บทที่ 10
เต็มมือ
นับวันความรู้สึกที่เรอามีให้กับสาวรุ่นพี่ผู้อยู่ในสถานะนักศึกษาสวมรอยนั้น มันยิ่งชัดเจนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสายตา ท่าทาง หรือแม้แต่กระทั่งการกระทำที่เจ้าตัวแสดงออกมานั้น มันเด่นชัดในสายตาของคนอื่นอย่างไม่ต้องสงสัย ยิ่งในสายตาของคนที่มองวาโยอยู่ตลอดเวลาอย่างองศานะหรือ บอกได้คำเดียวว่า เห็นเต็มสองตา
ที่เรอาแสดงออกมามันออกนอกหน้านอกตาเหลือเกินในความรู้สึกของคนมอง แต่นั่นมันก็ยังพอทนได้อยู่หรอก หากเทียบกับความใกล้ชิดแบบถึงเนื้อถึงตัวที่เรอามีให้กับวาโยนั่น แม้ว่าสัมผัสพวกนั้นมันจะไม่ได้เกินไปจากที่คนอื่นๆ ที่แสดงออกต่อคนเป็นเพื่อนกันเลยก็ตาม
“เหอะ โอบกอดกันไม่อายสายตาคนอื่นเลยนะ แม่สาวนักเรียนนอก”
เสียงขึ้นจมูกที่บ่งบอกว่าคนพูดกำลังไม่พอใจขั้นสุดดังลอดออกมาจากอาจารย์หนุ่มผู้เคยมืดมนในอดีต เมื่อสายตาคู่คมทอดมองผ่านนอกหน้าต่าง แล้วเห็นเป็นภาพของอดีตเพื่อนร่วมรุ่นที่ง่วนกับการทำอะไรสักอย่างที่คงไม่ได้ดั่งใจนัก ถึงได้ทำหน้ามู่ทู่แบบนั้นโดยมีชายหนุ่มที่ชื่อเรอาคอยขยับปากพูดอะไรออกมาด้วยรอยยิ้มที่เกิดขึ้นตลอดเวลา สลับกับที่ฝ่ายคนเด็กกว่าคอยโอบแขนจับมือคล้ายกับจะช่วยสอนคนงามไปด้วย ซึ่งนั่นมันเป็นเรื่องปกติมากสำหรับคนทั่วไปที่มองดู แต่ไม่ใช่กับอาจารย์หนุ่มคนนี้
“อย่าบอกนะว่าเธอคบกับเจ้าเด็กคนนี้อยู่”
เจ้าของร่างสูงสมชายชาตรีพร่ำบ่นออกมาคนเดียวพร้อมกับสันกรามที่ปูดนูนขึ้น จากการขบบดเข้ากันแน่นก่อนที่สุดท้ายเขาจะตัดสินใจสะบัดหน้าหนีจากภาพตรงนั้นแทนเพื่อระงับอารมณ์หงุดหงิดที่มันตีรื้นขึ้นมาในใจ แล้วรอเวลาที่จะจัดการกับคนที่เป็นต้นเหตุของความไม่สบอารมณ์นี้ในเวลาที่เหมาะสมแทน...
ซึ่งก็แค่ช่วงเย็นค่อนไปทางค่ำของวันนั้นเอง
“เป็นอะไรไป ทำหน้าเหมือนมีอะไรอย่างนั้นแหละ” เรอาเอ่ยถาม เมื่อเห็นพี่สาวคนสนิททำหน้ามุ่ยขึ้นมาหลังจากที่เพิ่งละสายตาจากจอมือถือของตน
“ก็อาจารย์องศานั่นไง เรียกให้พี่เจออีกแล้ว คนอะไรเอาแต่ใจชะมัด”
“แล้วเขาจะเรียกพี่ไปเจอทำไมกัน ช่วงนี้เขาเรียกหาพี่บ่อยนะ หรือว่าเขาจับพิรุธอะไรได้”
ได้ยินหนุ่มรุ่นน้องเอ่ยถามคนสวยก็ชะงักไปทันทีแล้วรีบปั้นหน้าให้กลับมามีความมั่นใจเหมือนเดิม เพื่อไม่อยากให้อีกฝ่ายคิดมากหากรู้เรื่องราวของเธอกับองศา รวมถึงความจริงที่แตกละเอียดเหมือนแก้วนั่นอีก
“คิดมากไปได้ ไม่มีอะไรหรอกน่า ก็คงแค่จะตามงานเก่าๆ ที่ยัยนิมค้างไว้ต่อจากอาจารย์คนก่อนนั่นแหละ อาจารย์ใหม่ไฟแรงก็เป็นแบบนี้แหละ อย่าไปสนใจเลย”
“งั้นให้ผมไปเป็นเพื่อนไหม”
“ไม่เป็นไรๆ บอกแล้วไงว่าไม่มีอะไรน่าห่วงหรอก แค่นี้เองพี่เอาอยู่”
เรอาที่ได้ยินแบบนั้นแอบชักสีหน้าของคนถูกขัดใจออกมาเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้เอ่ยขัดใจหรือดื้อรั้นไม่ฟังคำอะไรออกไป หนุ่มรุ่นน้องทำเพียงแค่พยักหน้ารับแล้วขอแค่ไปส่งเท่านั้น ซึ่งวาโยเองก็ไม่ได้ห้ามปรามหรือขัดเช่นกัน เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายเป็นห่วงและหวังดีกับตนแค่ไหน
ฝ่ายองศาที่กำลังถูกอารมณ์หงุดหงิดที่เจ้าตัวพยายามจะดับมันลงไปเมื่อหลายชั่วโมงก่อนหน้า กลับขึ้นมาปะทุใหม่อีกครั้ง แถมยังเหมือนกับว่าระดับมันจะมากกว่าเดิมเสียอีก
และคนที่ทำให้เจ้าตัวออกอาการได้ขนาดนี้ก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่ไหนเลย แต่เป็นหนุ่มนักศึกษาหน้าละอ่อนคนเดิมนั่นเอง แถมสายตาเวลาที่เรอาทอดมองมายังวาโยนั้น ยังดูอาลัยอาวรณ์จนน่าหมั่นไส้อีกต่างหากในความรู้สึกของคนเป็นอาจารย์
เหอะ ห่างกันแค่ไม่ถึงนาทีมันจะตายเลยรึไง
องศาอดจะค่อนขอดออกมาไม่ได้อย่างนึกพาลกับภาพตรงหน้า แต่เจ้าตัวก็ทำได้แค่รอให้คนเด็กกว่าผละออกไปเท่านั้น แล้วจึงค่อยดึงแขนของวาโยเข้ามาในห้องด้วยกันอย่างรวดเร็ว เพื่อระบายความหงุดหงิดที่มันเล่นงานตัวเขามาตลอดเกือบครึ่งวัน ไม่สิ ตลอดหลายวันที่เห็นทั้งสองคนนี้ผ่านตาต่างหาก
“นี่เธออย่าบอกนะว่าคบกับเจ้าเด็กนั่นอยู่ แล้วเจ้าเดวิดฝรั่งหัวโจกลูกคนรวยนั่นล่ะเอามันไปทิ้งไว้ที่ไหน”
องศาไม่อาจทนเก็บความรู้สึกที่มันโจมตีได้อีกแล้ว ถึงได้พ่นคำพูดออกไปตามที่ใจคิด ความจริงแล้วเขาก็พอรู้นะว่ามันคงฟังดูไม่ค่อยรื่นหูแน่ๆ แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อตอนนี้ข้างในใจของชายหนุ่มมันทั้งเต็มไปด้วยอารมณ์ที่เกินจะควบคุมได้แล้ว เหมือนกับปากของเขาที่มันยั้งเอาไว้ไม่ได้เช่นกัน
“อะไรของ...”
“อ๋อ หรือว่าจริงๆ แล้วเธอเป็นประเภทที่ชอบคนซ้อน ควงทีละสอง สาม สี่ ทำตัวแบบนี้มันไม่น่ารักเลยนะ”
เพื้ยะ !!!
รางวัลเป็นฝ่ามือนุ่มๆ ของวาโยฟาดลงมาบนใบหน้าหน้าหล่อเหลาแบบไม่ต้องสงสัย นั่นมันยิ่งเหมือนว่าเจ้าตัวราดน้ำมันลงกองไฟโทสะเพิ่มขึ้นไปอีก
"นายเป็นบ้าอะไรถึงได้พูดจาแบบนี้"
"จะเป็นไรได้ล่ะ" (ก็ฉันหึง) ประโยคหลังองศาทำได้เพียงคิดในใจ และแสดงออกมาตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง แววตาที่เขาส่งไปให้วาโยมีแต่ความเหยียดหยามเท่านั้น
"แล้วฉันจะคบกับใครกี่คนมันก็เรื่องของฉัน จะควบสอง สาม สี่ หรือทีละสิบก็ไม่เกี่ยวกับนาย" คำพูดของสาวเจ้าทำคนฟังถึงกับขบกรามแน่น ความหึงหวงแล่นพลุ่งพล่านมากกว่าเดิมกับคำประชดประชันนั่น
“พูดมาขนาดนี้แล้ว งั้นก็ควบฉันเพิ่มอีกสักคนจะเป็นไรไป ใช่ไหม”
"เอ๊ะ อึก อื้อ"
ชายหนุ่มว่าออกอย่างคนเอาแต่ใจแล้วดันตัวคนปากเก่งให้ชิดกับผนังของห้อง ก่อนจะเริ่มส่งริมฝีปากของตัวเองเข้าประจบบดจูบทันทีก่อนที่สาววาโยจะอ้าปากต่อว่าอะไรออกมาอีก
ลิ้นขององศาพยายามสอดเข้าใส่ปากของคนสวยเพื่อกวาดตอนลิ้นเล็กเข้ามาดูดดุนเหมือนอย่างใจคิดมานาน แต่ก็ยากพอดูเพราะเธอเล่นหลีกหนีจนคนรุกรานไม่มีช่องว่างโจมตีได้เลย นั่นจึงทำให้คนตัวโตเปลี่ยนเป้าหมายไปหาอย่างอื่นดูดแทน
“อ๊ะ นายจะทำอะไรองศา”
วาโยว่าพร้อมกับพยายามดันตัวชายหนุ่มเอาแต่ออกจากตัว เมื่อฝ่ายนั้นเริ่มส่งมือไปยุ่มย่ามกับก้อนอกอวบของเธอ แต่มีหรือที่คนกำลังตื่นเต้นกับความอ่อนนุ่มนั่นจะยอมง่ายๆ
“ต้องถามด้วยเหรอ แม่คนเจนสนาม”
เสียงที่แหบจนฟังแทบไม่ได้ยินขององศาดังออกไป เมื่อมือซุกซนมันจัดการแยกสาบเสื้อนักศึกษาให้แยกออกจากกัน เผยให้เห็นเต้าอวบใต้บราลูกไม้สีสดดูเร้าอารมณ์ ที่แค่มองลำแท่งในกางเกงมันก็แทบปริอยู่แล้ว
“อย่ามองนะ ไอ้บ้านี่”
“จะปิดทำไม ทำเหมือนไม่เคยมีใครเห็นไปได้”
คนเอาแต่ใจว่าอย่างหัวเสียเมื่อเธอพยายามจะปิดความสวยงามของตนเอาไว้ แต่ก็ถูกองศากระชากมือออกแล้วซุกหน้าลงไปหาเจ้าก้อนนิ่มทันทีเหมือนว่ากระหายมันมานาน
"อืม เต็มไม้เต็มมือ ทั้งหอมทั้งนุ่มน่าฟัดจริงๆ "