Chapter 11 คู่ปรับ

1472 คำ
“ยินดีอย่างยิ่งครับ เชิญเข้าข้างในดีกว่า ผมจะได้พาเยี่ยมชมงานโดยทั่ว” คชาเดินนำชายหนุ่มเข้าไปในงาน “งานครั้งนี้ผู้ประกอบการอัญมณีไทยชั้นน้ำร่วมสนับสนุน นำผลงานทรงคุณค่ามาออกงาน คุณสามารถมั่นใจในผีมือและผลงานของเรา” “ผมขอแค่ความเป็นสากลในการทำงาน ถ้าเราต่างยึดหลักสากล เราก็สามารถทำงานกันได้อย่างราบรื่น ส่วนเรื่องผลงานการออกแบบและฝีมือ ผมมั่นใจเต็มร้อยอย่างไม่ต้องดูด้วยซ้ำ ฝีมือคนไทยประณีตกว่าชาติไหนๆ ในโลก” อลันตอบกลับเสียงหนักแน่น “ขอบคุณมากเลยครับ ได้ยินนักค้าอัญมณีระดับแถวหน้าพูดอย่างนี้ ผมก็หายกังวลไปมาก” “ผมเป็นนักธุรกิจ คงไม่เยินยอโดยที่ไม่เป็นความจริง” คชาโค้งให้อย่างขอบคุณ “ผมขอพาคุณอลันเดินชมให้ทั่วงานก่อนนะครับ” คชาพาอลันเดินทักทายโดยรอบ จนกระทั่งถึงตอนเปิดงานเขาจึงขอตัวเดินเลี่ยงขึ้นไปบนเวที ส่วนอลัน...ก็เดินหนีความอึดอัดออกไปสูดอากาศข้างนอกแทน เขารู้ว่างานพวกนี้ก็แค่ให้ข้อมูลน้ำไหลไฟดับดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาลงทุน แต่สำหรับเขา หากคิดจะลงทุนอะไรสักอย่าง เขาจะไม่รับข้อมูลที่ถูกสรรค์แต่งแบบนี้เด็ดขาด ธุรกิจในเครือจีแอลกรุ๊ป ทุกสัญญาจะต้องมีการเช็คข้อมูลอย่างละเอียด วิเคราะห์ในเชิงลึกให้ครอบคลุมทุกด้าน เมื่อก้าวเข้ามาร่วมงานกับองค์กรใด ก็หมายถึงพร้อมที่จะตอบรับและร่วมลงทุน ลลินเข้าไปในงานได้ทันตอนที่เธอต้องพรีเซนต์แนวความคิดที่เธอออกแบบ แต่กว่าที่เธอออกมาได้ก็ใช้เวลาซ้อมเดินอยู่ร่วมชั่วโมง “ปาน...พี่ไม่มั่นใจ” หญิงหันกลับไปบอกปานดาวอีกครั้ง จากที่ตลอดหฯงชั่วโมงที่ผ่านมาเธอก็พร่ำพูดคำนี้มาตลอดเวลา “เอาน่า...พี่ลินทำได้แน่นอน เชื่อป่านสิ ขนาดโรงงานกำลังจะเจ๊งยังกู้มาได้เลย” “มันเกี่ยวกันตรงไหน” “ก็เกี่ยวกันตรงที่ใจ ถ้ามั่นใจ ทุกอย่างก็ง่ายสำหรับพี่ทุกอย่าง” “แต่พี่ไม่มั่นใจชุดบ้าๆ รองเท้าสูงๆ คู่นี้ ไม่รู้ว่ามันจะพาพี่ล้มให้อับอายตอนไหน” “ไม่มีเวลาแล้ว ไม่ต้องกังวล พี่ก็แค่เดินปกติ เชิดหน้าด้วย” ปานวาดดุนหลังลลินเข้าประตูด้านหลังของงานที่เธอพามาส่ง ลลินเดินเข้าไปในงานอย่างไม่ค่อยถนัดนัก เป้าหมายคือเคาเตอร์ที่เธอต้องยืนประจำเตรียมพรีเซนต์ ถ้าเดินไปถึงตรงนั้นแล้วหาที่ยืนพิงไปด้วยก็คงไม่เป็นอะไร ในที่สุดลลินก็ก้าวผ่านมา เธอสามารถเดินมาถึงที่หมายอย่างปลอดภัยไม่หกล้มให้เสียหน้าจนได้ “ทำไมเพิ่งมา