"เธอจะตอบแทนฉันยังไงในการช่วยเหลือเธอครั้งนี้ล่ะ"
เตชินมองจันทร์เจ้าอย่างเหยียด ๆ ทว่าแม้จะมองแบบนั้นเขากลับจ้องเธอไม่วางตา คล้ายกับเสือร้ายที่พร้อมจะกระโจนเข้าหาเหยื่อแล้วเคี้ยวอย่างช้า ๆ ด้วยความสะใจ
จันทร์เจ้าเม้มปาก เธอมองไปรอบ ๆ และเห็นว่าเลขาของเขายังอยู่ในห้องนี้ด้วย เตชินเห็นหญิงสาวไม่กล้าพูดจึงโบกมือไล่เลขาของตัวเองให้ออกจากห้องไป
"คุณพนอออกไปก่อน ถ้าไม่มีเรื่องด่วนจริง ๆ อย่าให้ใครมารบกวนผมจนกว่าผมจะเสร็จธุระ"
พนอเป็นเลขาของเขาและยังมองจันทร์เจ้าแปลก ๆ เหมือนว่าเธอจะหวงเจ้านายคนนี้มาก
จันทร์เจ้าเองกลับจ้องตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน เธอยังไม่ทิ้งนิสัยเย่อหยิ่งจองหองซึ่งเป็นนิสัยลูกคุณหนูเอาแต่ใจที่เธอมีมาแต่กำเนิด
เตชินเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ทำงานราคาแพงอย่างสบาย หญิงสาวกวาดสายตามองเขาทั่วใบหน้า เธอรู้ว่าเขาหน้าตาดีจนกระทั่งมีผู้หญิงมาหาที่บ้านของเธออยู่บ่อย ๆ แต่เธอไม่เคยรู้มาก่อนว่าเขาจะหน้าตาดีและดูสูงส่งจนเข้าไม่ถึงเหมือนในตอนนี้
เตชินเอียงคอเล็กน้อย
"ว่ายังไงล่ะ คุณหนูจันทร์เจ้าจะตอบแทนผมยังไง ถ้าหากผมช่วยคุณ"
จันทร์เจ้ายืดตัวขึ้นแล้วตอบอย่างมั่นใจ
"ภาษาอังกฤษฉันดี สมัยก่อนเคยฝึกงานในบริษัทของคุณพ่อและเรียนรู้งานมาบ้างฉันสามารถเป็นเลขาของนายได้"
เตชินหัวเราะ "เธอยังอวดดีสินะ แม้กระทั่งตอนซมซานมาขอความช่วยเหลือก็ยังเรียกฉันว่า นาย"
จันทร์เจ้าเพิ่งนึกได้ เธอเคยชินกับการเรียกแทนตัวเขาว่านายมานาน ใช่ เพราะเขาคืออดีตลูกคนรับใช้ในบ้านของเธอและเพิ่งออกจากบ้านของเธอได้แค่สองสามปีก่อนที่ครอบครัวของเธอจะล้มละลายและเขากลายมาเป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง เจ้าของกิจการและยังมีแอพพลิเคชั่นขนส่งที่มีสาขาทั่วประเทศหลายพันสาขาในตอนนี้
เพราะเธอและเขาคุ้นเคยกัน ในตอนที่เธออับจนเธอจึงไม่มีทางเลือกวิ่งมาขอความช่วยเหลือจากเขา
"อ้อ ฉันขอโทษ แล้วนาย เอ๊ย..."
จันทร์เจ้าไม่รู้ว่าจะเรียกเขาว่ายังไง เตชินหัวเราะแล้วพูดว่า
"ช่างเถอะ ดูก็รู้ว่าความตั้งใจไม่มีเธอกลับไปเถอะ คุณหนูจันทร์เจ้าคนยโสแบบเธอฉันไม่อยากยุ่งเกี่ยว"
ถ้าเป็นเมื่อก่อนจันทร์เจ้าคงหยิบเอกสารที่กองอยู่บนโต๊ะของเขาฟาดหน้าเตชินไปแล้ว แต่ตอนนี้เธอไม่มีทางเลือกนอกจากยอมทิ้งศักดิ์ศรีขอร้องเขา
"คุณเตชินคะ ฉันเดือดร้อนจริง ๆ ฉันไม่มีทางเลือกแล้วแม่ของฉันก็บอกให้มาขอร้องคุณ"
จันทร์เจ้าเสียงเบาและพูดออกมาไม่เต็มปาก ผู้ชายคนนี้หล่อแล้วยังไงในเมื่อเขาแล้งน้ำใจแบบนี้ ถึงที่ผ่านมาเธอจะไม่ชอบเขาและคอยแกล้งเขาอยู่เรื่อย ๆ แต่เขาควรจะเป็นลูกผู้ชายไม่ถือสาเธอไม่ใช่เหรอ
คนอะไรหน้าตัวเมียคิดเล็กคิดน้อยกับเธอได้
เตชินหัวเราะเสียงดัง เขารู้ว่าจันทร์เจ้านิสัยเป็นยังไง คุณหนูนิสัยเสียที่พ่อแม่สปอยล์มาตั้งแต่เด็ก ขี้วีนและเอาแต่ใจตอนที่เขาอาศัยอยู่ในบ้านของเธอ จันทร์เจ้ามักจะแกล้งเขาโดยไม่มีเหตุผล
ทั้ง ๆ ที่เตชินเป็นคนติวหนังสือให้เธอ แต่จันทร์เจ้าไม่เคยนึกถึงความดีของเขากลับใส่ร้ายเขาจนคุณนายลงโทษเขาอยู่หลายครั้ง
เด็กหญิงตัวร้ายที่โตขึ้นมาเป็นผู้หญิงร้ายกาจคนหนึ่งที่แม้เขาจะพยายามหลีกเลี่ยงแต่ก็ยังต้องเจ็บตัวเพราะเธอคนนี้อยู่บ่อย ๆ
"น้ำเสียงไม่จริงใจสักนิด แต่เอาเถอะเห็นว่าแก่คุณนายที่เคยดีกับแม่ของฉัน ฉันจะลองฟังข้อเสนอของเธออีกสักครั้ง เผื่อว่าจะดีขึ้น"
ดวงตาของเตชินหรี่ลงเล็กน้อย เขาจ้องมองใบหน้าสวย ๆ นั้นอย่างเจ้าเล่ห์ มิหนำซ้ำยังกวาดสายตาไปทั่วร่างของสาวน้อยอย่างไม่เกรงใจ และสุดท้ายดวงตาคู่นั้นกลับหยุดที่หน้าอกคู่งามของเธอที่แม้จะใส่เสื้อปกปิดเอาไว้แต่มันกลับเด้งท้าทายสายตาของเขานัก
"นี่นาย หยุดมองฉันแบบนี้นะ"
จันทร์เจ้ายกมือปิดหน้าอกของตัวเองเอาไว้ เมื่อเตชินเปิดเผยความต้องการของตัวเองโดยไม่ปิดบัง พวกแก้มของหญิงสาวกลายเป็นสีแดงด้วยเลือดลมที่วิ่งไหลผ่านไปทั่วร่าง
"เธอไม่อยู่ในฐานะที่จะมาสั่งฉันได้อีกแล้ว จันทร์เจ้าปีนี้เธออายุสิบแปดปีแล้วไม่ใช่เหรอ ไม่ใช่เด็กแล้วนะนอกจากงานเลขาที่ฉันเดาว่าเธอคงจะทำหน้าที่ได้ห่วยมาก ๆ แล้ว ยังมีอะไรมาเสนออีกหรือเปล่า..." เขาเว้นเสียงเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ
"ข้อเสนอที่ตรงใจของฉัน"
จันทร์เจ้าเม้มปาก เธอคิดว่าเขากำลังจะแก้แค้นและหาทางเอาคืนเธอแน่ ๆ ผู้ชายคนนี้แค้นฝังหุ่นจริง ๆ หากย้อนเวลาไปได้ จันทร์เจ้าคงทำดีกับเขาให้มาก ๆ ไม่แตะต้องเขาแม้แต่ปลายขน แต่เธอไม่รู้อนาคตเพราะเขาชอบมีผู้หญิงมาหา มันทำให้เธอโกรธจึงมักหาเรื่องเขาเป็นประจำ
เธอไม่ชอบให้ใครเข้าใกล้เขา ก็แค่คนรับใช้พวกผู้หญิงพวกนั้นทำไมตาต่ำแบบนี้กัน ในตอนนั้นนอกจากแกล้งเตชินแล้วจันทร์เจ้ายังพาลไปถึงผู้หญิงพวกนั้นที่เธอเคยไปตบสั่งสอนว่าอย่ามายุ่งกับเขาอีก ที่เธอทำไปทั้งหมดนั่นเพราะฮอร์โมนวัยรุ่นแท้ ๆ ไม่น่าโง่ขนาดนั้นเลย