ทุกคำถามในใจของเม็ดทรายผู้ที่ให้คำตอบกับเธอได้ดีมากที่สุดคงจะเป็นท่านประธานซึ่งกำลังมองหน้าเธออยู่ในตอนนี้
ที่บริษัทของเราจะมีห้องพยาบาลขนาดย่อมๆ เอาไว้ และแผลของท่านประธานเองก็ไม่ได้ร้ายแรงถึงขนาดที่จะต้องไปเย็บที่โรงพยาบาลเพราะเศษแก้วจากแจกันมันแค่บาดเขาถากๆ เท่านั้นเอง
“หากว่าท่านไม่เป็นอะไรแล้ว ทรายกลับก่อน..”
ยังไม่ทันที่จะได้พูดจบเขาก็จับมือของเธอเอาไว้แน่น
“ผมเจ็บตัวขนาดนี้ยังจะหนีกลับอีกงั้นเหรอครับ ไปส่งผมที่บ้านหน่อยสิ”
เธอขมวดคิ้วมองหน้าของเขา สกิลการขับรถของเธอมันห่วยแตกมากแค่ไหนเรื่องนั้นเขาก็รู้อยู่แก่ใจ แล้วทำไมยังจะให้เธอพาเขากลับอีก
กว่าเม็ดทรายจะรู้สึกตัวอีกทีเธอก็มานั่งในรถของเขาเรียบร้อยตรงที่นั่งข้างคนขับ
“ท่านเจ็บมืออยู่นะคะ ขับเองไม่เป็นไรแน่เหรอ”
“เชื่อเถอะว่าการที่ผมขับรถมือเดียวมันน่าจะปลอดภัยมากกว่าให้คุณมาขับแน่นอน นั่งไปเงียบๆ เถอะน่า”
เมื่อเขาพูดแบบนั้นเม็ดทรายก็เบือนหน้าหนีแสร้งหลบสายตาของเขาด้วยความขวยเขิน เธอมองออกไปด้านนอกหน้าต่างรถยนต์พร้อมกับหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ
แน่นอนว่าเม็ดทรายไม่อยากจะเป็นพวกคิดเองเออเอง เธอไม่ได้อยากคิดว่าที่เขาทำไปทั้งหมดมันเป็นเพราะเธอ
ในช่วงที่ผ่านมาก็มีแต่เธอคนเดียวนี่ ที่มองเขาอยู่ตลอด..เขาไม่เคยมองกลับมาด้วยซ้ำ
“รออยู่นี่นะ”
เขาแวะที่ร้านสะดวกซื้อ ท่านประธานหายไปไม่นานก็กลับมาพร้อมกับถุงหูหิ้วในมือ เขาส่งมันให้เธอก่อนจะเริ่มขับรถออกไปอีกครั้ง และเมื่อเม็ดทรายมองของที่อยู่ด้านในถุงเธอก็พบว่ามันเป็น..ถุงยางพร้อมกับเจลหล่อลื่น
“....”
เม็ดทรายรีบหันกลับไปมองหน้าของเจ้านายอีกครั้งด้วยสายตาตกใจ
“ตกใจอะไร คราวที่แล้วมันยังไม่ได้พิสูจน์หรอกนะว่าตกลงแล้วว่าคุณหายจากสิ่งที่คุณเป็นรึเปล่า เพราะอย่างนั้นรอบนี้จะต้องปฏิบัติไปให้ถึงขั้นสุดท้ายสิ อีกอย่างรอบที่แล้วมีแต่คุณคนเดียวที่เสร็จ ตั้งแต่วันนั้นผมยังไม่ได้ปลดปล่อยเลยสักครั้ง คิดดูสิว่าการกระทำของคุณมันเอาเปรียบกันมากขนาดไหน”
เขาบ่นเธอเป็นชุด ทั้งๆ ที่เธอแค่มองหน้าเขา และเมื่อรถยุโรปราคาแพงเคลื่อนตัวเข้ามาจอดในบ้านของขุนเขา อาหารที่เขาสั่งเอาไว้ก็มาส่งพอดี
“เข้าไปข้างในสิ ยังไม่ได้ทานมื้อเที่ยงไม่ใช่เหรอ”
เม็ดทรายเดินตามเขาเข้าไปด้านใน ท่านประธานเดินเข้าไปในครัวพร้อมกับหยิบจับถ้วยจานออกมาให้เธอ เขาเทน้ำเปล่าใส่แก้วให้เธอพร้อมกับส่งยิ้มให้
“ทำไมล่ะ ไม่หิวงั้นเหรอ”
หิวสิ เธอหิวจนเมื่อมองเห็นอาหารที่วางเอาไว้เบื้องหน้าก็เกือบจะขาดสติไปแล้ว
“ขอบคุณนะคะ แล้วท่านไม่ทานด้วยกันเหรอคะ”
ขุนเขาส่ายหน้าเบาๆ
“ผมทานมาแล้ว มื้อเที่ยงพร้อมกับเหล้าอีกหลายแก้วทีเดียว”
เมื่อเขาพูดแบบนั้นเธอก็รู้ในทันทีว่าเขาหมายถึงอะไร เม็ดทรายก้มหน้าลงทานข้าวด้วยใบหน้าที่เห่อร้อน
“ทานเยอะๆ นะครับ เพราะวันนี้จะต้องใช้แรงเยอะพอสมควรเลย”
หนีไม่ได้สินะ อันที่จริงการหลบหนีเขามันคือเรื่องที่เกินกำลังของเธอมากทีเดียว เม็ดทรายรู้ดีว่าเธอไม่มีทางหนีเขาพ้น อีกทั้งคราวที่แล้วมันก็จริงอย่างที่เขาว่า เรื่องที่เธอเอาเปรียบเขา
เพราะอย่างนั้นครั้งนี้เธอก็แค่จะต้องทำให้เขารู้สึกดีเหมือนกับที่เธอรู้สึกในครั้งก่อน และเพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองหายจากอาการไร้ความรู้สึกอะไรพวกนั้นแล้ว เม็ดทรายจะต้องลอง..ทำกับเขาดู
เธอกำลังเดินเข้าไปหาเขาที่พร้อมจะแผดเผาเธอจนมอดไหม้ไม่เหลือแม้แต่กระดูก แต่ทำยังไงได้ล่ะ เธอเลือกเดินทางนี้เองนี่
อันที่จริงเธอหลงใหลคลั่งไคล้เขาแทบบ้า เธอมองเขามาโดยตลอด จ้องมองแค่เขาเพียงคนเดียวมาหลายปี เพราะอย่างนั้นตอนนี้..เม็ดทรายก็เลยกำลังดีใจ
เธอมีความสุขที่เขาไม่ได้ลืมเรื่องที่เรากระทำกันเมื่อวันเสาร์ ดีใจที่เขามองหน้าเธอพร้อมกับรอยยิ้มที่เขาไม่เคยมองหน้าใคร
ถึงแม้ว่าจะพยายามหลอกตัวเองมากแค่ไหน แต่เธอมีความสุขจริงๆ ที่ได้ใช้เวลาร่วมกันกับเขา
ในขณะที่เขา..อาจจะเห็นว่าเธอเป็นของเล่นของเขา ซึ่งนั่นมันเป็นเรื่องที่เม็ดทรายรับรู้อยู่แล้ว
เธอคาดหวังความรักจากเขาไม่ได้ และในขณะเดียวกันเธอก็กำลังหลงรักเขาไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
หลังจากทานมื้อเที่ยงเสร็จแล้วเม็ดทรายก็จัดการล้างจานและทำความสะอาดโต๊ะอาหารให้เขา ส่วนขุนเขา เขาเดินออกมาจากห้องนอนพร้อมกับชุดคลุมอาบน้ำในมือที่กำลังส่งให้เธอ
“อ่า..จริงสิ เรื่องชุดนอนที่ท่านให้ทรายยืมวันก่อน ทรายยังไม่ได้เอามาคืน”
ขุนเขาทำท่าครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง
“อ๋อ นั่นชุดนอนของน้องสาวผมน่ะ ไม่ต้องเอามาคืนหรอกครับเพราะยัยนั่นไม่มาที่นี่หรอก ผมแค่ซื้อเอาไว้เตรียมให้น้องเฉยๆ”
เม็ดทรายรับชุดคลุมอาบน้ำมาจากเขา เธอเดินเข้าไปในห้องอาบน้ำอีกครั้งด้วยหัวใจที่ลิงโลด เธอรู้ว่าตระกูลของท่านประธานนั้นใหญ่มากทีเดียวเขามีพี่น้องห้าคน และตัวของท่านประธานเป็นลูกชายคนโต ปีนี้ท่านประธานจะอายุ 36 แต่ใบหน้าของเขามันเหมือนกับคนอายุยี่สิบต้นๆ มากกว่า
เธอเดินลงไปแช่น้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำพร้อมกับหลับตาลงช้าๆ เป็นอีกครั้งที่เราจะได้ทำเรื่องแบบนั้นกัน และครั้งนี้เธอจะได้รู้สักทีว่าตัวเองหายจากอาการตายด้านรึยัง
ขุนเขาเปิดประตูห้องอาบน้ำเข้ามา เขาถอดชุดคลุมอาบน้ำของตัวเองออก พร้อมกับมองเข้าไปด้านในซึ่งเม็ดทรายกำลังนั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำ ผมของเธอเปียกลู่ไปตามแผ่นหลัง และเธอกำลังหลับตาอยู่
เขาเดินเข้าไปในอ่างอาบน้ำพร้อมกับรวบตัวของเม็ดทรายเข้ามานั่งบนตัก
เธอตกใจเล็กน้อยแต่ทว่าสุดท้ายก็ยินยอมนั่งลงบนตักของเขา
“ทำไมอาบน้ำนานมากขนาดนั้น ไม่เห็นใจคนที่รอเลยเหรอครับ”
แก้มของเธอมันแดงก่ำราวกับลูกมะเขือเทศ เม็ดทรายรีบก้มหน้าลงเพื่อเก็บซ่อนใบหน้าของตัวเองเอาไว้ไม่ให้เขาได้เห็น
“ขะ..ขอโทษค่ะ ทรายไม่รู้ว่าท่านจะรอ”
เขาจับปลายคางมนของเธอให้มันเงยขึ้นมามองหน้าเขา
“ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ คุณไม่ได้ผิดอะไรขนาดนั้นหรอก ตรงกันข้ามเลยเพราะการเริ่มต้นที่อ่างอาบน้ำก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเหมือนกัน”
เขาอุ้มเธอขึ้นไปนั่งบนขอบอ่างก่อนจะกางขาของเธอออกจากกัน
“เดี๋ยว..ดะ..เดี๋ยวก่อนค่ะ”
“ไม่เห็นต้องอายเลย วันนั้นผมก็เห็นทั้งหมดแล้วจะยังต้องอายอะไรครับ”
วันนั้นสติกว่าครึ่งของเธอถูกแอลกอฮอร์ควบคุมเอาไว้นะสิ แต่ตอนนี้เป็นตอนกลางวันที่เธอสติครบถ้วนทุกอย่างจะไม่ให้เธออาย ดูเหมือนว่านั่นจะเป็นคำขอที่มากเกินไปหน่อย