บทที่ 4

1378 คำ
“คุณป้า!” เป็นมุกดาที่รีบปรี่เข้ามาประคองร่างอ่อนแอเอาไว้ ในใจนึกโทษไปถึงคนใจร้ายที่ไม่ยอมหันกลับมาดูดำดูดีแม่ตัวเองเลย “ป้าไม่เป็นไร หนูอย่าไปฟังที่พี่เขาพูดนะลูก ไม่ต้องไปใส่ใจ” แม้ท่านจะปลอบใจเธอแบบนั้นแต่ใครเลยจะปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปได้ “อย่าไปบังคับคุณธัญญ์เลยนะคะคุณป้า” เธอคงพูดได้เท่านี้ และหวังว่าท่านจะยอมเข้าใจว่าไม่ว่าจะเมื่อไรธัญญ์ก็ไม่มีวันรักเธอ ความจริงแล้วเรื่องที่พ่อของเธอเอาชีวิตตัวเองเข้าปกป้องพ่อเขามันก็ผ่านมาเป็นสิบ ๆ ปีแล้ว เธอเองก็ไม่ได้ร้องขออะไร เพราะเท่าที่ทุกคนให้มามันก็มากเกินพอแล้ว “ไม่ได้ ป้าคงตายตาไม่หลับแน่ถ้าตาธัญญ์เอาผู้หญิงร้ายกาจคนนั้นมาทำเมีย ถือว่าเห็นแก่ป้าสักครั้ง มุกช่วยป้านะลูก แต่งงานกับพี่เขา” คำถามมันไม่ได้อยู่ที่ว่าเธออยากแต่งงานกับเขาหรือเปล่า แต่มันขึ้นอยู่กับว่าเขาจะยอมแต่งกับเธอหรือเปล่านี่สิ และเท่าที่เห็นเมื่อครู่ก็ชัดเจนมากพอแล้วว่าคำตอบของเขาคือ ‘ไม่’ เป็นอีกครั้งที่ดนูต้องแบกรับความหนักใจเพื่อเข้ามาเจรจากับบุตรชายถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ ภายในบ้าน ทันทีที่เข้าใกล้เขาก็ทิ้งตัวลงนั่ง สายตาจ้องมองไปที่ร่างสูงใหญ่ของอีกฝ่าย ที่ยิ่งโตก็เหมือนยิ่งถอดแบบตนเองสมัยหนุ่ม ๆ ออกมาให้เห็นราวกับฝาแฝด จะต่างกันก็แต่นิสัยที่เหมือนลูกชายจะได้ผู้เป็นตาไปจนหมด ยิ่งไอ้ความเด็ดเดี่ยวไม่ยอมใครยิ่งเหมือนราวกับส่องกระจก            “ผมมีคนรักอยู่แล้วครับพ่อ แล้วผมก็รักเธอมากด้วย ที่สำคัญผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับเด็กนั่น ไม่ว่าพ่อจะพูดยังไงคำตอบของผมก็จะไม่มีวันเปลี่ยนไปจากนี้ครับ” เรื่องนั้นเขาเองก็พอจะรู้เรื่องมาจากภรรยาอยู่บ้าง อีกทั้งท่าทีที่ลูกชายแสดงออกกับหนูมุกดาก็เห็นชัดว่าไม่มีความชอบพอแอบแฝงอยู่ในแววตาเย็นชาคู่นี้เลยแม้แต่น้อย ทั้ง ๆ ที่เด็กในปกครองของภรรยาก็ออกจะน่ารัก แต่แค่ความน่ารักเห็นทีคงเอาชนะใจลูกชายของเขาไม่ได้ ซึ่งนั่นก็น่าเห็นใจเด็กทั้งสองอยู่ไม่น้อย แต่ในส่วนของภรรยานั้นก็คงยากจะอธิบายเช่นกัน          “น้องไม่ไว้ใจผู้หญิงคนนั้นเลยค่ะคุณพี่ มองตาก็รู้แล้วว่าตั้งใจจะจับตาธัญญ์ ยังไงน้องก็ไม่ยอมรับผู้หญิงแบบนั้นมาเป็นสะใภ้แน่ คนเดียวที่น้องคิดว่าเหมาะสมกับตาธัญญ์มีแค่ยัยมุกคนเดียว” เมื่อภรรยายื่นคำขาดมาเช่นนั้น เขาในฐานะสามีจะกล้าไปขัดใจอะไรได้          “ตั้งแต่ธัญญ์เกิดมา พ่อยังไม่เคยขออะไรธัญญ์เลยสักอย่าง ถ้านี่เป็นสิ่งแรกที่พ่อจะขอ ธัญญ์ให้พ่อได้ไหมลูก” แม้จะรู้ว่าคำขอนี้อาจทำให้ลูกรู้สึกว่าถูกบังคับ แต่เพื่อความสบายใจของภรรยาที่ตอนนี้ป่วยเป็นโรคหัวใจแล้วเขายินดีทำทุกอย่างเพื่อความสบายใจของเธอ และก็เชื่อว่าลูกชายเองจะเข้าใจถึงความหวังดีนี้ในสักวันหนึ่ง            “แต่พ่อครับ”            “แต่งกันไปก่อน ค่อย ๆ เรียนรู้กันไปจนกว่าน้องจะเรียนจบ ถึงวันนั้นถ้าธัญญ์ยังยืนยันคำเดิมว่าไม่ได้รู้สึกอะไรกับน้อง พ่อจะเป็นคนไปคุยเรื่องนี้กับแม่เราเอง” เมื่อพ่อยืนยันมาแบบนั้นเขาจะว่าอะไรได้ แต่ถึงต่อให้ตกลงก็ยังต้องเรียกอีกคนให้ทำความเข้าใจก่อน          “ที่ฉันยอมแต่งงานกับเธอก็เพราะถูกแม่บังคับ หลังจากเธอเรียนจบเราสองคนจะเข้าไปหาท่านพร้อมกัน และเธอจะต้องเป็นคนไปบอกท่านด้วยตัวเองว่าเราสองคนไปกันไม่รอด ถ้าเธอเอ่ยปากด้วยตัวเองยังไงท่านก็ต้องยอมให้เราหย่ากัน” นี่นับเป็นประโยคที่ยาวที่สุดเท่าที่ ‘เขา’ เคยพูดกับเธอ มันคงดีกว่านี้หากประโยคที่แสนยาวนี้ไม่ได้สร้างความเจ็บปวดให้ได้รู้สึก แต่จะไปโทษเขาก็คงไม่ได้            คนไม่รักจะมาบังคับให้รักได้อย่างไร เพราะรู้ซึ้งถึงความชัดเจนนี้ดีเธอจึงทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้ เขาว่ามาแบบไหนก็คงต้องสุดแล้วแต่ใจเขาต้องการก็เท่านั้น            “เธอต้องหย่าให้ฉันทันทีที่เรียนจบ และอย่าได้พยายามยื้อเวลาเด็ดขาดเมื่อเวลานั้นมาถึง เพราะฉันมีคนที่ฉันรักและอยากแต่งงานอยู่แล้ว ซึ่งคน ๆ นั้นไม่ใช่กาฝากอย่างเธอ” มุกดาจำต้องตอบรับคำสั่งนั้นเบา ๆ เพราะไม่อยากสร้างปัญหาให้เขาไปมากกว่านี้          เมื่อทำความเข้าใจกับคนโปรดของมารดาเป็นที่เรียบร้อยธัญญ์ก็รีบขับรถออกมาหาคนรักที่คอนโดฯ ในทันที เพื่อบอกให้เธอได้รู้จากปากของเขา ซึ่งแน่นอนว่าทันทีที่รู้แขไขก็เกิดอาการไม่พอใจทันที            “แม่คุณพยายามจะกันแขออกไปจากชีวิตคุณใช่ไหมคะท่านถึงได้ทำแบบนี้ แขไม่ยอมนะคะธัญญ์” ไม่มีใครรับได้ที่ต้องกลายเป็น ‘เมียน้อย’ ทั้ง ๆ ที่มาก่อน เธอคนหนึ่งล่ะที่ไม่มีทางยอมแน่            อีแก่นั่นมันฉลาด อีกทั้งยังแผนสูง แต่คิดจริง ๆ เหรอว่าเรื่องแค่นี้จะหยุดเธอได้ เพราะถึงต่อให้เธอคิดอยากจะยอมแพ้ ลูกชายสุดที่รักของมันก็คงไม่ยอมอยู่ดี เพราะเขารักเธอมาก ซึ่งนี่ต่างหากที่มันทำให้เธออยู่เหนือกว่าทุกคน            “แค่สี่ปีเท่านั้นครับแข ผมจะรีบหย่าทันทีที่เด็กนั่นเรียนจบ แขเชื่อใจผมนะครับ ผมไม่มีวันรักผู้หญิงคนนั้น” แม้จะค่อนข้างมั่นใจว่าถึงวันนั้นเมื่อไรมารดาคงมีแผนสำรองเตรียมไว้รอ แต่ธัญญ์ก็เชื่อมั่นในคำสัญญาของพ่อที่มีต่อเขาอยู่ ว่าท่านจะทำทุกอย่างให้ง่ายขึ้นสำหรับทุกคน และไม่ว่าจะยังไงเขาก็เชื่อในความรู้สึกตัวเอง ความรู้สึกที่ว่าคนที่เขารักคือแขไข เธอคนเดียวเท่านั้น            “ธัญญ์แน่ใจเหรอคะว่าถ้าถึงวันนั้นแม่คุณจะยอมให้คุณกับผู้หญิงคนนั้นหย่ากัน” เธอเคยพบแม่ของแฟนหนุ่มอยู่หลายครั้ง เห็นชัดว่านังแก่นั่นไม่ค่อยปลื้มเธอเท่าไร ต่างจากลูกชายของท่านที่หลงเธอจนแทบจะโงหัวไม่ขึ้น เพราะเหตุนี้เลยทำให้เธอกับเขายังคบกันมาจนถึงทุกวันนี้ เขาเลือกที่จะมองข้ามความไม่ชอบของแม่ตัวเองเพื่อรักษาความสัมพันธ์ของเธอไว้ แค่นี้ก็ทำให้รู้แล้วว่าเขารักเธอ ต่อให้คนทั้งโลกจะเกลียดเธอแต่เขาก็ยังยืนกรานว่ารักเธออยู่ดี            “ต่อให้แม่ไม่ยอมผมก็จะหย่า ถึงตอนนั้นจะไม่มีใครมาบังคับผมได้อีก แขรอผมนะครับ ผมรักคุณ ไม่มีวันที่ผมจะไปรักคนอื่นโดยเฉพาะกับเด็กคนนั้น ทันทีที่หย่ากับเขาเราจะแต่งงานกันทันที” คราแรกตั้งใจว่าหัวเด็ดตีนขาดอย่างไรก็จะไม่ยอมรับ แต่พอได้ยินเขาเอ่ยถึง ‘งานแต่งงาน’ อกที่ร้อนรุ่มไปด้วยความไม่พอใจก็สงบลงทันที            “แขเชื่อใจธัญญ์ได้ใช่ไหมคะ” อย่างน้อยถ้ามีงานแต่งงานเกิดขึ้นเธอก็ไม่ต้องกลัวใครหน้าไหนอีก ซ้ำยังเหมือนได้ฉีกอกนังแก่นั่นด้วย ไม่ว่าจะมองในมุมไหนก็ได้ความสะใจกลับมาแบบเห็น ๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม