ตอนที่ 11
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา
วันนี้เป็นวันที่เอกดนัยจะพานันท์นภัสหลานสาวไปเที่ยวญี่ปุ่น เธอตื่นเต้นมากเพราะนี่จะเป็นครั้งแรกที่จะได้อยู่กันตามลำพังกับคุณอาของเธอ ในสถานที่ที่เธอโปรดปราน
บ้านเล็กบนเกาะฮอคไคโด คือสิ่งที่เอกดนัยจองเอาไว้เพื่อพาหลานสาวมาพักผ่อนในช่วงปิดเทอม ฟูตองของโรงแรมนี้นุ่มมากนอนสบายไม่เลว เขาดึงผ้านวม..ห่มตัว แล้วหันไปหาหลานสาวที่นอนซุกอยู่ข้างด้วยความหนาวเหน็บ เอกดนัยขยับเข้าไปชิดและกอดเธอเอาไว้แนบแน่น
“เนเน่จ๋า หนาวหรือเปล่า” สิ้นเสียงทุ้มร่างบางก็ซุกหน้าเข้าหาแผ่นอกเปลือยเปล่าของผู้เป็นอา หน้าของเด็กสาวเย็นตามอากาศด้านนอก ขนตากะพริบขยุกขยิกกับผิวเนื้อของเขา มือเล็ก ๆ เกาะกอดเขาไว้เป็นหลักขณะที่เขาโอบกอดเธอเอาไว้อย่างอ่อนโยน
เอกดนัยหันมากอดหลานสาวอย่างเป็นจริงเป็นจริง นันท์นภัสกอดตอบคุณอาของเธอ ไออุ่นจากเรือนกายและผ้าห่มนวมช่วยให้เด็กสาวอบอุ่นขึ้นในไม่ช้า เธอขยับตัวและศีรษะให้แก้มวางแนบบนไหล่ของเขา ก่อนจะใช้เรือนร่างนุ่มนิ่มเบียดเข้าซุกร่างใหญ่ของเขา
เอกดนัยอดไม่ได้ที่จะก้มลงจูบหัวไหล่มน ตรงที่โผล่พ้นลูกไม้สีชมพูอ่อน เท่านั้นเองแรงปรารถนาในกายก็ลุกโชนเหมือนไฟ หลานสาวคงไม่รู้หรอกว่าเขารักเธอมากแค่ไหน ต้องการมากแค่ไหน เพียงหลานสาวเข้ามานอนซุกซบ เลือดในกายของผู้เป็นอาก็พลุ่งพล่านไม่หยุดหย่อน แล้วคืนนี้เขาจะหักห้ามใจกันได้อย่างไรหนอ ทุกครั้งที่นอนด้วยกันเขาไม่เคยเลยเถิดไปมากกว่าการกอดและจุมพิตเลย
ผู้เป็นอาไล่จูบไปตามเรือนร่างของหลานสาวไปทั่ว ริมฝีปากหยักจูบไล่ลงมาตามแขนแล้วก็ข้อมือ ไม่เว้นแม่แต่นิ้วแต่ละนิ้ว เขาพลิกตัวและเริ่มจูบหล่อนอย่างเป็นจริงเป็นจังเมื่อหลานสาวมีท่าทีตอบสนองต่อการสัมผัส ริมฝีปากร้อนไล่จูบอีกครั้งที่ลำคอระหงและระเรื่อยขึ้นไปถึงใบอันหูบอบบาง ก่อนจะย้ายมาลงมาจูบที่ริมฝีปากอิ่มเคล้าเคลียแนบชิด ริมฝีปากอวบอิ่มของหลานสาวเริ่มมีปฏิกิริยาเคลื่อนไหว จูบตอบผู้เป็นอาจนทั้งคู่สนองอารมณ์ความต้องการให้กันและกัน จนเกือบจะเลยเถิด เอกดนัยจึงรีบหยุดแล้วค่อย ๆ พูดกับเธอ
“อาคงทำได้เพียงเท่านี้จริง ๆ เนเน่ เป็นหลานแท้ ๆ ของอา อาไม่ควรทำไปอะไรไปมากกว่านี้แล้ว”
“อาเอกขา อย่าเพิ่งไปคิดเรื่องนั้นเลยค่ะ เนเน่ไม่บอกใครหรอก”
“ไม่ได้หรอก เนเน่ ถึงอย่างไรอาก็รู้สึกผิดอยู่ดี” เด็กสาวดึงแขนของเอกดนัยไปกอด จากนั้นจึงนอนคุยกัน
“อาเอกเคยนึกสงสัยเรื่องพินัยกรรมของคุณพ่อบ้างมั้ยคะ ว่าทำไมคุณพ่อถึงยอมให้เนเน่แต่งงานกับคุณอาได้ ทั้ง ๆ ที่คุณอาก็เป็นอาแท้ ๆ”
“เรื่องพินัยกรรมอาก็แปลกใจมาจนถึงทุกวันนี้แหละ อาว่ามันจะต้องมีอะไรมากกว่านั้น”
“เนเน่จะบอกให้อาเอกรู้เสียตั้งแต่วันนี้...ว่าเนเน่ ไม่ใช่ลูกสาวของคุณพ่อวีรยุทธหรอกค่ะ”
“เน่เน!!! เอาอะไรมาพูด”
“เนเน่รู้เรื่องนี้มาสักพักแล้วค่ะ ตอนนั้น คุณพ่อเรียกเนเน่ไปถาม” หลานสาวตะแคงหน้ามาพูดใกล้ ๆ หูของเขา
“ถามเรื่องอะไรเหรอ”
“คุณพ่อถามว่า เนเน่รักอาเอกหรือเปล่า ตอนนั้นอาเอกเพิ่งเรียนจบกลับมา เนเน่ก็เพิ่งอยู่ ม.6”
“แล้ว.ตอนนั้น เนเน่ตอบคุณพ่อไปอย่างไรเหรอ...”
“เนเน่ก็สารภาพความจริงไปค่ะ เพราะยังไงคุณพ่อก็ดูออก เนเน่ไม่สามารถปกปิดความรู้สึกที่มีต่ออาเอกได้เลย อาเอกรู้อะไรมั้ยคะ”
“อะไรหรือครับ..คนดี” ชายหนุ่มขยับร่างบางให้แนบชิดมากขึ้น
“คุณย่าเป็นคนเดียวที่แอบเอาเส้นผมของเนเน่ไปตรวจดีเอ็นเอ แล้วหลังจากนั้นแม่ของเนเน่ก็ถูกให้ออกจากบ้านไป คุณพ่อปิดเรื่องนี้มาตลอดหลายปีเพราะกลัวเนเน่จะเสียใจ จนวันหนึ่งพอคุณย่าเสีย คุณพ่อก็บอกความจริงกับเนเน่ และเอาหลักฐานการตรวจให้เนเน่ดู”
“จริงเหรอเนี่ย!! อาไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนเลย เนเน่ไม่ได้หลอกอาใช่มั้ย”
“ไม่ได้หลอกค่ะ เนเน่พูดความจริง ถ้าอาเอกไม่เชื่อกลับไปเนเน่จะเอาหลักฐานที่ห้องคุณย่าให้ดู”
“โธ่...เนเน่ของอา” เขาลูบศีรษะของหลานสาวด้วยความสงสารปนดีใจ
“อาเอกไม่ต้องกลัว อาเอกกับเนเน่ไม่ใช่รักต้องห้าม แม่ของเนเน่รู้ดีแต่ว่าท่านไม่ยอมบอกคุณอา” สิ้นเสียงหวานที่จบลงท่ามกลางความเงียบเหมือนกับทุกอย่างเป็นใจ เอกดนัยจึงไม่รอช้า รีบทำตามใจปรารถนาทันที นันท์นภัสเกิดอารมณ์ตอบสนองหลังจากที่เด็กสาวถูกเล้าโลมมานาน