ผมก็มองหาลินอยู่” คชาถามลลินทันทีที่เขาเห็นเธอเดินมาถึง “ก็ปานมัวแต่จับให้ลินแต่งตัวแบบนี้ ขอโทษด้วยนะคะที่เข้ามาช้า” คชาไล้สายตามองลลินตั้งแต่ปลายผมจนกะทั่งถึงรองเท้าส้นสูงที่กำลังพาขาคนสวมสั่นระริก “สวยดี ไม่น่าเชื่อว่าลินแต่งตัวแล้วจะสวยได้ขนาดนี้ เยี่ยมมาก” “แต่มันคงไม่เหมาะกับลิน” “เหมาะสิ เหมาะกับงานด้วย รสนิยมของปานดาวดีมากเลย” คชาเอยปากชม แววตาของเขาก็ชื่นชมด้วยความจริงใจ “ลินไม่อยากเดินนาน ขอตัวเข้าประจำเคาเตอร์เลยดีกว่านะคะ” “ได้เลย อีกสักพักนักข่าวคงจะไปหน้าบูธกะรัต ลินพร้อมแล้วนะ” “ค่ะ” “ฝากด้วยก็แล้วกัน ถ้าเราทำได้หมายถึงผลระยาวที่เราจะเก็บเกี่ยวไปได้ตลอด ที่จริงผมอยากจะแนะนำลินให้รู้จักคุณอลันก่อนด้วย เขาเป็นเจ้าของจีแอลกรุ๊ป คนที่เราต้องดึงเขามาร่วมหุ้นให้ได้ ” คชาบอกพรางกวาดสายตามองหาชายหนุ่มที่ตนกำลังพูดถึงไปด้วย “แต่ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาไปอยู่ที่ไหนแล้ว ผมก็มัวแต่ยุ่งกับแขกหลายกลุ่ม” “ไม่เป็นไรค่ะคุณคชา เดี๋ยวก็คงมีโอกาสได้เจอ” “งั้นผมขอตัวไปรับแขกกลุ่มนั้นก่อนนะ ถึงเวลาจะตามไป” “ค่ะ” คชาเดินเลี่ยงจากหญิงสาว ตรงไปที่แขกต่างชาติอีกกลุ่มทันที ห้องจัดเลี้ยงที่คาคั่งไปด้วยผู้คน สูทหรูหราแบรนด์ดังถูกเลือกใช้ครบทุกแบรนด์ ไม่ต้องพูดถึงชุดราตรีที่อยู่บนเรือนร่างสาวๆ แสงวาววับจากเครื่องเพชรที่ประดับบนลำคอ ก็อวดแสงกับแสงไฟไม่ต่างกัน หากในความรู้สึกของอลันเขากลับเบื่อหน่าย ถ้าไม่ต้องรอฟังบรรยายให้เห็นแนวคิดในการออกแบบ เขาคงหนีกลับไปตั้งแต่เปิดงานได้ครึ่งชั่วโมงแรก อลันเดินเข้ามาในงานอย่างเซ็งๆ งานอย่างนี้ทำให้เขาอดนึกถึงมารดาไม่ได้ นางอลันดาชอบออกงานสังคมอวดรวยอย่างนี้ นางเคยบอกว่ามันเป็นความสุขช่วยคลายเหงา แต่เขากลับไม่ได้มองเห็นสิ่งอื่นนอกไปจากความเบื่อหน่าย ไร้สาระ และสวมหน้ากากเข้าหากัน สิ่งที่หยุดสายตาเบื่อหน่ายของเขา ผู้หญิงร่างโปร่งระหงที่อยู่บนแท่นเวที รอยยิ้มเล็กๆ เกิดขึ้นที่มุมปากอย่างเผลอๆ เขาคงไม่แปลกใจหากผู้หญิงคนบนแท่นเวทีไม่ใช่ยัยเพิ้งหมัดหนักคนนั้น วันวานเธอเป็นแม่สาวเชยจืดชืด หากวันนี้เขาต้องคิดใหม่ เธอกลายเป็นซินเดอเรลล่าเพียงข้ามวัน ผู้หญิงที่เขาไม่คิดว่าหล่อนจะสามารถสะกดสายตาเขาเอาไว้ได้ แต่มันกลับเป็นไปแล้วจริงๆ ทุกจังหวะการเอื้อนเอ่ยเจรจาจนเรียบร้อยปากได้รูปกระจับ ช่างน่าจูบมากว่าจะใช้มันทำสิ่งอื่น สมองสั่งให้ขายาวๆ ของเขาก้าวเข้าไปใกล้ๆ ดูให้แน่ย้ำให้ชัดว่าเป็นเธอคนนั้นจริงๆ สายตาคมสีมรกตยังจับจ้องเจ้าของเรือนร่างโปร่งไม่วางตา จังหวะการเอี้ยวตัวเผยให้เห็นแผ่นหลังเนียนมีเพียงสายเส้นเล็กพาดไขว้กันเอาไว้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเหนืออะไรทั้งหมด ริมฝีปากอิ่มเป็นกระจับรั้งสายตาของเขาจับจ้องไม่ละห่างไปไหน ความตื่นตัวในร่างกายพร้อมเลือดร้อนที่สูบฉีดวิ่งพล่าน อาการนี้เขาจะเรียกว่ารักแรกพบคงไม่ใช่ แต่ถ้าเรียกว่าความต้องการปรี่ล้นเมื่อแรกเห็นคงจะเหมาะกว่า เรียวปากรูปกระจับเอื้อนเอ่ยไปเรื่อยๆ “เครื่องเพชรชุดพิเศษชุดนี้ดิฉันได้แนวความคิดมาจากดอกไม้ของไทย ความสวยผสานความบอบบางของดอกไม้เมืองร้อนที่เลื่องชื่อด้านความงาม นำมารังสรรค์เป็นเครื่องประดับชิ้นหรูหรา และยังมีลายน่ารักๆ สำหรับหนุ่มสาววันทำงาน” หญิงสาวบรรยายคุณสมบัติและแนวความคิดที่เกิดเครื่องประดับแต่ละชิ้นอย่างมีความสุข สายตาของคนบรรยายเปล่งประกายเหมือนเธอหลุดไปอยู่ในอีกโลก ภาพตรงหน้าสะกดสายตาคมคู่สวยของสวยของชายหนุ่มไม่ให้ละไปไหน จนกระทั้งจบประโยคสุดท้ายของเธอ “คุณค่าความเป็นไทย แต่ไม่ตกเทรนด์โลกค่ะ” เสียงปรบมือดังก้องหลังจบการบรรยายของแบรนด์กะรัต หญิงสาวบนแท่นบรรยายก็เจิดจรัสไม่แพ้ผลงานที่โดดเด่นของเธอ ค่ำคืนนี้เธอสวย...จนหลายคนถึงกับจำไม่ได้ แมทซ์ขยับเข้ามาใกล้ชายหนุ่ม กระซิบถามย้ำความแน่ใจของตนที่ถกเถียงกันในใจไม่ต่างจากชายหนุ่ม “บอสว่าเธอคือคนเดียวกับที่มีเรื่องกับบอสวันนั้นหรือเปล่า” แมทซ์เปิดประโยคสนทนา หลังจากที่เขายืนมองอลันอยู่นาน บอกได้เลยว่าผู้หญิงตรงหน้าต้องมีอะไรสักอย่างยึดตรึงดวงตาพี่ชายของเขาเอาไว้ อลันเลือกที่จะไม่ตอบคำถามของแมทซ์ แต่เขาสั่งเสียงหนัก ทุกสิ่งที่เขาต้องการต้องมากองแทบเท้า มหาเศรษฐีหนุ่มผู้ไม่ยอมก้มหัวให้ใคร “ทำอย่างไรก็ได้ ฉันต้องได้เธอมายืนข้างกาย” “แต่เธอปฏิเสธทุกข้อเสนอ” อลันหันกลับมามองหน้าน้องชายนอกสายเลือดอย่างไม่สบอารมณ์ “ฉันต้องจัดการเองไหม” แมทซ์โค้งน้อยๆ เป็นเชิงขอโทษ เขาทำให้เจ้านายที่เป็นทั้งเจ้านายโกรธอีกครั้ง “ผมขอจัดการเอง” “ดี! ฉันออกไปข้างนอกละ” อลันบอกเสียงเข้ม ยกมือขึ้นบีบบ่าน้องชาย ขยับขาเดินออกไปจากตรงนั้น แต่เขาก็ไม่ลืมกำชับ “ฉันหวังว่าจะได้ยินข่าวดีเพียงอย่างเดียวนะแมทซ์”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม