เพราะรักสุดใจ EP.11 ผู้ช่วยในแผนการ (1)

1409 คำ
กิตติภพเดินมาหยุดอยู่ด้านหลังของเพื่อนรักด้วยท่าทีขบขันแกมประหลาดใจ ในเมื่อไปพักที่ไร่ปลายตะวัน แล้วไอ้เครื่องมือเดินป่านี่มันอะไรกัน เพื่อนเขาเตรียมตัวไปเดินป่าด้วยหรือไง “จะเข้าป่าเหรอไอ้วัฒน์” “มาแล้วเหรอไอ้กฤต เร็วดีนี่หว่า” ภานุวัฒน์กลับพูดไปอีกเรื่อง นี่ยังไม่ถึงสามชั่วโมงตามที่เพื่อนรักบอกเขาเอาไว้เลย พอคุยกับเขาเสร็จ กิตติภพก็มุ่งตรงไปยังสนามบินเลย ส่วนไอ้เสื้อผ้าก็น่าจะสั่งให้ลูกน้องเป็นจัดการให้ สรุปว่าเจ้าเพื่อนรักจอมอวดดีคนนี้ อยากพบอดีตคนรักเป็นอย่างมาก “พูดมากนะ อย่าว่าแต่ฉันเลย แกก็อยากเจอยัยตัวเล็กเหมือนกันไม่ใช่เหรอ” “แกกับฉันก็พอๆ กันแหละไอ้กฤต หึหึหึ” เสียงที่ดังออกมาจากปากของเพื่อนรัก ทำให้กิตติภพหงุดหงิดหัวใจไม่น้อย มาทำเสียงดูถูกเขา อย่าว่าแต่เขาเลย ไอ้เพื่อนจอมเย็นชาคนนี้ก็ไม่ได้ต่างจากเขานักหรอก โธ่เฮ้ย...ดันมาทำเป็นพูดดี แบบนี้มันน่าตบให้หัวทิ่ม “อย่ามากวนส้นตีนฉันนะไอ้วัฒน์ คนยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่” “ฉันกวนแกตรงไหนวะ ฉันก็นั่งเก็บของใส่กระเป๋าของฉันอยู่ดี แกก็เข้ามาพูดอะไรก็ไม่รู้” ภานุวัฒน์ทำเสียงขึ้นจมูก บ่งบอกว่าเขาเองก็เริ่มไม่พอใจแล้วเหมือนกัน คนยิ่งรีบๆ อยู่ ดูมันทำหน้าเข้าสิ เขาล่ะเบื่อเจ้าเพื่อนรักจอมอวดดีคนนี้จริงๆ เรื่องทั้งหมดมันเกิดมาจากความเอาแต่ใจ ไม่คิดของกิตติภพนี่แหละ ปัญหามันเลยบานปลาย เลยเถิดมาถึงตอนนี้ “นี่แกอย่ามาโทษฉันนะไอ้วัฒน์ ฉันรู้ว่าฉันผิด แต่แกจะให้ฉันทำยังไง ในเมื่อเรื่องมันก็เกิดขึ้นแล้ว” ใช่...เขารู้ว่าเขาผิด แต่จะให้เขาทำยังไงในเมื่อตอนนี้เขาเองก็เจ็บปวด ทรมานไม่น้อยกับเรื่องที่ทำผิดพลาดไปในอดีต ใครไม่เป็นเขาไม่มีทางรู้หรือว่าหัวใจของเขา มันทรมานจนแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว แต่เขาก็ไม่สามารถทำอย่างที่ใจคิดได้ เพราะเขายังมีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ “ช่างเถอะ แกเก็บของเรียบร้อยหรือยัง” ภานุวัฒน์ตัดบท “เรียบร้อยแล้ว ก็เอาเสื้อผ้าไปสองสามชุด” “โอเค งั้นก็ไปกันเถอะ” หากปลายตะวันไม่ยอมให้เขาพักอยู่ในไร่ด้วย เขานี่แหละจะฉุดเจ้าหล่อนเข้าไปเที่ยวในป่าสักอาทิตย์ จากนั้นก็ค่อยพากลับมา จากนั้นเขาก็ไปขอขมาพ่อเลี้ยงราเชนทร์ แม่เลี้ยงปลายรุ้ง จากนั้นก็ขอแต่งงานกับปลายตะวันไปเลย ให้มันรู้ไปสิว่าหายไปกับเขาเป็นอาทิตย์แบบนี้ว่าที่พ่อตากับแม่ยายจะไม่ยอมให้เขาแต่งงาน กิตติภพพยักหน้าก่อนหยิบกระเป๋าสะพายขึ้นแบก แล้วเดินตามภานุวัฒน์ไป แม้ว่าในใจรู้สึกสงสัยในตัวของเพื่อนรักไม่น้อยกับของในกระเป๋าเป้ คงไม่ได้หมายความว่าเจ้าเพื่อนรักมันคิดฉุดปลายตะวันเข้าไปอยู่ในป่าหรอกนะ ของแต่ล่ะที่เขาเห็นมันเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเดินป่าแทบทั้งนั้น “แล้วยัยตัวเล็กของแกจะยอมให้เราสองคนพักอยู่ที่ไร่หรือไง” “ฉันมีแผนแล้ว แกไม่ต้องเป็นห่วง” “หวังว่าคงจะสำเร็จนะไอ้วัฒน์” ถึงแม้ว่าเขาไม่แน่ใจแผนของเพื่อนรักสักเท่าไหร่ แต่ตอนนี้เขาก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน ลองแผนของภานุวัฒน์ก่อน หากไม่สำเร็จเขาก็ลงมือบ้างเหมือนกัน กิตติภพเริ่มคิดแผนของตัวเองไว้เหมือนกัน เขาไม่ยอมพลาดเมื่อในอดีตอย่างแน่นอน////////// ปลายตะวันยังเดินวุ่นอยู่ในแปลงกุหลาบ หญิงสาวร่างเล็กกำลังเดินตรวจแปลงกุหลาบอย่างตั้งอกตั้งใจ ใบหน้าหวานจ้องมองต้นกุหลาบแต่ล่ะต้นอย่างชื่นชม ปีนี้ดูเหมือนว่าต้นกุหลาบของเธอดูแข็งแรงและให้ดอกมากกว่าปีที่แล้ว ไร่กุหลาบปลายตะวันนั้นปลูกกุหลาบเอาไว้หลายพันธุ์ด้วยกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วไร่กุหลาบปลายตะวันนิยมปลูกกุหลาบตัดดอกหรือไฮบริดทีมากกว่ากุหลาบชนิดอื่น กุหลาบในไร่ปลายตะวันมีอยู่หลายพันธุ์ด้วยกัน เช่น พันธุ์ดอกสีแดง พันธุ์ดอกสีเหลือง พันธุ์ดอกสีส้ม พันธุ์ดอกสีชมพู พันธุ์ดอกสีขาว และพันธุ์ดอกสีอื่นๆ และไร่ปลายตะวันยังปลูกกุหลาบพันธุ์ฟูซิเลียร์ ซึ่งมีดอกสีส้ม เอาไว้สำหรับเด็ดดอกร้อยพวงมาลัย “แปลงนี้ใกล้จะตัดดอกได้แล้วล่ะ” “ไม่ยักรู้ว่าที่ไร่ แบ่งกุหลาบแต่ล่ะพันธุ์ออกเป็นโซนด้วย เมื่อก่อนฉันไม่เห็นแกแยกแปลงนี่นา” นาราภัทรกวาดสายตาไปมองรอบๆ แปลงกุหลาบประมาณร้อยแปลงในภายใต้โรงเรือนพลาสติกโรงที่หนึ่ง หากเธอจำไม่ผิดพันธุ์กุหลาบในโรงเรือนที่หนึ่งคือพันธุ์ดอกสีแดง ได้แก่พันธุ์บราโว,เรดมาสเตอร์พีช, เวก้า คริสเตียนดิออร์, โอลิมเปียด, นอริค้า, แกรนด์มาสเตอร์พีช, ปาปามิลแลนด์ “ก็จะใครเสียอีก ถ้าไม่ใช่อีตาพี่วัฒน์จอมจุ้นจ้านนะ” “อย่าบอกนะว่าคุณวัฒน์เป็นคนเข้ามาจัดระบบในไร่กุหลาบของแกเสียใหม่” “แกพูดถูกแล้ว คุณแม่บอกว่าอีตาพี่วัฒน์เป็นคนเข้ามาดูแลแปลงกุหลาบให้ฉันเองกับมือ” ปลายตะวันนึกถึงเรื่องที่มารดาเล่าให้ฟังว่าภานุวัฒน์เข้ามาดูแล จัดการไร่แปลงกุหลาบให้เธอเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งตอนนั้นเธอยังอยู่เมืองนอก หากเธอรู้ว่าอดีตคนรักเข้ามาวุ่นวายกับแปลงกุหลาบในไร่ เธอก็คงรีบบินกลับมาขัดขวาง แล้วดูสิตอนนี้แปลงกุหลาบของเธอ โดนชายหนุ่มจัดการปรับปรุงแยกเป็นโซนเอาไว้จนหมด เมื่อก่อนโรงเรือนโรงที่หนึ่งมีกุหลาบอยู่สามพันธุ์ที่ปลูกรวมกัน แต่ตอนนี้เจ้ากุหลาบทั้งสามพันธุ์ถูกจับแยกไปอยู่โรงเรือนโรงอื่นเสียแล้ว ก่อนหน้านี้พ่อเลี้ยงราเชนทร์กับแม่เลี้ยงปลายรุ้งสร้างโรงเรือนเอาไว้ให้เธอสามสิบโรงเรือน แต่ตอนนี้กลับมีโรงเรือนเกือบเจ็ดสิบโรงเรือนเข้าไปแล้ว แยกตามพันธุ์ของกุหลาบก็เหลือเพียงเจ็ดโรงเรือน บางพันธุ์ก็มีเกือบสิบโรงเรือน แต่ชื่อของโรงเรือนมีทั้งหมดเจ็ดสายพันธุ์มั้งหรืออาจมากกว่านั้น ที่สำคัญยังมีชื่อเรียกตามพันธุ์กุหลาบที่ปลูกอีกด้วย “ฉันว่าก็ดีนะ ดูสวยดีออก อีกอย่างที่ฉันสงสัย” “สงสัยอะไรของแกอีกฮะ” น้ำเสียงหวานใสชักจะขุ่นเคืองกับอาการสงสัยของเพื่อนรัก นาราภัทรก็เป็นเสียแบบนี้ ไม่ว่าเรื่องอะไรที่ภานุวัฒน์ทำให้เธอ เพื่อนรักของเธอคนนี้ก็จะเห็นดีเห็นงามไปด้วย ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะบ่นว่าสิ่งที่อดีตคนรักทำให้เธอนั้นเป็นสิ่งไม่ดี “เมื่อก่อนมีแค่สามสิบโรงเรือนไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมตอนนี้มีเพิ่มมาอีกสี่สิบล่ะ อย่าบอกนะว่าคุณวัฒน์เป็นคนสร้างให้นะ” “ใช่ คุณวัฒน์ของแกนั่นแหละที่สร้างให้” “แฟนใครเนี่ยน่ารักจังเลย” “แต่ไม่ใช่แฟนฉันก็แล้วกัน” เธอชักจะหงุดหงิดขึ้นมาแล้วนะ ปลายตะวันชะงักเท้าแล้วก็ตวัดสายตามามองนาราภัทรอย่างเคืองๆ ยิ่งเห็นสีหน้ายิ้มเจ้าเล่ห์แกมหยอกล้อที่ส่งมาให้เธอสิ มันดูน่าโมโหไม่น้อย “อย่างอนสิคุณหนูจันทร์เจ้าขา” นาราภัทรยกมือขึ้นมาหยิกแก้มนวลอย่างเอาใจ นี่เธอแค่แกล้งนิดเดียวเองนะ ดูสิ แม่เพื่อนรักของเธอถึงกับหน้างอเป็นจวักตักข้าวเชียว หึหึ น่ารักซะไม่มี... “พูดถึงนะนารา แกดูสิแต่ล่ะโรงเรือนที่ปลูกกุหลาบ แกรู้ไหมว่าอีตาพี่วัฒน์ตั้งชื่อเอาไว้ด้วยนะ หลักๆ ก็มีเจ็ดโรงเรือน แบ่งออกเป็นเจ็ดสายพันธุ์ด้วย” “จริงเหรอ แล้วคุณวัฒน์ตั้งชื่อว่าอะไรบ้างล่ะ” ///////// ...โปรดติดตามตอนต่อไป...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม