Chapter 25 คอยดูเถอะฉันจะเอาคืนให้แสบ
เสียงดังกุกกักในห้องน้ำทำให้ลลินรู้ว่ายังมีคนอยู่ในห้อง เธอไม่ลังเลที่จะเดินเข้าไปหา เพราะจุดหมายต่อไปของเธอก็ต้องไปจบอยู่ที่ตรงนั้นอยู่ดี
คนที่อยู่ในห้องไม่ใช่เจ้าของห้องอย่างที่ควรจะเป็น หากเป็นแม่บ้านสองคนกำลังช่วยกันทำความสะอาด
“ขอโทษนะคะ คุณเข้ามาเจอใครในห้องนี้ไหม” ลลินถามแม่บ้าน
“เจอค่ะ คุณผู้ชายสองท่านฝากของให้คุณด้วย” หนึ่งในแม่บ้านตอบ เดินเลี่ยงไปหยิบซองเอกสารที่วางอยู่โต๊ะมายื่นให้เธอ
“ขอบคุณค่ะ” ลลินบอกเบาๆ รับซองจากมือแล้วเดินกลับไปที่โซฟา แกะมันออกอ่านทันที
“เที่ยงตรง...เจอกันที่...แล้วฉันจะติดต่อเธอกลับมาเอง” ข้อความที่บงบอกได้ชัดเจนในประโยคคำสั่ง สิ่งที่ทำให้คนโดนสั่งต้องคิดหนัก กะเวลาคร่าวๆ จากกรุงเทพไปสัตหีบก็กินเวลาสามชั่วโมง
หญิงสาวยกข้อมือดูนาฬิกา เวลาตอนนี้ก็เกือบแปดโมงเช้า ต่อให้เธอเร่งรีบแต่งตัวมากแค่ไหน ไปถึงที่โน่นก็คงไม่ทัน ถึงต่อให้ทันก็ทันแบบเฉียดฉิว
ลลินรีบวิ่งเข้าห้องน้ำ ผู้ชายอย่างเขาคงต้องหาเรื่องเธอสักอย่าง หากเธอไปไม่ทัน แล้วผู้หญิงอย่างเธอก็ไม่ชอบให้ใครมาว่าเอาง่ายๆ
ไม่นานเธอก็ลงมาถึงหน้าตึกของโรงแรม โชคร้ายหนักเมื่อรถของโรงแรมไม่ว่างสักคันในตอนนี้ แต่ต่อให้เธอกลับไปเอารถที่บ้านก็คงไม่ทัน ทางออกที่ดีที่สุดคือใช้บริการรถสีลูกกวาดที่อยู่เกลื่อนเมือง
หญิงสาวก้าวลงจากรถแท็กซี่ที่พาเธอมาส่งโดยสวัสดิภาพ สองชั่วโมงสี่สิบหกนาทีที่เธอเฝ้านับเวลา หากไม่ใช่ยอดมิเตอร์ที่สูงขึ้น แต่เป็นเวลาบนเข็มที่คืบคลานเข้ามาใกล้เส้นตรง แต่ในที่สุดเธอก็มาได้ทันเวลา แต่เธอก็ต้องรอเขาติดต่อกลับมาเองอยู่ดี
ลลินผินหน้าขึ้นมองรอบตัว สถานที่นัดหมายระหว่างเขาและเธอ ลานโล่งเตียนที่มีต้นไม้อยู่อีกมุม และมีตึกอยู่ไกลลิบ เดาไม่ผิดคงเป็นลานจอดเครื่องบินเอกชน หรือไม่ก็สปอร์ตคลับคนรวย
หญิงสาวหันรีหันขวางมองหาที่เย็นๆ นั่งพักรอหลบไอแดด เป็นความโชคดีของเธอที่มีซุ้มกาแฟร่มรื่นอยู่ใกล้ๆ คงจะดีกว่าให้เธอเดินฝ่าเปลวแดดไปยังตึกสีขาวนั่น
หลังจากที่ได้ที่นั่งเหมาะๆ สำหรับตัวเอง เธอไม่ลืมหยิบหนังสือนิตยสารหน้าเคาเตอร์มากางอ่านรอเพื่อฆ่าเวลาหญิงสาวทรุดตัวลงนั่งบนเบาะใบนุ่มวงกลมเหมือนรังนก ขนาดของมันสบายมากพอสำหรับผู้หญิงตัวขนาดอย่างเธอ
ลลินเอนหลังลงบนหมอนอิงนุ่มๆ พลิกหนังสือนิตยสารท่องเที่ยวกางอ่าน ปล่อยผ่านเวลานานจนเย็นย่ำเลยเวลานัดมาร่วมสี่ชั่วโมง กับคำสั่งของเขาว่าให้รออยู่ที่นี่ รอจนกว่าเขาจะติดต่อกลับมาเอง
“ติ๊ด ติ๊ด” เสียงเตือนข้อความจากมือถือที่อยู่ในมือดังขึ้นมาขัดจังหวะความสนใจในหนังสือในมือ หลังจากที่เธอก้าวผ่านมาทั้งโกรธ โมโห เดือดดาล หรือแม้กระทั่งสาปแช่งคนนัด หญิงสาวเลื่อนมือเปิดอ่านข้อความในมือถืออย่างเสียไม่ได้
ข้อความที่ส่งมาให้ทำให้เธอต้องรีบขยับลุกออกจากเบาะใบนุ่ม เร่งฝีเท้าเดินมาที่จุดนัดหมายที่ปลายทางส่งมาให้ ทั้งที่เพิ่งจะอ่าน แต่เขาก็กำหนดเวลาให้เธอแทบนับก้าวจับเวลาเดินเอาไว้ ไม่คิดสักนิดว่าปล่อยให้เธอรอมาสี่ชั่วโมงเต็ม คนรอจะรู้สึกอย่างไร
การต้อนรับแบบวีไอพีวันที่สองหลังจากเซ็นสัญญาร่วมงาน พร้อมกับก่นด่าเจ้านายคนใหม่อย่างไม่สบอารมณ์ไปด้วย
“คนรวย...คงเคยแต่กวาดซื้อทุกอย่างด้วยเงิน สั่งๆๆ แต่ก็อย่าหวังว่าจะสั่งฉันได้ตลอด ฉันจะเอาคืนให้แสบ ไอ้คนบ้าอำนาจ”
ชายหนุ่มร่างสูงผมสีน้ำตาลทองในชุดเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีเข้มกับกางเกงยีนส์สีเดียวกันรอเธออยู่ที่ห้องรับรอง เขายืนพิงกรอบกระจก มือซ้ายถือถ้วยกาแฟยกจิบกาแฟอย่างสบายใจ แขนข้างขวาท่อนล่างมีเฝือกสีขาวพันรอบ บนศีรษะก็ยังมีร่องรอยที่ถูกปิดทับด้วยผ้าพันแผลสีขาวมองเห็นได้ในระยะไกล ใบหน้าคร้ามเข้มเจือไรหนวดบางๆ หากแต่ดวงตาของเขากลับถูกคาดทับด้วยแว่นเรย์แบนสีอ่อน
หญิงสาวขยับแว่นกันแดดของตัวเองนิดหนึ่ง ก่อนที่สาวเท้าเดินเข้าไปหาอย่างเร่งรีบ เวลาที่เขาระบุให้เธอเหลืออีกไม่กี่นาที
หญิงสาวกำลังจะอ้าปากต่อว่า เวลาที่เขาปล่อยให้เธอทนรอ แต่ยังไม่ทันที่จะเดินเข้าไปถึงตัวเขา ไม่ทันได้พูดในสิ่งที่คิด
“ตรงเวลา อดทน เยี่ยม” ชายหนุ่มเอ่ยปากชมทั้งที่ยังไม่หันกลับมามอง เขายังยืนหันข้างให้เธอ
“หา!” หญิงสาวกรอกตามองเพดาน ถามอย่างงงๆ
“คุณสมบัติของเลขาที่ดี เก็บข้อมูลเก่ง ไม่จำเป็นต้องให้เจ้านายพูดซ้ำ และไม่จำเป็นต้องอธิบาย ฉลาด รอบคอบ และอดทนสูง” ชายหนุ่มพูดต่อเป็นเชิงบอกเธอกรายๆ
“นี่คุณให้ฉันรอเพื่อจะทดสอบบ้าๆ แค่นี้หรือ”