"นี่คุณ!! ทำบ้าอะไรจู่ ๆ มาจูบปากฉัน ไอ้แก่ตัณหากลับ!" อารียาเธอผลักอกของผมออกห่างด้วยแรงที่มี พร้อมกับชี้หน้าด่าผมอย่างเอาเรื่อง มือหนึ่งก็เช็ดปากที่ผมฝังรอยจูบเอาไว้ เหมือนกับรังเกียจหรือขยะแขยง นี่เธอเป็นคนแรกเลยนะที่มีทีท่ากับคนอย่างผมแบบนี้ ทั้งที่ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนปฏิเสธคนอย่างผมสักครั้ง จากลักษณะแล้วเธอก็ไม่น่าจะสะอาดอะไร ทำไมถึงได้ดูเล่นตัวอย่างกับคนไม่เคยก็ไม่รู้ หรือว่าอาจจะแค่แสดงเพื่ออัปเกรดของตัวเอง...มันก็อาจจะใช่
"หึ!" ผมยกยิ้มมุมปาก ยืนจ้องมองเธออย่างไม่คิดเชื่อในท่าทางที่ดูหวงตัว
"หึบ้าหึบออะไร...ต้องเป็นคนประเภทไหนกันถึงได้กล้ามาจูบผู้หญิงที่เพิ่งจะเห็นหน้าครั้งแรกแบบนี้" เธอต่อว่าด่าทอเป็นภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่ว แววตาดุนั้นที่จ้องมอง แต่มันทำให้ผมกลับพอใจอย่างกับต้องมนตร์ หรือว่าคนอย่างอารียาเป็นแม่มดกันนะที่สามารถสะกดผมไม่ให้ละสายตาจากเธอได้
"มันคือการทักทาย.....ทำไมหลานของอาถึงได้ดูไม่มีมารยาทแบบนี้ล่ะครับ" ผมพูดขึ้นยืนสองมือล้วงกระเป๋ากางเกงอย่างไม่สะทกสะท้าน แต่นั่นก็แค่วางท่าไม่อยากให้เธอได้ใจ จ้องมองหน้าอารียาที่หน้าแดงก่ำนั่นคงเพราะโมโหผมนั่นแหละ
"ไอ้แก่ตัณหากลับ!" เธอจ้องหน้าตวาดผมเสียงลั่น
"ปากดีฉิบหาย" แต่มีเหรอคนอย่างผมจะยอมให้เธอด่าอยู่ฝ่ายเดียว
"นี่!!" อารียาหน้าบึ้งตึงจ้องมองผมอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ เป็นไปได้เธอคงอยากจะฉีกผมเป็นชิ้น ๆ ล่ะมั้ง แต่เหมือนว่าเธอยังพยายามยับยั้งอารมณ์โมโหเอาไว้ คงเพราะมีเชรคยืนอยู่ด้วย
"เอ่อ...ผมว่าอย่าทะเลาะกันเลยนะครับ คุณอารียาฝจเย็น ๆ ก่อนนะ ภายภาคหน้าพวกคุณก็ต้องทำงานด้วยกัน ความสามัคคีกันไว้ดีกว่านะ" เชรคต้องเข้ามายืนแทรกกลางระหว่างผมกับอารียา คงเพราะเห็นแล้วว่าท่าทีไม่ค่อยดี ก็เธอมันน่าแกล้งตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาเหยียบที่นี่ ท้าทายดีเหมือนกัน
"คำก็แก่ สองคำก็แก่ ระวังอย่ามาตกหลุมรักคนแก่อย่างอานะครับ....แม่หลานสาวปากร้าย" ผมยกยิ้มและพูดดักทางกับท่าทางโมโหของอารียา เธอได้แต่ยืนกำมือแน่นเมื่อทำอะไรผมไม่ได้ นั่นจึงทำให้ผมเลือกเดินสวนเธอไป
"ไม่มีทางหรอก คุณไม่ใช่สเปคของฉันสักนิด" แต่แล้วก็ต้องหยุดเดินแล้วหันกลับมามอง คำพูดของอารียามันสะกิดต่อมจนผมต้องกำมือแน่น เธอชักจะดูแคลนผมมากเกินไปแล้ว
"จะคอยดูแล้วกัน เพราะคนอย่างอา ไม่ว่าดาราหรือนางแบบก็อยากขึ้นเตียงด้วยทั้งนั้น" มือที่ล้วงกระเป๋าต้องกำแน่นอย่างเจ็บใจ แต่ต้องหันไปฉีกยิ้มให้แสดงถึงคำพูดของเธอไม่ได้มีผลต่อความรู้สึกของผม ไม่อย่างนั้นเธอคงได้ใจแน่ ๆ
"แต่คงไม่ใช่คนอย่างอารียาค่ะคุณอาตัณหากลับ!...คุณคงเป็นคนประเภทคำพูดส้มตำแต่การกระทำแกงจืด" อารียายกยิ้มร้าย สีหน้าเชิดหยิ่ง สายตามองมาที่ผม มันทำให้ผมเริ่มประหม่า และยิ่งคำพูดและท่าทางจองหองของเธอที่แสดงตอนนี้ เธอกำลังเยาะเย้ยผมทางแววตาที่เปล่งประกาย
"??...." ผมยืนนิ่งพยายามแปลความหมายในสิ่งที่เธอพูดจนคิดว่ามันจะใช่ คิดแล้วยิ่งเจ็บใจ ยัยเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ที่เริ่มทำผมหัวร้อนแทบอยากจะกดเธอให้จมเตียง
"ในเมื่อแนะนำตัวแลัรู้จักกันแล้ว...ดิฉันขอตัวไปพักผ่อนได้หรือยังคะ?"
"เชิญครับหลานสาวของอา ถ้ามีมารยาทพอก็อย่าลืมมาร่วมโต๊ะมื้อเย็นด้วยล่ะ เพราะมันคือธรรมเนียมของบ้านนี้"
"ค่ะ!!"
เธอมีสีหน้าที่เหมือนสะใจที่ทำให้ผมหัวร้อนได้ จากนั้นจึงพูดขออนุญาตแล้วเดินสวนไป ผมจึงทิ้งท้ายด้วยคำพูดที่ปั้นแต่งให้น่าฟัง ดักทางเธอกันได้ เพราะจากสถานการณ์แล้วผมกลัวว่าเธอจะพยายามหลีกเลี่ยง และนั่นทำให้เธอตอบกระแทกตอบรับก่อนจะเดินจ้ำเท้าไปยังห้องพักรับรองที่เชรคจัดการให้ ร่างกายอรชรของอารียาทำไมมันทำให้ผมรู้สึกว่าอยากจะลิ้มลองนะ...
"เชรค..." หลังจากที่อารียาเดินไปจนพ้น ผมจึงหันหน้าไปเชรค
"ครับ"
"ประโยคนั่นที่อารียาพูดมันหมายความว่ายังไง...อยากรู้ว่ามันจะเหมือนสิ่งที่ฉันกำลังคิดไหม?"
"เอ่อ...ผมก็ไม่ค่อยแน่ใจ เธออาจจะชมคุณนิโคไลก็ได้ครับ"
"นายคิดงั้นเหรอ? ทำไมฉันรู้สึกว่าอารียากำลังด่าว่าฉันดีแต่พูด"
"ผมไม่ขอออกความเห็นต่อแล้วกันครับ"
เธอมันร้ายที่สุดอารียา พบหน้ากันครั้งแรกก็ฝีปากดี และคนอย่างนิโคไล จะไม่มีวันยอมให้เธอด่าฟรี ๆ แน่นอน ถ้าเริ่มเข้าไปทำงานที่บริษัทเมื่อไหร่ รับรองเลยว่าเธอจะต้องโอนอ่อนต่อคนอย่างผม...และงานนี้คนที่ต้องเป็นเหยื่อก็คือเธอ อารียา