(นิโคลไล)
ผมระเริงรักกับคู่ขา ใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะจบสิ้น เรื่องแบบนี้ผมทำจนกลายเป็นความเคยชินแล้ว และผมก็ขาดมันไม่ได้
ติ่ง
เสียงข้อความดังขึ้น หน้าจอแจ้งเตือนเป็นของคนสนิทของผมที่ส่งเข้ามา
(คุณอารียามาถึงเมื่อสองชั่วโมงที่แล้วครับ...ตอนนี้เธอนั่งอ่านหนังสือที่ห้องนั่งเล่นด้านล่าง)
"ไอ้เชรค!! ทำไมเพิ่งบอกวะ!"
ข้อความที่ส่งมา ที่บ่งบอกว่าเด็กในอุปการะของพ่อมาถึงนานแล้ว มันทำให้ผมอารมณ์เสีย ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน หรืออาจจะเป็นเพราะผม เฝ้ารอเจอหน้าเธออย่างใจจดใจจ่อจนเกินไป
"อารมณ์เสียอะไรเหรอคะ"
นาตาลีที่เดินออกจากห้องน้ำทักขึ้น เป็นจังหวะเดียวกันกับผมตะเบ็งเสียงหงุดหงิดพอดี
"ผมมีธุระต่อ วันนี้พอแล้ว...คุณกลับไปได้ละ เรื่องนั้นเดี๋ยวผมให้คนจัดการให้นะครับ"
"ค่ะ"
ผมหันไปบอกกับคู่ขา ที่เรียกมาบริการถึงที่ และเธอก็รู้ดีว่าคนอย่างผมเป็นแบบไหน
เมื่อบอกว่าไม่! นั่นต้องรู้ความหมายและขอบเขตของตัวเอง เพราะหาล้ำเส้นจนผมเกิดรำคาญ ความสัมพันธ์ที่ผมมีให้จะถูกยุติลงทันที จะว่าผมเขี่ยทิ้งก็ย่อมได้
(ทำไมเพิ่งบอกวะ!) ผมพิมพ์ข้อความตอบกลับไปอย่างตำหนิลูกน้อง
(ตอนแรกผมจะพาเธอไปแนะนำแล้วครับ แต่ว่าได้ยินเสียงในห้อง ผมเลยต้องให้เธอไปพักผ่อนรอ)
(เวรเอ๊ย!!")
ลูกน้องคนสนิทของผมพิมพ์กลับมา เมื่อได้อ่านข้อความยาวเหยียด จึงพิมพ์โต้ตอบอย่างหงุดหงิด ก่อนจะปาโทรศัพท์มือถือลงเตียงนอน จนมันเด้งกระดอนตกลงพื้น
ผมรีบเดินไปจัดการกับตัวเองให้เรียบร้อย พร้อมกับหลุดถ้อยคำหยาบออกมาอย่างหัวเสีย เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามที่ผมต้องการ จึงรีบเดินออกจากห้องส่วนตัว
"ไปก่อนนะคะ..."
พอดีกับที่นาตาลีจัดการตัวเองเสร็จเช่นกัน ผมจึงหันไปมองหน้าเธอ แล้วยิ้มให้บาง ๆ
"ครับ...เรื่องนั้นเดี๋ยวผมบอกเชรคจัดการให้นะ จุ๊บ~"
ผมโอบเอวเธอไว้ แล้วหอมแก้มเธอเบา ๆ เป็นการบอกลา แล้วผมก็เดินลงมาข้างล่างพร้อม ๆ กับเธอ
"เดินทางปลอดภัยครับ"
"ขอบคุณค่ะ...อื้อ"
ผมยืนส่งนาตาลีตรงบันได แล้วอวยพรให้การเดินทางของเธอราบรื่น และจูบปากของเธอทิ้งท้ายอย่างดูดดื่ม ว่าจะไม่ทำแต่ก็อดไม่ได้ เมื่อเธอนั้นมีหลายอย่างดึงดูดผมให้เข้าหา ทั้งใบหน้าและลีลา แค่นึกภาพตอนเธออยู่บนเตียง ก็ทำให้คึกได้แล้ว แต่วันนี้มันหมดเวลาของเธอ
"อุ๊ย!!...ขอโทษค่ะ"
เสียงที่ขัดขึ้นในขณะที่ผมกับนาตาลีเคลิบเคลิ้มต่อรสจูบ ต้องแยกห่างจากกัน ผมจึงหันไปมอง ก็ต้องพบกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ตัวเล็กกว่าผมเยอะเลย แน่นอนว่าต้องใช่อารียา เพราะรูปลักษณ์ใบหน้าของเธอมันฝังอยู่ในหัวสมองของผม แต่เธอในตอนนี้ดูดีกว่าในรูปที่เชรคส่งมาซะอีก
"กลับได้แล้วครับ"
"บายค่ะ"
ผมยิ้มให้กับนาตาลีอีกครั้ง แล้วเธอก็เดินจากไป เมื่อพ้นสายตา ผมจึงหันมาสนใจกับอารียา ในใจแอบยิ้มกับรูปลักษณ์ภายนอกของเธอ ไม่คิดว่าเด็กอุปถัมภ์ของพ่อจะมีเสน่ห์ขนาดนี้
แต่ตอนนี้ต้องอยู่ในอาการนิ่งไว้ มองเธอด้วยแววตานิ่ง ๆ ตอนแรกเธอดูตกใจ แต่ตอนนี้เธอเปลี่ยนไปและจ้องมองผมด้วยแววตาที่ผมเดาไม่ออก มองบางมุมก็เหมือนเหยียด บางมุมก็เหมือนเย็นชา สีหน้าของเธอเรียบนิ่ง เราสองคนต่างจ้องหน้ากัน มองกันแบบตาต่อตา อย่างไม่มีใครยอมหลบสายตากันเลย
"คุณอารียา อยู่นี่เองผมหาคุณอยู่นาน" จนท้ายที่สุด ทั้งผมและเธอต้องหลบสายตา เพราะว่ามีเสียงคนอื่นดังแทรก
"มีอะไรกับฉันเหรอคะ" อารียาเธอหันไปถามเชรคที่เดินมาหยุดยืนข้างเธอ
"พอดีเลยครับ ผมว่าจะพาคุณอารียาไปแนะนำกับคุณนิโคลไล แต่นี่เจอหน้ากันแล้ว...ผมแนะนำตรงนี้เลยแล้วกัน...นี่คุณนิโคลไลเป็นลูกชายของคุณท่านครับ"
เชรคแนะนำผมให้อารียารับรู้ แล้วเธอก็หันหน้ามามองหน้าผม โคตรไม่ชอบสายตาแบบนี้ของเธอเลยครับ สายตาเธอมองผมเหยียด ๆ มองผมด้วยแววตาที่เหมือนกำลังเย้ยหยัน...
อารียาเธอไม่ธรรมดา!
และท่าทางของเธอที่เป็นตอนนี้ ผมรู้เลยว่าเธอไม่ชอบขี้หน้าของผม ซึ่งมันท้าทายคนอย่างผมซะเหลือเกิน...
"สวัสดีค่ะ" อารียาทักทาย พร้อมกับยกมือขึ้นแนบอก ก้มหัวลงเล็กน้อย เป็นการทักทายแบบไทยที่มีเสน่ห์จริง ๆ
ผมยกยิ้มแล้วมองสบตาเธอ ผมนิ่งยังไม่ตอบโต้อะไร เดินเข้าไปใกล้หยุดยืนตรงหน้าของเธอ แล้วโน้มตัวลง เหยียดยิ้มให้ในระยะใกล้อย่างท้าทาย ก่อนจะจับปลายคางของเธอให้เชิดขึ้น แล้วแตะริมฝีปากลงสัมผัสกับปากของเธอ
"เฮือก!" เธอสะดุ้งเล็กน้อยกับสิ่งที่ผมทำ และผมต้องการให้เธอจำว่าอย่าท้าทายคนอย่าง 'นิโคลไล'
"....ยินดีต้อนรับนะ 'อารียา' หลานสาวคนใหม่ของอา"