3.นึกว่าจะชอบ

1316 คำ
เม็ดทรายวางแก้วเหล้าในมือของเธอลงบนโต๊ะเตี้ยๆ หน้าโซฟาหนังสีเบจ มีดอกกุหลาบสีขาวใส่แจกันคริสตัลวางประดับเอาไว้บนโต๊ะ ทว่าสายตาของเม็ดทรายไม่ได้แยแสดอกกุหลาบแสนสวยบนโต๊ะนั้นเลย เธอกำลังมองใบหน้าที่ทรงเสน่ห์ของท่านประธานอยู่ และมันเหมือนกับว่า เขากำลังตรึงสายตาของเธอเอาไว้ที่ใบหน้าของเขาด้วยสายตาที่จ้องมองมาที่เธอไม่แพ้กัน ความเป็นชายที่ตั้งผงาดแทบจะทิ่มตาถูกควักออกมาจากกางเกงสีดำที่เขาสวม ส่วนสำคัญนั่นนอกจากจะใหญ่แล้วยังตั้งชันแทบขนาดกับหน้าท้องอีกต่างหาก มองหน้าเขาเดี๋ยวนี้นะโว้ยเม็ดทราย แกไปมองส่วนนั้นเขาทำไมกัน!! สิ่งที่ตื่นขึ้นจากการหลับใหลถูกกอบกุมด้วยมือทั้งสองข้างของเขาอย่างแผ่วเบา เมื่อเขาขยับฝ่ามือรูดขึ้นลง ของเหลวใสก็ค่อยๆ ทยอยไหลออกมาจากยอดปลายสีลูกพีช “อึ่ก..” ทรมาน เขาเกลียดตัวเองที่มีความต้องการมากกว่าคนอื่นเสมอ ไม่ว่าจะกระทำเท่าไหร่ก็ไม่อาจเพียงพอต่อความต้องการที่เขาอยากจะปลดปล่อยได้เลย ยิ่งเวลาที่เขาดื่มเหล้าเข้าไปความต้องการพวกนั้นยิ่งพุ่งสูงขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ “ขวัญทนกับความต้องการที่มากมายของคุณไม่ได้หรอกนะคะ คุณเคยรักขวัญบ้างรึเปล่า หรือรักแค่ร่างกายของขวัญเพียงอย่างเดียว” คำบอกเลิกนั้นยังคงก้องอยู่ในหัว เขาไม่ได้เสียใจที่เลิกกับขวัญอย่างที่เธอว่าจริงๆ นั่นแหละ เขาแค่เสียดายร่างกายของเธอต่างหาก เพราะกว่าจะหาคนที่ทนเขามาได้นานหลายเดือนมาขนาดนี้มันหายากมากจริงๆ “อ่า..อื้อ” เสียงร้องครางนั้น ดังออกมาพร้อมกับลาวาสีขาวขุ่นที่พวยพุ่งออกมาจากจุดอ่อนไหว ส่วนหนึ่งมันไหลรินเลอะเทอะอยู่บนมือของเขา แต่ก็มีบางส่วนที่รินไหล หยดย้อยลงไปเปื้อนที่พื้นพรมด้านล่าง ดวงหน้าหวานแดงแปร๊ดในฉับพลัน เม็ดทรายตั้งใจว่าจะหาโอกาสออกไปแบบที่ไม่ให้เขาอาย แต่เธอกลับเผลอจ้องมองเขา..จนจบ และตอนนี้มันคงจะถึงเวลาแล้วที่เธอควรจะออกไปจากที่นี่ “ทรายว่านี่ก็ดึกมากแล้ว ทรายขอตัวกลับก่อนนะคะ” “....” ขุนเขาเลิกคิ้วมองหน้าของเม็ดทรายที่กำลังขึ้นเป็นสีกุหลาบ เขาเมามายอีกทั้งหลงลืมไปว่าเธอนั่งอยู่เบื้องหน้าของเขาในห้องนี้ด้วย แถมยังช่วยตัวเองจนเสร็จสมไปอีกต่างหาก เธอมองเขาจนพึงพอใจขนาดนั้นแล้วจะหลบหนีกันไปง่ายๆ อย่างนั้นเหรอ? เม็ดทรายขบเม้มริมฝีปากเบาๆ เพราะเมื่อเธอมาที่ด้านหน้าประตูทางออกบ้านของเขา มันกลับเปิดประตูนี้ไม่ออก แถมยังมีตัวเลขมากมายเพื่อให้เธอใส่รหัส ให้ตายเถอะ เธอไม่อยากเข้าไปด้านในอีกรอบไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เพราะแค่นี้ยังไม่รู้เลยว่าพอเรากลับไปทำงานจะมองหน้ากันติดไหม เธอดันไปเห็นตอนที่เจ้านายกำลัง..ทำแบบนั้นกับตัวเอง แถมมองเห็นชัดแจ๋วอีกต่างหาก “จะกลับแล้วงั้นเหรอ นี่มันไม่ยุติธรรมเลยสักนิดเดียว” เม็ดทรายหันหน้ากลับไปหาท่านประธานของเธอด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ เขาล้างมือเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับเสยผมขึ้นไปด้านบนอย่างไม่ใส่ใจเท่าไหร่ เขามองหน้าเธอด้วยดวงตาที่เรียบเฉย ทุกอย่างมันควรจะปกติดี เพียงแต่ท่านประธานที่ยืนอยู่เบื้องหน้าของเธอนั่นยังไม่ทันได้สวมกางเกง เขายืนเปลือยท่อนล่างพร้อมกับกอดอกมองหน้าของเธออยู่ ให้ตายเถอะ ตาเธอ..ดวงตาของเธอในวันพรุ่งนี้มันจะต้องเป็นกุ้งยิงอย่างแน่นอน เม็ดทรายรีบหันหลังให้เขาในทันที “ท่านมาก็ดีแล้วค่ะ ช่วยเปิดประตูให้ทรายหน่อย พอดีว่าทรายเปิดไม่ออก” ใช่ หันหลังแบบนี้น่าจะดีกว่า เธอควรหันหน้าเข้ากำแพงเพราะว่าเธอไม่อยากหันหน้ากลับไปมองหน้าเขา และหากว่าหันกลับไปเธอคงจะไม่ได้มองหน้าของเขานะสิ สายตาไม่รักดีของเธอคงจะมองส่วนนั้น..ของเขาอีกแน่นอน ขุนเขาเดินเข้ามาใกล้เม็ดทราย เขาเอื้อมมือไปวางเอาไว้บนผนังโดยกักตัวเธอเอาไว้ในอ้อมแขน พร้อมๆ กับขยับสะโพกเข้าไปใกล้จนส่วนที่ร้อนผ่าวของเขาทาบลงไปบนต้นขาของเธอ เม็ดทรายสะดุ้งเฮือกกับการกระทำของเขา นี่ใช่ท่านประธานแน่เรอะ เขาที่ไม่เคยชายตามองเธอในฐานะผู้หญิงเลยแม้แต่ครั้งเดียว อันที่จริงเขาไม่เคยมองใครด้วยสายตาที่แตกต่างกันเลยต่างหาก แววตาที่เย็นชาประดุจน้ำแข็งของเขามันเป็นสิ่งที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี แต่ทว่าในตอนนี้เขากลับมองเธอด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป “ผมเห็นนะว่าคุณจ้องมันด้วยสายตาที่เป็นประกายแค่ไหน” ขะ..เขาหมายถึงอะไรกันฟะ? “คือ..ทรายไม่ได้ตั้งใจจะมอง” ไม่จริงเลยเธอตั้งใจมองมันมากๆ เพียงแต่จะให้บอกกับเขาว่าเธอตั้งหน้าตั้งตามองเขาที่กำลังช่วยตัวเองนั่นมันก็ยังไงๆ อยู่ “เม็ดทราย..หันกลับมาคุยกันดีๆ หน่อยสิ เพราะคำที่คุณพูดออกมาผมไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดกับผมหรือว่าพูดกับผนัง” เธอยกมือขึ้นมาเพื่ออุดปากกรีดร้อง แน่นอนว่าในฐานะเจ้านายและลูกน้อง เธอและเขาไม่เคยเข้าใกล้กันมากขนาดนี้มาก่อนเลย วันนี้มันวันบ้าอะไรวะ หรือว่าเธอตายไปแล้ว.. เธอคงจะทำงานอย่างหนักแล้วตายคาโต๊ะทำงาน ส่วนนี่คือจิตสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่ ต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ เพราะคนอย่างท่านประธานมีหรือจะพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงแบบนี้ “!!” สิ่งที่ดึงสติของเม็ดทรายคงจะเป็นส่วนนั้นของเขาที่มันมุดเข้าไปด้านในกระโปรงของเธอ เม็ดทรายรีบหันหน้ากลับมาหาท่านประธานของเธอในทันที “ทรายต้องกลับบ้านค่ะ!” “จะด่วนไปไหน ในเมื่อพรุ่งนี้เป็นวันหยุด คืนนี้เธอนอนที่นี่ได้นะ ป่านนี้รถประจำทางน่าจะหมดแล้ว” เธอจะนอนที่นี่ทำไมก่อน “เดี่ยวทรายเรียกแท็กซี่กลับก็ได้ค่ะ ขอบคุณท่านประธานที่เป็นห่วง” ขุนเขายกมือขึ้นมาเสยผมสีดำสนิทของตัวเองไปไว้ด้านหลังอย่างหมดความอดทน เธอทำท่าเหมือนกับลูกกระต่ายตัวน้อยที่กำลังหาทางหลบหนีจากอุ้งเท้าของราชสีห์ ดวงตานั้นสั่นระริกเช่นเดียวกับริมฝีปากเลย และมัน..น่ารักมากจริงๆ “มาคุยกันก่อนสิ” คุยอะไรอีก... “หากจะคุยกันท่านควรจะไป..ใส่กางเกงให้เรียบร้อยก่อนไหมคะ” เธอพูดพร้อมกับก้มหน้าลง และคำกล่าวของเม็ดทรายมันทำให้ขุนเขาระเบิดหัวเราะออกมาเสียงดังทีเดียว เธอจ้องมองรอยยิ้มของเขาที่มันไม่ได้เสแสร้งหรือว่าแกล้งทำ และรอยยิ้มที่ผลิบานราวกับดอกไม้ของเขาทำเอาเม็ดทรายชะงักไปเลยทีเดียว เธอกำลังหลงอยู่ในเสน่ห์ที่ร้ายกาจของท่านประธานให้ตายเถอะ ดึงสติเดี๋ยวนี้นะเม็ดทราย เขาคว้าเสื้อคลุมอาบน้ำมาสวมทับก่อนจะนั่งลงบนโซฟาอีกครั้ง ส่วนเม็ดทราย เธอจำใจเดินตามเขาไปอย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่นัก “ก็เมื่อกี้เห็นจ้องมันขนาดนั้น นึกว่าชอบมองซะอีก..”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม