เสียงไก่ป่าขันรับส่งกับไก่บ้านเป็นระลอกๆ พระอาทิตย์ยังคงหลับใหล แต่ผู้คนส่วนหนึ่งพากันโยกขยับตามกาลเวลาเพื่อการดำรงชีวิต “ฟางหรง ฟางหรง ออกมานี่หน่อย มาคุยกันหน่อย” เสียงร้องโหวกเหวกโวยวายนั่นทำให้หฺญิงสาวงัวเงียลืมตาขึ้นมาอย่างขัดใจ หยางฟางหรงมองออกไปนอกหน้าต่างเห็นว่าบรรยากาศรอบๆ ตัวเริ่มมีแสงไฟจากคบไฟของชาวบ้านแล้ว “น้าอิ๋นฟาง น้ามาทำไมเหรอครับ?” สืออู๋เฉินที่ตื่นตั้งแต่ไก่โห่เป็นปรกติวิสัยเป็นต้องหยุดมือที่กำลังทำข้าวต้มก่อนจะเดินออกมาดูที่หน้ากระท่อมของหยางฟางหรง หลัวอิ๋นฟางยักไหล่พลางเบ้ปาก “ฮึ! นี่ สืออู๋เฉิน ถ้าคิดจะใช้ชีวิตร่วมกันกับฟางหรงล่ะก็ ลำบากหน่อยนะ ดูซิ ป่านนี้รายนั้นยังไม่ยอมตื่น กลับกลายเป็นเธอซึ่งเป็นผู้ชายต้องตื่นขึ้นมาหุงหาอาหาร” สืออู๋เฉินถอนหายใจพลางส่ายหน้าแรงๆ “ฟางหรงนอนดึกเพราะทำงานจนดึกดื่น ผมจึงบอกให้เธอนอนให้พอ ไม่ต้องลุกขึ้นมาทำอาหารเช้าหรอก ผมนอนแต่หั