ร่างอ้อนแอ้น เอว24อก36สะโพก34ก้าวเดินลงจากรถไฟสายเหนือพร้อมกระเป๋าเป้ที่อยู่ด้านหลังแว่นสายตาหนาเตอะปิดบังใบหน้าหวานละมุนผมยาวรวบไว้หลวมๆ ด้วยยางรัดผมราคาถูก กางเกงขาสั้นโชว์เรียวขาขาวสะอาดแถมด้วยผิวเรียบเนียนไร้รอยตำหนิแผลเป็นมองแล้วก็ต้องมองซ้ำ
เสื้อผ้าฝ้ายตัวหลวมซ่อนรูป ถึงอย่างนั้นก็ทำให้พอจะมองออกว่ารูปร่างของ ลูกอินทร์น่ามองขนาดไหน
ร่างสูงเกือบร้อยเก้าสิบ ผิวคลำทว่ากับมองแล้วดูไม่อ้วนไม่ผอม เป็นนายแบบได้สบายๆ คิ้วคมเข้ม ริมฝีปากหยักได้รูปท่อนแขนที่สวมเสื้อลำลองแขนยาวปิดบังกล้ามแขนเป็นมัดของคิมหันต์ ชายหนุ่มที่จัดว่าหน้าตาดีจนหลายคนหันมอง ยืนกอดอกขาสองข้างไขว่กันด้านหน้าในท่าสบายเอนหลังพิงรถกระบะคันเก่า แว่นสีชาปิดบังดวงตาคมที่จ้องมองยังร่างอ้อนแอ้นแล้วไล่สายตาไปบนเรียวขาขาวสวยเผลอจินตนาการไปถึง ยามที่ใช้ลิ้นลื่นสำรวจเรียวขานั้น กลืนน้ำลายช้าๆ
คนตัวเล็กสาวเท้ามาที่รถที่จอดอยู่
เพราะจำทะเบียนและสีรถได้
เปิดประตูก้าวเข้าไปหย่อนตัวลงในรถกระบะปิดประตูเสียงดังลั่นอย่างคนไม่มีมารยาทแต่คิมหันต์กลับคิดว่าเธอมองว่ารถนี่ก็สมบัติของแม่เธอ คิมหันต์ส่ายหน้าก่อนจะเปิดประตูก้าวขึ้นไปนั่งด้านหน้าคนขับ พารถพุ่งออกจากสถานนีรถไฟทันที
"การเดินทางเรียบร้อยดีไหม"
เสียงทุ้มเอ่ยปากเบาๆ พอให้ได้ยิน
ใบหน้าภายใต้แว่นสายตาพยักหน้าขึ้นลงสั้นๆอย่างไว้ตัวคิมหันต์กระพริบตาปรับความรู้สึกไม่ให้รู้สึกไม่พอใจกับท่าทีเฉยชาขอวลูกอินทร์
"ต้องรีบแล้วจะไม่ทันฟังพระ"
พูดลอยๆ เหมือนประโยคบอกเล่าทั่วไป
"คาดเข็มขัดด้วย"
ลูกอินทร์ชันเข่าขึ้นกอดอก แต่อีกคนกลับเอี่ยวตัวมาคาดเข็มขัดนิรภัยให้
"นี่ นายอย่าฉวยโอกาสทำตัวดีๆ หน่อยก่อนมานี่ฉันพยายามคิดกับคนที่เป็นพ่อเลี้ยงในด้านดีๆ "
คิมหันต์ส่ายหน้า มองตรงไม่สนใจคำพูดของลูกอินทร์
"คุณแม่ ด่วนจากไปขนาดนี้ จะให้ฉันเชื่อว่านายไม่เกี่ยวข้องคงไม่ได้ฉันจึงให้ตำรวจรื้อคดีใหม่แล้วก็ ให้เชิญตัวนายสอบปากคำเพราะนายต้องสงสัยที่สุด"คิมหันต์กลืนน้ำลายลงคอช้าๆ
"คุณลูกอินทร์ ถึงผมจะเป็นคนจนแต่ก็ไม่เคยทำเรื่องเลวทรามและอีกอย่างคุณมุนินทร์ดีกับผมและเมตตาอย่างยิ่ง"
"เชอะ"ลูกอินทร์เปล่งเสียงเบาๆ
คิมหันต์หันมาจ้องใบหน้าละมุนก่อนจะเหยียบเบรกอย่างแรงจนศีรษะของลูกอินทร์แทบจะกระแทกกับคอนโซลด้านหน้า
ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ ลูกอินทร์
"ยังมีอะไรอีกที่กล่าวหาฉัน ฆ่าแม่แล้วเคลมลูกดีไหม หรือว่าฆ่าเพื่อฮุปสมบัติ หรือว่า ทั้งอยากได้สมบัติแล้วก็อยากได้ลูกสาวด้วย"
"หยาบคาย"
คิมหันต์จ้องริมฝีปากที่ขยับขึ้นลงถ้าเป็นคนอื่นเขาคงปิดปากด้วยริมฝีปากเขาเสีย จะจูบจนละลายในอ้อมแขนดูสิว่ายังจะปากแซ่บได้ไหม ยกมือขึ้นจับที่คางมนกรีดมือไปบนริมฝีปากอย่างเผลอไผลอีกคนเบี่ยงตัวหลบหลีกสะบัดหน้าท่าทีถือตัวน่าโมโห
คิมหันต์ยิ้ม
"คุณมุนินทร์บอกว่าคุณหนูอินทร์ ใช้ชีวิตที่กรุงเทพลำบากไม่น้อยในพินัยกรรมจึงยก รีสอร์ทไร่บ้านตะวันให้ แล้วให้ฉันช่วยดูแลจนกว่าจะได้กำไรในผลประกอบการติดๆ กันสามปี ถ้าจะปากเก่งคราวหลังคิดให้ดีเพราะฉันเพิ่งจะโอนเงินล้างหนี้บัตรเครดิตแล้วก็ยกเลิกการใช้งานเพื่อให้คุณกลับมาใช้ชีวิตที่นี่"
ลูกอินทร์เม้มปากแน่น
"นาย นายมันไอ้ชั่ว คุณแม่ไว้ใจนายมากเกินไปแล้ว"คิมหันต์ส่ายหน้า
"นั่นเพราะมีลูกสาวไม่เอาถ่านคนเดียวอย่างคุณ"
มือบางเงื้อขึ้นฟาดลงบนใบหน้าของคิมหันต์ที่ไม่ยอมหลบทั้งๆ ที่เขาหลบได้ทัน
พลิกตัวก้มลงบดขยี้ริมฝีปากลงบนปากบางนุ่มอย่างเร่าร้อน ลูกอินทร์ดิ้นรนทุบกำปั้นลงบนอกอย่างแรง คิมหันต์คว้ามือบางรวบกำไว้
"ข้างทางนี่ บรรยากาศดีแล้วทางก็เปลี่ยวหากยังลงไม้ลงมือกับฉันอีกฉันจะลากเธอลงไปจัดการข้างทางนี่แหละเอาให้ร้องครางไม่เป็นท่าเลย"
"หยาบคาย เลวที่สุดนายกล้าพูดจาหยาบคายกับฉันหรือ"
"ก็นะ ฉันก็ไม่มีอะไรดีในสายตาคุณหนูลูกอินทร์อยู่แล้วนี่ จะเป็นไรถ้าจะปล้ำลูกเลี้ยงทำเมียกลัวว่าพอเป็นเมียฉันแล้ว จะไม่ปากแซ่บอย่างนี้สิ"
"ไม่มีทางปล่อยฉันนะ"กัดฉับเข้าที่แขนของคิมหันต์
"โอ๊ย"
ลูกอินทร์เปิดประตูรถวิ่งลงจากรถไปตามทางคิมหันต์ถอนหายใจ ก้าวขายาวๆ ตามไป
“หยุดนะ”
“ไม่”