ตอนที่ 9

2476 คำ
และนั้นทำให้ริมฝีปากอวบอิ่มของหวางเย่หลิงเม้มเข้าหากันทันทีก่อนจะกัดริมฝีปากของตัวเองเอาไว้จนแน่นด้วยความเจ็บใจ โดยหารู้ไม่ว่าการกระทำเช่นนั้นปลุกเร้าความต้องการทางเพศของอิ๋งชวนโหวอย่างยิ่งยวด จอมอำมหิตพ่ายแพ้สตรีที่ชอบกัดริมฝีปากตัวเองยิ่งนัก และไม่เคยมีสตรีนางใดล่วงรู้มาก่อนว่ากิริยาของผู้หญิงแบบไหนที่โดนใจและยั่วยวนอารมณ์จอมอำมหิตแห่งกู้กงได้อย่างชะงักงัน “เจ้ากัดปากอีกแล้วนะ”โหวหนุ่มบอกเสียงสั่นสะท้าน ครั้นยิ่งบอกเหมือนยิ่งยุเมื่อหวางเย่หลิง ยิ่งกัดริมฝีปากอวบอิ่มของนางเข้าไปอีกคราด้วยความเจ็บใจกับคำกล่าวของอิ๋งชวนโหวที่กล่าวกับนาง “ข้ากัดปากตัวเองก็เพราะคำพูดของท่าน...และข้าล่วงรู้ดีว่าเข้าจวนท่านเพื่อมาทำหน้าที่อะไร เพียงแค่ต้องการเวลาเตรียมตัวเตรียมใจก็เท่านั้น แต่ท่านกลับฉวยโอกาสจากข้าตอนหมดสติ หนังหน้าของท่านช่างหนายิ่งนัก” ดวงตาคู่สวยมองโหวหนุ่มด้วยความคับแค้นใจที่ถูกพรากสิ่งที่หวงแหนในชีวิตไปโดยไม่รู้ตัว ใบหน้าหล่อเหลายกยิ้มที่มุมปากเมื่อได้ยินเช่นนั้น ในเมื่อนางก็เข้าใจผิดว่าตกเป็นของเขาแล้วเช่นนั้นก็สวมรอยเออออตามนางไปทันที “บุรุษจะใดจะหน้าโง่นิ่งดูดายที่ไม่ทำอะไรผู้หญิงของตนเองในเมื่อได้มาแล้วก็ต้องลงมือทันที”โหวหนุ่มตอบกลับไปหากแต่แต่ภายในใจกลับรำพึง “เหมือนข้ากำลังด่าตัวเองอย่างไรก็ไม่รู้ ถึงยังไม่ทำอะไรสตรีผู้นี้ไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆ”อิ๋งชวนโหวบ่นอยู่ภายในใจ “ท่านโหวเป็นผู้มีความเมตตาหาไม่แล้วมีหรือจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือตระกูลของข้า ดังนั้นข้าน้อยจึงมีข้อเสนอและถ้าหากท่านโหวตกลง ต่อไปไม่ว่าจะให้ทำอะไรข้าน้อยล้วนยินดีปฏิบัติตามทุกอย่างไม่มีข้อแม้อีกเลยเจ้าค่ะ”หวางเย่หลิงเอ่ยน้ำเสียงหวานออดอ้อน นางมาฉุกคิดได้ว่าจะต้องมีสติและหาวิธีเอาตัวเองให้รอดสิ่งที่เสียไปแล้วให้แล้วไปแต่จะต้องไม่มีครั้งต่อๆ ไปอีกเป็นอันขาด “เจ้ามีอะไรก็รีบว่ามา อย่าทำให้ข้าต้องเสียเวลาไปมากกว่านี้”โหวหนุ่มกล่าวพร้อมยิ้มกริ่มมองใบหน้าทั้งสวยและน่ารักน่ามองของนางเป็นยิ่งนัก อิ๋งชวนโหวแทบจะอดใจไว้ไม่ไหว กายงามขาวผุดผ่องของนางไม่ว่าจะลูบไล้ไปทางใดช่างนุ่มนิ่มและส่งกลิ่นหอมกรุ่นรัญจวนใจเสียเหลือเกิน มือเริ่มจะซุกซนเฝ้าลูบไล้ตั้งแต่สะโพกผายมาจนถึงเอวคอดกิ่วของนางอยู่ตลอดเวลา “ข้าน้อยขอเวลาปรับตัวเพื่อให้คุ้นชินกับท่านโหวและพำนักอยู่ที่จวนของท่าน ออกจากจวนตระกูลหวางมาอย่างกระชั้นชิดโดยไม่ได้มีเวลาเตรียมตัวแต่อย่างใด แต่เพื่อรักษาทุกชีวิตของผู้คนในตระกูลให้ดำรงอยู่ต่อไป ข้าน้อยจึงตัดสินใจที่จะมาเป็นสตรีของท่านโหว เพียงแต่ขอเวลาเพื่อสามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่”หวางเย่หลิงพูดพลางช้อนสายตาขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาของอิ๋งชวนโหวที่กำลังฟังนางอยู่ในเวลานั้น และสบโอกาสเพื่อเข้าประเด็นทันที “ อีกอย่างข้าน้อยมีหน้าที่สำคัญซึ่งได้ตกปากให้คำมั่น ว่าจะให้คำแนะนำและช่วยควบคุมดูแลสำนักการสังคีตซึ่งเป็นของท่านหญิงอี้ฉาง นางกำลังเรียนรู้จากข้าไปเพื่อนำความรู้ที่ได้รับไปควบคุมสำนักการสังคีตด้วยตัวเอง โดยเฉพาะเรื่องบัญชี จำต้องให้คำแนะนำกับท่านหญิงตามคำมั่นที่ได้ให้ไว้ เมื่อทำหน้าที่แล้วเสร็จทุกอย่างลงได้ด้วยดี ข้าน้อยพร้อมแล้วที่จะทำหน้าที่เป็นสตรีของท่านโหว หากแต่ในระหว่างนี้ได้โปรดอย่าทำอะไรข้าน้อยมากไปกว่านี้โดยที่ไม่เต็มใจอีกเลยได้ไหมเจ้าคะ”หวางเย่หลิงกล่าวอ้อนวอน อิ๋งชวนโหวนิ่งฟังสตรีสาวแสนสวยตรงหน้าทำการเจรจาอย่างตรงไปตรงมา หากจะว่าไปแล้วโหวหนุ่มเองครั้นจะร่วมรักกับสตรีนางใดนั้น อีกฝ่ายก็จะต้องเต็มใจและพร้อมที่จะได้รับความสุขสมอันแสนหฤหรรษ์ไปด้วยเช่นกัน จะให้ใช้กำลังกับสตรีไม่ใช่นิสัยของจอมอำมหิตแห่งกู้กงแม้แต่น้อย “ข้าอนุญาตตามที่เจ้าร้องขอ....แต่มีข้อแม้”ประโยคสุดท้ายโหวหนุ่มลากเสียงเน้นหนักชัดถ้อยชัดคำ เอาแล้วไงเล่าจอมอำหมิตแห่งกู้กง ในเวลานี้แปลงร่างกลายเป็นพ่อค้าวาณิชเพื่อทำการเจรจาต่อรองกับอีกฝ่าย ไม่มีทางที่จะแลกเปลี่ยนอะไรโดยที่ไม่มีประโยชน์ร่วมด้วย ใบหน้างามคลี่ยิ้มหวานด้วยความดีใจเมื่อแรกได้ยินเป็นอันต้องมลายหายไปโดยพลันเมื่อโหวหนุ่มกลับมีข้อแม้ “ข้อแม้!..ข้อแม้ของท่านโหวคะ...คือ...สิ่งใดหรือเจ้าคะ!”นางถามกลับไปด้วยความอยากรู้พลางเอียงคอมองอีกฝ่ายเพื่อหยั่งเชิง เป็นเหตุให้โหวหนุ่มที่กำลังเฝ้ามองอยู่ตลอดเวลานั้นส่งยิ้มที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์กลับมาทันที “ข้อแรกต่อไปนี้เจ้าจะต้องเรียกสามีตัวเองว่าท่านพี่ และข้าจะเรียกเจ้าว่าหลิงเอ๋อ ลองพูดให้ฟังหน่อยสิว่า หลิงเอ๋อให้สัญญาเจ้าค่ะท่านพี่”โหวหนุ่มเริ่มแผนแกล้งอีกฝ่าย หวางเย่หลิงถึงกับนิ่งงันไปทันทีเมื่อได้ยินข้อแม้แรกของอีกฝ่าย “คนบ้าตัณหามีความคิดเรื่องแบบนี้เป็นด้วยเหรอนี่”นางรำพึงอยู่ภายในใจก่อนจะเอ่ยขึ้น “หลิงเอ๋อให้สัญญาเจ้าค่ะท่านพี่”นางพูดตามทันที อิ๋งชวนโหวฟังเสียงหวานกล่าวตามคำที่บอกด้วยใบหน้าระรื่นอย่างเห็นได้ชัด “ฟังแล้วระรื่นหูขึ้นเยอะเลยหลิงเอ๋อของข้า”โหวหนุ่มบอกออกมาจากส่วนลึกของความรู้สึก และถ้อยคำที่แสดงความเป็นเจ้าของทำให้หวางเย่หลิงรู้สึกแปลกใจ เมื่อได้ยินจอมอำหมิตแห่งกู้กงกล่าวกับนางเช่นนั้น พร้อมเสียงของอิ๋งชวนโหวเอ่ยแทรกขึ้น “ข้อแม้ต่อไปในระหว่างนี้ ข้าสัญญาว่าจะไม่แตะต้องเจ้าแต่ไม่ว่าจะไปทำอะไรที่ไหนจะต้องมีหน่วยอารักขาของข้าคอยติดตามเจ้าอยู่ตลอดเวลาทุกฝีก้าว” ครั้นหวางเย่หลิงได้ยินอีกเช่นนั้น นางทำท่าจะเอ่ยปากกลับไปทันที “ไม่ต้องเถียงหากเจ้าเถียงข้าแม้แต่คำเดียว ข้อตกลงต่างๆ เป็นอันยกเลิก! แล้วจงทำหน้าที่เป็นผู้หญิงของข้าอุ่นเตียงด้วยกันเดี๋ยวนี้เลย”โหวหนุ่มกล่าวคำขู่อย่างรู้ทัน เล่นเอาอีกฝ่ายรีบปิดปากตัวเองสนิทพลางครุ่นคิดบางอย่างอยู่ภายในใจก่อนจะตัดสินใจเอ่ยถาม “หลิงเอ๋อมีอีกเรื่องที่จะต้องบอกท่านพี่เจ้าค่ะ”สาวน้อยเอ่ยเสียงหวานจนอีกฝ่ายหัวใจอ่อนยวบทันทีที่ได้ยิน “มีอะไรอย่างนั้นรึ”โหวหนุ่มถามกลับมาเสียงเบา “ช่วงนี้หลิงเอ๋อขออนุญาติพำนักกับท่านหญิงอี้ฉาง ไม่ได้พำนักอยู่กับท่านพี่ที่นี่เพราะจะต้องคอยให้คำแนะนำสอนนางทำบัญชีตลอดจนคัดเลือกนักดนตรีและนางรำและ...”ยังไม่ทันที่จะพูดจบเสียงห้วนดังแทรกขึ้นมาทันที “ข้าไม่อนุญาต! จะไปพำนักที่ไหนไม่ได้ทั้งสิ้น นอกจากที่จวนของข้าเท่านั้น”อิ๋งชวนโหวโวยวายออกมาทันที หากแต่ต้องหยุดลงเมื่ออีกฝ่ายเฝ้าเว้าวอน “ท่านพี่เจ้าขา หลิงเอ๋อขอนุญาตนะเจ้าคะ”นางไม่พูดเปล่ากลับเริ่มใช้มารยาหญิงซุกใบหน้าแสนสวยลงกับท่อนแขนแข็งแกร่งของคนที่อ้างตัวว่าได้เป็นสามีของนางแล้ว “ช่างกล่าวคำเจรจาต่อรองเก่งเสียจริงๆ นะ”โหวหนุ่มพูดพึมพำ แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าเพียงแค่ได้ยินเสียงหวานๆ และดวงตากลมโตที่มองอย่างไร้เดียงสาตลอดจนกิริยาที่เด็กเล็กๆ มักชอบใช้เวลาประจบขออะไรจากผู้ใหญ่เช่นนั้น จะสามารถทำให้จอมอำหมิตแห่งกู้กง อ่อนยวบยาบไปกับเสียงออดอ้อนของสตรีตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมอกของเขาอยู่ในเวลานี้ ให้ตายเถอะนี่เขากำลังหลงใหลสตรีผู้นี้อย่างนั้นหรือไร “แต่...”โหวหนุ่มกล่าวเพียงแค่นั้นก็ต้องเงียบเสียงลงทันใด เมื่อทอดสายตามองไปยังใบหน้าแสนสวย “แต่อะไรหรือเจ้าคะท่านพี่”หวางเย่หลิงพูดพลางช้อนสายตาหวานเชื่อมมองใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังก้มลงมองนางเช่นกันและนั้นทำให้โหวหนุ่มอดใจไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ริมฝีปากร้อนผ่าวประกบทาบทับริมฝีปากอวบอิ่มที่อยู่ตรงหน้าอย่างหิวกระหาย ปลายลิ้นฉกเข้าไปควานหาความหวานไปจนทั่วก่อนจะไต่ระดับลงประทับรอยไปตามซอกคอขาวผ่องพลางดูดเม้มเพื่อเกิดรอยจารึกด้วยความตั้งใจไม่ว่าริมฝีปากโหวหนุ่มไล้ผ่านไปจุดไหน กายขาวนวลเนียนของนางเป็นอันต้องเกิดรอยจ้ำขึ้นมาทันที มือกระตุกผ้าที่พันเอาไว้อยู่รอบกายงามให้หลุดพ้นออกไปด้วยความรำคาญ ก่อนจะเลื่อนขึ้นเลื่อนลงลูบเอวคอดกิ่วดั่งมดตะนอยไปจนถึงหน้าอกอวบใหญ่ล้นหลามที่พุ่งทะลักล่อตาล่อใจอยู่ตลอดเวลา อกอวบอิ่มทั้งใหญ่และอ่อนนุ่มถูกเคล้าคลึงคลอเคลียมิรู้คลาย ปลายนิ้วทั้งบดทั้งคลึงจนกายงามตัวอ่อนยวบ พลางไล้เลียลงมาสัมผัสเม็ดดอกบัวที่แข็งขึงชูชัน หวางเย่หลิงไม่เคยผ่านบุรุษใดมาก่อน ถึงกับโอบต้นคอก่อนจะรั้งร่างใหญ่โตลงมา เรือนกายสาวกำลังร้อนรุ่มเมื่อคนตรงหน้ากอบกุมเนินอกทั้งสองข้างก่อนจะใช้ปลายนิ้วสะกิดยอดดอกบัวตูมอย่างมีชั้นเชิง ปลายลิ้นสากเริ่มไล้โลมเลียเรื่อยลงมาจนถึงหน้าท้องอันแบนราบ จนร่างหอมกรุ่นแอ่นกายขึ้นด้วยความเสียวสะท้าน หวางเย่หลิงในขณะนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวอ่อนปวกเปียกดั่งขี้ผึ้งถูกลนไฟก็ไม่ปาน ไร้สิ้นเรี่ยวแรงที่จะดันร่างใหญ่ให้ออกไปจากเรือนกายของนางด้วยแรงแห่งพิศสวาทที่เขาโหมกระหน่ำโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด แต่แล้วบางสิ่งบางอย่างก็พลันเกิดขึ้นเมื่อโหวหนุ่มที่กำลังปลุกเร้าอารมณ์กลับหยุดนิ่งอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย “ข้าประทับจุมพิตฝากรอยจารึกเอาไว้จนทั่วตัว นี่คือการมัดจำที่ข้าตั้งใจมอบให้กับเจ้าถึงเวลาเมื่อไรจะต้องชดใช้ให้แก่ข้าอย่างสาสมเลยทีเดียว”เสียงที่เต็มไปด้วยแรงกำหนัดมากล้น กระซิบบอกแนบชิดริมหูสตรีของเขาที่กำลังนอนระทดระทวยอยู่ในขณะนี้ อิ๋งชวนโหวมองร่างงามรที่กำลังนอนหอบหายใจระทวย ดวงตาหวานหยาดเยิ้มส่งกลับมาให้จนอดไม่ได้ที่จะหอมแก้มนวลเนียนของนาง หวางเย่หลิงช่างร้อนแรงเป็นยิ่งนัก นางตอบสนองเป็นไปตามธรรมชาติที่เรียกร้องช่างเป็นเสน่ห์อันเย้ายวนที่ยากจะหักห้ามใจจนโหวหนุ่มเองเป็นฝ่ายแทบจะทนรอไม่ไหวตามคำมั่นที่ลั่นวาจาออกไป อิ๋งชวนโหวเป็นฝ่ายหักดิบความต้องการของตัวเองทันที ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดจึงโอนอ่อนไปตามความต้องการของสตรีที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาในขณะนี้ด้วยเล่า ร่างสูงใหญ่ลุกจากเตียงนอนเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็วเพื่อดับแรงกำหนัดของตนเองที่กำลังพุ่งพล่านอยู่ตลอดเวลา “เดี๋ยวก่อนเจ้าคะ! วันมะรืนหลิงเอ๋อจะต้องไปที่จวนอ๋องตงหยางเพื่อไปพบกับท่านหญิงอี้ฉาง แล้วก็จะต้องพำนักอยู่ด้วยเพราะท่านหญิงเพิ่งจะเดินทางกลับมาจากแดนใต้”นางส่งเสียงถามร่างสูงตามหลัง “ก็บอกแล้วไงว่าข้าไม่อนุญาต!!!! เจ้าควรจะดูว่าตอนนี้ตัวเองเป็นอย่างไรก่อนจะออกจากจวนของข้าให้ผู้ใดพบเห็น”โหวหนุ่มตะโกนตอบกลับมาโดยไม่หันกลับมามองเสียด้วยซ้ำ ท่ามกลางสายตาของหวางเย่หลิงที่มองตามร่างสูงใหญ่ไปจนลับสายตา นางกำมือของตัวเองเอาไว้จนแน่นด้วยความขัดเคืองใจเป็นที่สุด ตุบ! ตุบ! ตุบ! มือน้อยๆ ทุบลงบนฟูกนอนติดต่อกันพร้อมเอ่ยขึ้น “บ้าจริงเชียว! จะทำอย่างไรดีจึงจะจะหลุดพ้นจากคนผู้นี้ ขืนอยู่ร่วมจวนเดียวกัน มีหวังข้าจะต้องพลาดท่าเสียทีให้อีกเป็นแน่”นางบ่นพึมพึม ก่อนจะเหลือบสายตาสังเกตเห็นรอยจ้ำปรากฏอยู่บนเนินอกอวบไปจนทั่วบริเวณ “อะไรกันนี่!!!”แม่สาวน้อยอุทานออกมาด้วยความตกใจ ร่างงามรีบรุดตรงเข้าไปหาโต๊ะวางเครื่องประทินโฉมเพื่อรีบสำรวจตรวจตราร่างกายของตัวเอง หวางเย่หลิงปลดผ้าพันรอบกายออกจนเผยให้เห็นร่างกายเปลือยเปล่าขาวนวลเนียนผุดผ่อง หากแต่ผิวกายขาวที่นวลเนียนราวกระเบื้องเคลือบกลับปรากฏรอยจ้ำฝากไว้เต็มรอบคอ ทั่วบริเวณเนินอกอวบและหน้าท้องแบนราบ ไม่เว้นแม้กระทั่งท้องแขนเรียวทั้งสองข้างของนาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งริมฝีปากอวบอิ่มถูกดูดเม้มจนปรากฏรอยจ้ำทั้งริมฝีปากบนและล่างเลยทีเดียว รอยดูดเป็นจ้ำแดงๆ ปรากฏเด่นชัดขึ้นจนทั่วเรือนกายของนางอยู่ในเวลานี้ “อร้ายย!!! รอยอะไรกันนี่เต็มไปทั่วกายของข้าหมดเลย” นางพูดพลางยกมือลูบไล้ไปตามรอยจ้ำที่อยู่บนกาย พลางย้อนคิดถึงสัมผัสอันร้อนแรงที่เพิ่งได้รับทำให้หวางเย่หลิงเจ็บใจตัวเองขึ้นมาทันที “เหตุใดจึงปล่อยให้คนผู้นั่นทำกับข้าเช่นนี้ด้วยนะ เป็นเพราะใด! ใยข้าจึงเป็นเช่นนี้ไปได้” นางบ่นรำพึงรำพัน หวางเย่หลิงชิงชังตัวเองอย่างยิ่งยวดที่คล้อยตามไปกับรสสัมผัสที่ได้รับจากจอมอำมหิต นางกัดริมฝีปากของตัวเองเอาไว้จนแน่น ที่เผลอตัวเผลอใจเคลิบเคลิ้มไปกับจุมพิตและสัมผัสอันร้อนแรงที่เพิ่งได้รับเป็นครั้งแรกในชีวิตสาว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม