกได้โขกสับกลั่นแกล้งรังแกได้อีกต่อไปแล้ว มาคราวนี้แม่จะเอาคืน รอดูรอชมก็แล้วกัน หยางฟางหรงคนใหม่ที่วาร์ปไปฝึกวิทยายุทธมาหลายภพหลายชาติกลับมาเอาคืนพวกแกแน่นอน ฮิฮิ’ *** การวาร์ปไปเกิดใหม่หลายชาติภพแล้วได้ทักษะต่างๆ ติดตัวกลับมา ก็เหมือนกับการที่เราคอย Reskill/ Upskill ให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในหลายๆ ทักษะ เพื่อเป็นการเอาตัวรอดให้ได้ในอนาคตนั่นเอง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม