อื้อ~ ฉันแอ่นกายบิดขี้เกียจ เหลือบไปมองนาฬิกา OMG! บ่ายสองแล้วเหรอเนี่ย มองซ้ายมองขวาก็ไม่เจอเขาแล้ว ปลอดภัยแล้วล่ะ ฉันรีบลุกขึ้นห่อร่างเปลือยล่อนจ้อน ไปอาบน้ำอาบท่า พอตัวสัมผัสน้ำเริ่มรู้สึกเจ็บตรงร่องสาว มันบวมแดง และแสบระบมไปหมด
พอนึกถึงเรื่องเมื่อคืน ฉันล่ะอยากมุดส้วมหนีไปจากที่นี่ให้พ้น น่าอายชะมัด ทำไมเราต้องไปมีอารมณ์ร่วมกับเขาทุกครั้งเลยนะ เบื่อตัวเอง
พอแต่งตัวเสร็จออกมาหาอะไรกินก็เจอแม่บ้านคนนึงยืนจัดจานจัดอาหารรออยู่
“สวัสดีค่ะ คุณณีเวีย ป้าชื่อป้านวลนะคะ คุณเซ็น สั่งให้ป้าจัดกับข้าวไว้ให้คุณค่ะ” ป้านวลยิ้มหวานแล้วเลื่อนเก้าอี้ให้ฉันนั่ง
“ขอบคุณค่ะป้านวล”
เอ่อ... โต๊ะกินข้าวนี่ฉันเพิ่งนั่งมันเมื่อคืนนี่น่า อยากจะร้องไห้จริง ๆ พอหันไปทางไหนเรื่องเมื่อคืนก็หลอกหลอนฉันไปหมดทุกซอกทุกมุม
“เอ่อป้านวลคะ เขาไปไหนเหรอคะ?”
“คุณไปประชุม ที่โรงงานค่ะ” เขาเอาแรงที่ไหนตื่นไปทำงานกันนะ
ฉันรีบกินข้าว แล้วรีบแกะยาคุมกิน ไม่ทันไรป้านวลก็เดินมาเก็บจานข้าวพอดี
“คุณณีเวีย อย่าหาว่าป้าละลาบละล้วงนะคะ คือยาคุมฉุกเฉิน อย่าทานติดกันบ่อยเลยค่ะ มันไม่ดี”
ฉันก้มมองกล่องแล้วฉุกคิดขึ้นมา ฉันกินยาอีกเม็ดของเมื่อวาน และเมื่อคืนฉันมีอะไรกับเขาอีกครั้ง ถ้าอยู่ที่นี่ฉันอาจต้องโดนตาหน้าเมื่อยนั่นข่มขืนบ่อยแน่ ให้กินยาอะไรแบบนี้บ่อย ผลที่ตามมามันไม่คุ้มจริง ๆ นั่นล่ะ ฉันคงต้องหาทางป้องกันวิธีอื่นแล้วล่ะสิ
“คุณณีเวียคะ คือป้าลืมบอก คุณเซ็นไม่ให้ป้าทำงานที่นี่แล้วเห็นว่า
ให้คุณทำแทน ป้าต้องกลับไปทำงานต่อที่บ้านใหญ่ต่อ เหนื่อยหน่อยนะคะ
เดี๋ยวป้าสอนให้ค่ะ”
ป้านวลพูดแบบยิ้มแย้มตามปกติของแก แต่ฉันสิควันออกหูไปแล้ว
นี่ฉันมาทำอะไรที่นี่เนี่ย ให้เป็นแม่บ้านและอีตัวบนเตียงนอนพร้อม ๆ กันหรือยังไง กะจะใช้ให้คุ้มเลยล่ะสิ!
“จะ จริงเหรอคะ ขอบคุณมากค่ะ ป้านวลมีเบอร์เขามั้ยคะ หนูขอ
หน่อยค่ะ” ป้านวลยื่นมือถือให้ฉันค้นหาเอง เพราะแกทำไม่ค่อยถูก พอได้เบอร์มาก็รีบเมมเบอร์ใส่โทรศัพท์ตัวเองรีบโทรหาเขาทันที
โทรออก | ตาหน้าเมื่อย
(ฮัลโหล)
“คุณ สรุปคุณจะให้ฉันทำงานอะไรคะ จะให้ทำให้ทุกอย่างเลยรึไง ไหนว่าแค่บริการอย่างเดียวแค่เรื่องอย่างว่าฉันว่ามันก็มากพอแล้วนะ”
(บ่นอะไร เป็นผู้หญิงก็ควรทำไม่ใช่รึไง)
“แล้วทำไม ไม่จ้างแม่บ้านทำ เดี๋ยวฉันก็ต้องไปเรียน ไหนตอนกลางคืนคุณ... อะไรฉันอีกล่ะ”
(บ่นทำไม ก็ชอบเหมือนกันนิ แค่นี้ล่ะฉันไม่ว่าง)
เขาทิ้งระเบิดตูมเล็ก ๆ ใส่ก่อนวางสาย ฉันได้แต่กัดปากแน่น หน้าร้อนผ่าวไปถึงใบหู
ป้านวลเริ่มสอนฉันซักผ้า ซักมันทั้งหมด กางเกงในถุงเท้า สอนทำ
อาหารเช้า ดูดฝุ่น ทุกอย่างจริง ๆ พอจบครอสป้านวล ฉันรีบโทรหาน้ำหวานกะจะฟ้องพฤติกรรมเทพบุตรของนางเสียหน่อย
“อะไรแก เมื่อคืนโดนไหม อิอิ” น้ำหวานรับสายเสียงเจ้าเล่ห์
“พอเถอะแก ฉันเบื่อ อีตาเซ็นนี้ใช้ฉันทำงานบ้าน แทบทุกอย่าง
ซักผ้ารีดผ้า แล้วแกรู้มั้ย กางเกงในเขายังต้องรีด ฉันนี่จะบ้าแล้วแก เมื่อไหร่จะหมดสัญญาสักที ฉันเหนื่อยจะแย่”
ฉันบ่นอุบอึบ อีกมือนวดแขนนวดขาตัวเองไปด้วย ถ้าเป็นแต่ก่อนปวดเมื่อยนิดหน่อยฉันคงรีบไปร้านนวดเข้าสปาแพง ๆ ให้สบายใจแล้วล่ะ นี่มานั่งเป็นยายเพิ้งบ่นพึมพำอยู่ คับแค้นใจจริง
(ก็ดีแล้วนี่แกจะได้ทำเป็น เป็นสาวเป็นนาง) น้ำหวานเข้าข้างเขาอีกแล้ว
“เฮ้อ แกไม่เจอกับตัวไม่รู้หรอก นี่ฉันเบื่ออะ อยากเปิดเทอมแล้ว แกมาเดินเล่นห้าง ZER มั้ย ชวนไอ้แตงด้วย”
ฉันอยากจะช้อปปิ้งให้หายเครียด แต่ก็ลืมไปว่าไม่มีเงิน เลยได้แต่ชวนสองสาวมาเดินเล่นห้างชั้นล่าง อย่างน้อยฉันก็แค่ลงลิฟต์ไม่กี่ชั้น และไม่ต้องเสีย
ค่าแท็กซี่
(แหมคุณนายเจ้าของห้าง เออได้ฉันก็เบื่อ แต่แตงโมมันไม่ว่าง ติดธุระ
มีแต่ฉันกับแก โอเคมั้ย เดี๋ยวออกไปเลย)
พอฉันวางสายน้ำหวานก็รีบแต่งหน้าแต่งตัว กลัวตาหน้าเมื่อย
กลับมาก่อน
ลงลิฟต์มาถึงชั้นล่างก็เป็นห้างกว้างใหญ่ ช้อปแบรนด์เนมเรียงรายกันเป็นแถว จะว่าไปห้างนี้ฉันก็เคยมา แต่นึกไม่ถึงว่าเจ้าของจะยังหนุ่มและบ้าพลังเหมือนเมื่อคืน... ระหว่างนั้นฉันก็เดินเล่น ๆ รอน้ำหวาน
‘ครื้น ครื้น’ เสียงรถซุปเปอร์คาร์คันหรูขับมาจอดหน้าประตูห้าง ประตูปีกนกฝั่งคนขับถูกเปิดออก เมื่อขายาว ๆ ก้าวลงมาจากรถเท่านั้น พี่นพก็วิ่งขับรถออกไป เขาเดินเข้ามาพร้อมติดกระดุมสูทเรียบนิ่ง ๆ นิ้วยาว ๆ ถอดแว่นกันแดดราคาแพงออก มันเผยให้เห็นดวงตาคู่สวยที่พร้อมกระชากใจสาว ๆ คู่นั้น
“อ้ายแก โคตรหล่อ” น้องผู้หญิงข้าง ๆ ฉัน สะกิดเพื่อนให้หันไปดู
“ปลื้มอะแก ได้ข่าวว่าเป็นเจ้าของห้าง”
สาว ๆ มองเขาตาเป็นมัน รวมถึงฉันที่ยังเผลออึ้งในความดูดีของเขา
เมื่อร่างสูง ผิวขาวนั้นเดินเข้ามาในห้าง รังสีความหล่อก็แผ่กระจายทวีคูณขึ้นไปอีก
“แกเขาเดินมาทางนี้” น้องผู้หญิงข้าง ๆ ฉันรีบสะกิดเพื่อนอีกรอบ
เขาเดินมาทางนี้จริง ๆ และหยุดอยู่ตรงหน้าฉัน ตาคม ๆ ของเขานั้นจ้องหน้าฉันนิ่ง เสียงซุบซิบรอบ ๆ เริ่มมา คนพวกนั้นมองฉันกับเขาสลับกัน เห็นแล้วหมั่นไส้
พวกหล่อนไม่มีโอกาสได้ใกล้เขาล่ะซิ จงดูฉันเป็นตัวอย่าง
ฉันขยับไปเกาะแขนเขาทันที และพาเขาเดินเชิดออกมาอีกฝั่งแบบสวย ๆ
“ทำอะไรของเธอ ลงมาทำอะไร” เขาถามพลางก้มลงมองที่มือฉัน
“เปล่า เวียนหัว เบื่อเลยลงมาเดินเล่น รอน้ำหวาน”
“อยากซื้ออะไรล่ะ” เขาถามพลางเอามือล้วงกระเป๋ากางเกง
“ทำไมจะซื้อให้เหรอ เอาตังค์มา ๆ” ฉันแบมือขึ้นจนเขายกมือมาตีมือ
ฉันดัง ‘เพี๊ยะ’
“ทำผิดอยู่ไม่มีสิทธิพูด กินเหล้าเมาคาชุดนักศึกษา ใครเขาทำกัน”
ฉันมองหน้าเขากลับพอสบตาเท่านั้น เรื่องการทำโทษเมื่อคืนก็ผุดขึ้นมาในหัวฉันอีกรอบ ฉันรีบหันหน้าหนี ไม่อยากให้เขาเห็นแก้มแดง ๆ ฉันตอนนี้ เพราะหน้ามันเริ่มร้อนผ่าวไปถึงใบหูแล้ว
“ระ… รู้แล้วน่า” ฉันเขินจริง ๆ ไม่อยากจะมองหน้าเขาอีก กลัวเขา
จะจับได้
“พูดด้วยไม่มองหน้า ไม่มีมารยาทจริง” เขาบ่นตามหลังมา แล้วเอาอะไรแข็ง ๆ มาเขี่ยหลังฉัน ตายจริงจะทำอะไรตรงนี้ไม่ได้นะ! ฉันรีบหันควับไปจะโวยวาย
กลายเป็นว่าเห็นแค่บัตรเครดิตสีดำหนึ่งใบ
“อะไรคะ ให้ฉัน” ฉันชะงักนิดหน่อย กลัวจะเผลอไปติดสัญญาบ้ากามอะไรกับเขาอีก เขายื่นให้อีกรอบแล้วพยักหน้า
“ไม่มีสัญญาอะไรหรอก ไม่จำกัดวงเงิน ค่าทำงานบ้าน” ค่าทำงานบ้านที่ไม่จำกัดวงเงิน อะไรจะคุ้มค่าขนาดนี้ หึ ฉันจะรูดให้หมดตัวเลยคอยดู
“แล้ว กับห้างนี้มีส่วนลด หรืออะไรหรือเปล่า”
“มี แต่เธอต้องจ่ายเงินตามปกติ เพราะห้างฉันมีระบบ ทำไมกลัว
ตัวเองขาดทุน?”
เขารู้ทัน ฉันได้แต่พยักหน้ารับพร้อมยิ้มแป้นให้กับบัตรใบนี้ แผนของฉันจะสำเร็จคราวนี้ล่ะ รูดปรื้ด…
“แก รอนานมั้ย” น้ำหวานวิ่งมากอดคอฉัน ข้าง ๆ นางคือผู้ชาย นางมากับผู้ชายเหรอเนี่ย
“ไงมึง เรื่องเหล้าโอเคยัง” ผู้ชายคนนั้นเดินไปคุยกับคุณเซ็น ฉันหันไปมองหน้าน้ำหวานมีคำถามร้อยแปดอยากจะถามนาง
“ก็ดี กลับมาเมื่อไหร่วะ” ฉันรีบลากน้ำหวานออกมาจากวงสนทนานั้น ก่อนที่น้ำหวานจะหันไปโบกมือบ้ายบาย
ร้านแพนเค้ก
“มากับใคร ทำไมเขารู้จักกับคุณเซ็น”
น้ำหวานยิ้มร่า หน้าแดงเป็นลูกตำลึง
“พี่ที เจอเขาตอนไปเมกาคุย ๆ กันอยู่ เขาเป็นเพื่อนสนิทคุณเซ็น
ฉันก็รู้เรื่องคุณเซ็นมาจากพี่ทีนี่ล่ะ” ไม่น่า เชียร์ฉันไม่หยุด
น้ำหวานเล่าเรื่องพี่ทีให้ฟัง บอกว่าเขาเป็นเจ้าของโรงแรมที่ภูเก็ต ไปเจอบนเครื่องตอนไปเมกาเลยแลกไลน์กัน คุยกันมาได้สักพักแล้ว ฉันก็ได้แต่เออ ออห่อหมก ไปด้วย แต่หล่อนก็ยังมิวายเชียร์ฉันให้ท้องเป็นเพื่อนที่ดีจริง ๆ
ฉันเดินช็อปสบายใจกับน้ำหวาน ใช้บัตรเบ่งซื้อชุดใหม่สิบสองชุด กระเป๋าแอร์เมสสองใบ เครื่องสำอาง ครีมชุดใหญ่ ชุดชั้นในลูกไม้น่ารัก ๆ ทุกสี ซื้อทุกอย่างใหม่จนถือเองแทบจะไม่ไหว การใช้เงินไม่จำกัดทำไมมันแฮปปี้แบบนี้นะ
“แกอดอยากมาจากไหน ไม่ช้อปเป็นปีแล้วว่างั้น แล้วนี่บอกคืนพ่อไปหมด ไปเอาตังค์มาจากไหน อย่าบอกนะว่า...” น้ำหวานตาโตตกใจ ฉันพยักหน้าส่งยิ้มสวยไปให้ทีนึง
ฉันหอบถุงพะรุงพะรังขึ้นลิฟต์มาถึงหน้าห้อง พอพี่นพเห็นก็รีบวิ่ง
มาช่วยถือ รู้งี้ชวนพี่นพไปด้วยดีกว่า กะจะไปถอยรถใหม่มาจอดทิ้งไว้สักสองคัน
คนมันรวย อิอิ
มาถึงห้องคุณเซ็นก็เปิดแอร์ไว้เย็นช่ำ ฉันนั่งลงโซฟา ตามด้วยพี่นพที่เอาของเข้ามาวางให้ ก่อนจะหลบไปยืนอีกมุม
เช็คของหน่อยสิ ฉันพิถีพิถันเปิดกล่องสีส้มอย่างถนุถนอม พร้อมหยิบกระเป๋าราคาแพงขึ้นมาจัดถ่ายรูปอัพลง IG รัว ๆ Hermes Kelly สามสิบห้าเซนติเมตรสีชมพูบานเย็น กับสีดำ ใช่ฉันซื้อมาสองสี ด้วยความที่ตัดสินใจไม่ได้
จริง ๆ เลยซื้อมาทั้งสองใบ พอลง IG ปุ๊บคอมเม้นก็เด้งรัวมาก เพราะราคากระเป๋าใบนี้ ใบละ 5 แสนกว่าบาท 2 ใบก็ 1 ล้านหน่อย ๆ รวย ๆ แบบนี้ถึงไม่ใช่ชมพู่
แต่กูก็ทำได้ (ยิ้มอย่างผู้ชนะ)
“ข้อความในมือถือฉันเด้งไม่หยุด...” เสียงนิ่งดังขึ้นข้างหลังทำฉันตกใจ โทรศัพท์หลุดมือ หล่นตุบ ไปกองกับพื้น
ฉันไม่เก็บโทรศัพท์ แต่หันไปส่งยิ้มสวย ๆ ให้เขาแทน
“เผอิญ ผัวรวย ทำไมคะเลี้ยงไม่ไหวล่ะซิ ยกเลิกสัญญาเลยมั้ย ฉันช้อปเก่งนะ เนี่ยเบา ๆ พรุ่งนี้จะไปซื้อรถสักสองสามคัน เปิดเทอมไม่อยากขับรถซ้ำ ๆ
ไปเรียน” เขากอดอกมองของที่ฉันซื้อนิ่ง ๆ ฉันก็เดาไม่ถูกจริง ๆ ว่าเขาจะว่าอะไร
ต่อจากนี้
“ซื้อสักสิบคันกำลังดี นพพรุ่งนี้พาณีเวียไปซื้อรถสักสิบคันนะ”
“คะ ครับนาย” พี่นพตอบรับทันที
ฉันได้แต่ยื่นนิ่ง เพราะคิดว่าแผนตัวเองคงไม่สำเร็จแน่ ๆ เขาไม่สนใจที่ฉันรูดบัตรเขาไปเกือบสองล้าน แถมยอกย้อนคำพูดฉันหน้าตาเฉย ใครเขาจะซื้อรถมาใช้คนเดียวเป็นสิบคันตลก
“นี่ต้องซื้อของกี่บาทคุณถึงจะหมดตัว” ฉันหมั่นไส้เขาจริง ๆ อุตส่าห์ทำตัวให้เหมือนผู้หญิงเก่า ๆ ที่เขาเบื่อแล้ว ทั้งแต่งตัวโป๊ ทั้งผลาญเงิน ทำไมเขาไม่ยอมเบื่อ และไล่ฉันไปไกล ๆ สักที
“อยากให้ฉันหมดตัวเหรอ” เขาเดินเข้ามาชิดตัวฉัน จนฉันรู้สึกถึงลมหายใจอุ่น ๆ ของเขา
“นพ ออกไป ล็อคประตูให้ฉันด้วย” เขาสั่งพี่นพในขณะที่ยังจ้องหน้าฉันไม่ละสายตา พี่นพรีบวิ่งออกไปล็อคประตูทันที เดี๋ยวพี่นพช่วยณีเวียด้วย! ฮือ~
“เปล่าสักหน่อยแค่ถามดู” เขาเอามือมาโอบหลังฉันแล้วดันเข้าหาตัวเอง จนจมูกเราสองคนชนกัน
“ชอบถูกทำโทษสินะ?”
‘ตึก ตึก ตึก’ ฉันไม่ตอบอะไร ได้ยินแต่เสียงหัวใจตัวเองที่เต้นแรงไม่เป็นจังหวะ เบา ๆ สิเจ้าหัวใจ เดี๋ยวเขาก็รู้หรอก…
“เปล่า ปล่อยเถอะค่ะ” ฉันพยายามหลบสายตาเขา ที่เอาแต่จ้องตาฉัน เขาคงรู้แล้วว่าหัวใจฉันเต้นแรงแค่ไหน เพราะหน้าอกหน้าใจตูม ๆ ของฉัน แนบชิดเขาจนไม่เหลือทรงเดิม
มือหนาค่อย ๆ เลื่อนเข้าไปหลังสาปเสื้อ ปลดตะขอบราลูกไม้ตัวโปรดฉัน ด้วยมือเพียงข้างเดียว...
“อยากให้เก่งเหมือนช้อปปิ้ง” เขากระซิบข้างหูฉันเสียงแผ่วเบา ฉันตัวแข็งทื่อเหมือนถูกเสียงมหาเสน่ห์สะกดวิญญาณ…
‘ตึก ตึก ตึก’ เสียงหัวใจฉันเอง... ทำไมเขาต้องมาทำตัวเซกซี่เร่าร้อนใส่ฉันด้วยเนี่ย
เขาประทับจูบลงเบา ๆ ก่อนริมฝีปากนุ่มจะเลื่อนลงมาซุกไซร์คอจนฉันเริ่มรู้สึกผ่อนคลาย มือขวานั้นมิวายอยู่นิ่ง ยังส่งนิ้วชี้แสนซนมาบดขยี้เม็ดสาว
กลางอก อื้ม~ มันกระตุ้นความรู้สึกเสียวกระสัน...
จนฉันอยาก... อยากรับรสสัมผัสจากเขามากขึ้นอีก
เชิ้ตบางของฉัน ถูกเขาถอดโยนลงบนพื้นไม่ใยดี มือใหญ่ดันตัวฉันนอนบนโซฟา ก่อนจะระดมจูบทั้งเนินอก ร่องท้อง เนินสาว ลมหายใจอุ่น ๆ นั้นครอบงำฉัน จนฉันแอ่นอกรับไม่รู้ตัว
จมูกโด่งเลื่อนต่ำ ลงมาถึงติ่งสวาท ก่อนจะกดลิ้นนุ่มเชยชิมมันฉันกำลังจะถูกเขากินอีกแล้ว
“อื้อ~ อ๊ะ” ลิ้นนุ่มตวัดไปมา ระเรงดูดทุกซอกทุกมุมในร่องสาว ซุกซนย้ำกดแทรกกลีบกุหลาบหวังเข้าไปสัมผัสข้างในของฉัน แต่ไม่ทันใจ นิ้วยาวเริ่มแทรกเข้าไปทำหน้าที่แทน ขยับเข้าออกรัวเร็วจนฉันอดกลั้นเสียงครางไว้ไม่อยู่
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ ๆ” ตาคมเหลือบมองฉันแว๊บนึง พึงพอใจกับผลลัพธ์ตรงหน้า จึงตัดสินใจใส่เข้ามาอีกนิ้ว
“อ๊ะ~” ฉันรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย ก่อนที่นิ้วทั้งสองจะเกี่ยวกระทุ้งรูลึก
หวังเรียกน้ำรักรสหวานออกมาให้เขาเชยชม
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ” ฉันได้แต่ครางไม่เป็นภาษา ดังไปทั่วห้อง นิ้วยาวทรมานฉัน กะจะให้ฉันขาดใจตายตรงนี้
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ” ฉันจิกผมเขาแน่น หน้าท้องเกร็งไปหมด เขายิ่งเร่งจังหวะรัวขึ้นเรื่อย ๆ จนฉันใกล้จะกระตุก จะเสร็จ ใกล้แล้ว...
“พอแค่นี้ก่อนหิว”
อยู่ ๆ เขาก็ลุกขึ้นเดินไปที่ห้องครัว ดะ เดี๋ยวนะ ฉันกำลังจะเสร็จ นี่แกล้งกันใช่มั้ย ล้อกันเล่นใช่มั้ย? ฉันมองสภาพตัวเองแล้วอารมณ์เสียสุด ๆ อาการหงุดหงิดเริ่มครอบงำ
ฉันเดินตึงตังเข้าไปใส่เสื้อผ้าในห้องก่อนจะออกมาเห็นเขานั่งกินข้าวอย่างสบายใจ ไอ้คนเลว!
“กินข้าวสิ เอาเกลือแร่มั้ย” ฉันเลื่อนเก้าอี้ลงไปนั่งตรงข้ามเขา แล้วก้มหน้าก้มตากิน เบื่อ หน้าก็ไม่อยากมอง
“ใครกินเกลือแร่ กับสเต็ก!” แค้นใจชะมัด ฉันหั่นสเต็กด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวสุด ๆ ใจร่ม ๆ นะณีเวีย
“เห็นว่าเสียน้ำเยอะ” ฉันเหลือบตาไปมองเขาแว๊บนึง หน้านิ่งนั้นยิ้ม
อ่อน ๆ ให้ฉันที่มุมปาก ชวนให้ฉันโมโหเขาขึ้นไปอีก
“เหอะ!” ฉันดีดตัวลุกจากเก้าอี้วิ่งเข้าไปนอนซมในห้อง ไม่กินมันแล้ว
ของที่ซื้อมาก็ไม่จัดมันแล้วโว้ย รำคาญ
ฉันนอนกระสับกระส่าย อึดอัดอย่างบอกไม่ถูก อยากวิ่งออกไปเตะบอล ต้องวิ่งออกไปเตะบอล!
โทรออก | Namwan
(ฮะ ฮัลโหล อื้ออ) น้ำหวานรับโทรศัพท์เสียงแปลกประหลาด อย่างไม่
เคยเป็น อะไรของหล่อนเนี่ย
“เป็นอะไร ไม่สบายเหรอ ออกไปออกกำลังกายกันมั้ย”
(อะ อะ ออกอยู่ อ๊ะ)
น้ำหวาน! ฉันรีบกดวางสายเพราะรู้ว่าปลายสายกำลังทำอะไรอยู่ เจ็บปวดชะมัดเหมือนน้ำหวานกำลังตอกย้ำฉันอยู่ยังไงอย่างงั้น!
ฉันพยายามโทรหาแตงโมนางก็ไม่รับ ฮือ ทำไมทรมานแบบนี้ ฉันลุกเดินไปมาจนเหงื่อเป็นเม็ด ๆ เริ่มผุดขึ้น
ไม่นานคนก่อเรื่องก็เดินเข้ามาในห้อง แต่ คะ คราวนี้เขาถอดเสื้อ ซิกแพคสวย ๆ นั่นทำฉันหันไปมองโดยไม่รู้ตัว
“เป็นอะไร ไม่สบาย?” เขาเอามือมาอังหน้าผาก ฉัน จนฉันมือไม้สั่นไปหมด นี่ฉันอยากจะกินเขามากขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย
“ไปไกล ๆ ได้ไหมคุณ” ฉันนั่งลงบนเตียง พยายามกดลดแอร์ หวังจะลดอุณหภูมิในตัว
แต่... มันคงจะไม่เป็นแบบนั้น... อุณหภูมิในตัวฉันคงลดลงอีกไม่ได้แล้ว เพราะอยู่ ๆ ชายตรงหน้า... เขากำลังถอดกางเกง!
“มองอะไร” เขาหันมาถามนิ่ง ๆ จนฉันรีบละสายตาไปทางอื่น
“เปล่า แล้วถอดอะไรตรงนี้ล่ะ”
“ก็ปกติถอดตรงนี้” เขาตอบเรียบ ๆ และเดินเข้าไปห้องน้ำ ยุบหนอ
พองหนอ
สักพัก ฉันตัดสินใจหยุดคิดเรื่องอย่างว่า หยิบชุดใหม่ไปโยนลงเครื่องซักผ้า จัดของที่เพิ่งซื้อมาหาอะไรทำไปเรื่อย กว่าจะเสร็จก็ปาไปเกือบ 5 ทุ่ม
เดินเข้ามาในห้องก็พบว่าเขาหลับไปแล้ว หลับได้ก็ดี ก่อกวนชะมัด
ฉันรีบอาบน้ำจัดการตัวเอง ก่อนจะแอบย่องไปนอนข้าง ๆ เขา... คนอะไรหลับยังหล่อ ฉันนอนตะแคงมองหน้าเขาสักพัก... อยู่ ๆ ร่างใหญ่ก็พลิกตัวเข้ามากอดฉันไว้แน่น หน้าของเขาซบลงที่หน้าอกฉันเต็ม ๆ จมูกโด่งเริ่มขยับ… ซุกไซ้นมฉันอยู่อย่างงั้นไม่ยอมหยุด
“นอนค่ะคุณ”
ฉันดันตัวเขาออกไป แต่ร่างใหญ่กับกอดแน่นไปกว่าเดิม ไซ้เนินอกต่ออย่างโหยหา ไม่ทันไรมือใหญ่ที่โอบฉัน เอี้ยวไปถอดตะขอ บราเซียของฉันเสียแล้ว
“คราวหลัง ไม่ต้องใส่ชั้นในนอน” เขาบ่นอู้อี้อยู่ตรงร่องนมฉัน ซึ่งปกติฉันไม่ใส่มันนอนอยู่แล้วหากนอนคนเดียว
“นอนเถอะค่ะ พรุ่งนี้ฉันต้องไปเลือกรถสิบคัน”
ฉันประชดประชันและพยายามดันไหล่เขาออก แต่ไม่ทันการ มือใหญ่ล้วงเข้าไปในเสื้อนอนของฉันเสียแล้ว
“ขอกินนมก่อน” เขาปลดกระดุมเม็ดกลางออก ดันบราที่ติดแขนฉันอยู่ขึ้น
ริมฝีปากนุ่มเริ่มดูดเม็ดทับทิมบนเนินอก ส่งลิ้นอุ่น ๆ สัมผัสมันเบา ๆ จนฉันเริ่มรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
“คุณ ฉันง่วง” ฉันพยายามค้าน
ไม่มีเสียงตอบ มือเขาอีกข้างยังล้วงเข้าไปในกางเกงนอนของฉันอีก
จะโดนอีกแล้วเหรอเนี่ย...
มือหนายุกยิกหาตุ่มสวาท... ก่อนจะค่อย ๆ คลึงมันไปมาถี่ ๆ ลิ้นอุ่นยังไม่ลดละ ดูดกินยอดอกของฉันอยู่อย่างนั้น... จนฉันเริ่มกระสับกระส่ายเสียววูบวาบไปทั้งตัว
“อื้อ~” ร่างใหญ่ลุกขึ้นดันตัวฉันนอนหงาย และจับขา 2 ข้างฉันแยกออกจากกัน ก่อนจะก้มดูดกินน้ำสวาทที่เปียกไปทั่วเนินเพราะฝีมือเขา จากนั้นลิ้นซนเปลี่ยนมาทรมาน บดบี้ติ่งสวาทแดงก่ำของฉันแทน เร่งจังหวะละเลงรัว ๆ จนฉันอดเปล่งเสียงครางกระเสร่าเร่าร้อนออกมาไม่ได้
“อ๊ะ คุณเซ็นฉัน... อ๊ะ~” มือฉันเอื้อมจับผมนุ่ม มิวายแอบกด... ราวกับไม่อยากให้เขาละหน้าออกไป
“เป็นอะไร” เขาเหลือบมาถามเสียงนิ่ง เหมือนคนไม่รู้สึกรู้สาอะไร มันขัดใจฉันอย่างบอกไม่ถูก จนฉันเอื้อมมือไปกดหัวเขาลง อยากให้เขาส่งรสสวาทนั้นต่อไปอีก
“ต่อ...” เขาหัวเราะเบา ๆ ในร่องสวาทฉัน ก่อนจะเริ่มละเลงมันอีกรอบด้วยลิ้นรัว ๆ ความเร็วของลิ้นทำฉันเสียวซ่านไปทั้งตัว อยากให้เขากลืนกินมันไปให้หมดเลยตอนนี้
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ” ฉันขย้ำผมเขาแรง รูสวาทตอดตุบ ๆ ใกล้แล้ว... ใกล้จะกระตุกเสร็จเต็มที อีกแค่นิดเดียว...
“เร็วกว่านี้ค่ะ...”อยู่ ๆ ฉันก็สั่งเขาไปแบบนั้น เพราะน้องสาวฉันมันเรียกร้องเหลือเกิน เอวบางยังแอ่นรับรีบเร่งเร้าให้คนตรงหน้า ทำให้ถึงฝั่งสักที...
ใกล้แล้ว อื้อ~
“นอนกันเถอะ” อยู่ ๆ เขาก็พละออกมาล้มตัวนอน!
ฉันนอนนิ่ง เม้มปากหายใจถี่ ๆ พยายามสยบอารมณ์โมโห พอหันไปมองต้นเหตุ เขาก็หลับตาเตรียมจะนอนแล้ว อารมณ์ของฉันเหมือนค้างอยู่บนยอดและอยู่ ๆ ถูกเตะตัดขา เหงื่อไหลท่วมตัวไปหมด เขาแกล้งฉันอีกแล้ว... ทรมาน
ฉันอีกแล้ว!
“คุณ...” ฉันใช้นิ้วชี้สะกิดไหล่เขาเบา ๆ ร่างใหญ่นอนนิ่งไม่รู้สึกตัว
“คุณ ๆ” ฉันเรียกเขาเสียงดังขึ้น และมันก็ได้ผลเขาขยับตัวหันมาหาฉัน ต่อเถอะได้โปรด…
“อะไร นอนเถอะมีประชุม” ใครจะไปหลับลง คุณพระ แกล้งกันแบบนี้เป็นรอบที่สองแล้ว ฉันนอนข่มตา ทำยังไงก็ไม่หลับ นอนกระสับกระส่ายกว่าจะหลับได้ก็ปาไปเกือบเช้า
พอเจ็ดโมงฉันต้องตื่นมาเตรียมอาหารเช้าให้คุณชายอีก ง่วงก็ง่วง
ฉันทอดไข่ดาวกับไส้กรอกเสร็จ เขาก็เดินออกมาจากห้อง จะออกไปทำงานพอดี หมั่นไส้ชะมัด
“จะกินได้มั้ย?” เขานั่งลงจ้องอาหารเช้าที่อยู่ตรงหน้า สลับกับมองมาที่ฉัน ฉันไม่ตอบเขา รีบเดินตึงตังเข้าไปนอนต่อในห้อง ไม่รู้ว่าจะโกรธจะงอนเขาทำไม
ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
ฉันหลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ ตื่นมาอีกทีก็เกือบเย็นแล้ว แหงล่ะไม่ได้นอนทั้งคืน ปวดหัวสุด ๆ
‘ตึง’ เสียงไลน์เด้งขึ้นมา
LINE | ตาหน้าเมื่อย
[ตาหน้าเมื่อย: เตรียมตัวห้าโมงจะออกไปข้างนอก]
ฉันอ่านไม่ตอบฟอร์มอยู่ แต่ลุกไปอาบน้ำแต่งตัวใส่ชุดใหม่ และไม่ลืมกระเป๋าใบใหม่ที่เพิ่งซื้อมาด้วย ยืนหมุนซ้ายขวาอยู่สักพัก ไม่อยากจะเชื่อจริง ๆ
ว่าตัวเองจะมีปัญญาใส่ของแพง ๆ พวกนี้
ใกล้ห้าโมง ฉันออกมาจากห้องก็เจอพี่นพยืนอยู่
“อ่าวพี่นพ นึกว่าอยู่กับคุณเซ็น เขามาถึงแล้วเหรอคะ”
“คุณเซ็นขับรถไปเองครับ เห็นว่าใกล้จะถึงแล้ว เชิญคุณณีเวียเลยครับ”
พี่นพเดินนำไปกดลิฟต์ให้ สักพักลิฟต์ก็มาหยุดชั้นหนึ่ง ซึ่งเป็นห้าง จากนั้นพี่นพก็พาฉันเดินไปนั่งร้านกาแฟร้านหนึ่ง ซึ่งติด ๆ กับประตู แถมคอยยืนข้างหลังฉัน เป็นบอดี้การ์ดให้อีก รู้สึกสวยขึ้นมาทันที
“อ้าว ลูกสาว!” ฉันละสายตาจากจอมือถือ มองไปตามต้นเสียง ก็ต้องเจอกับบุคคลที่ขึ้นชื่อว่าฉันเกลียดที่สุดในโลก
“ใครลูกเธอ” แม่เลี้ยงหัวเราะคิกคัก กอดอกยืนมองฉันหัวจรดเท้า
“ปากดีเหมือนเดิมเลยนิ ไม่อด ๆ อยาก ๆ หรอกเหรอ หรือว่าไปขายตัวให้เสี่ยแก่ ๆ แถวนี้ ถึงมีกระเป๋าแพง ๆ ถือ มีลูกน้องคุม อิอิ”
เมื่อหล่อนพูดจาดูถูกฉันจบ แน่นอนทุกคนหันมามองฉันเป็นตาเดียว เสียงซุบซิบเริ่มเข้าหูฉัน จนฉันทนไม่ไหวลุกขึ้นยืนกอดอกจ้องหน้าหล่อนเขม็ง
“พี่นพ มีปืนมั้ย” ฉันหันไปพูดกับพี่นพเบา ๆ
“เอ่อ มีครับ แต่ใจเย็น ๆ นะครับคุณณีเวีย ที่นี่ห้างคุณเซ็นครับ” พี่นพคอยเตือนสติฉันอยู่ตลอดเวลา
ฉันคิดว่า หากหล่อนยังปากพล่อยไม่เลิกฉันจะเอาปืนจากพี่นพนี่ล่ะ กรอกปากหล่อนซะ! เมื่อฉันถือไพ่เหนือกว่า ฉันจึงหันไปแสยะปากใส่แม่เลี้ยงอสรพิษมองหล่อนกลับ จากหัว... จรดเท้า
“นี่... คุณ อย่าคิดว่าคนอื่นเป็นเหมือนตัวเองสิคะ เอาเต้าไต่มาเป็นเมียน้อยพ่อฉัน จนแม่ฉันตรอมใจตาย ยังกล้าเนอะ มั่นหน้ามั่นโหนกมาดูถูกคนอื่น
ฉันจะบอกอะไรให้นะ อย่างน้อยฉันก็ไม่คิดแย่งผัวใคร!”
‘เพี๊ยะ!’ หน้าฉันหันและชาไปข้างหนึ่งเพราะหล่อนตบหน้าฉันจัง ๆ โดยที่ฉันไม่ทันตั้งตัว
“ลาเต้ร้อนพร้อมแล้วค่ะ”
ในขณะนั้นพนักงานสาวสวยก็มาเสิร์ฟกาแฟพอดิบพอดี
‘ซ่า’
“กรี๊ด… ร้อน นังเด็กบ้า ฉันจะฆ่าแก” หล่อนดิ้นทุรนทุราย วิ่งมาบีบคอฉัน พี่นพรีบจับหล่อนแยกไปจากฉันทันที ตอนนี้หล่อนเหมือนคนเสียสติยังพยายามวิ่งมาบีบคอฉันอีกรอบ
“ถ้าคุณแตะต้องคนของผมอีก อย่าหาว่าผมไม่เตือน!” คุณเซ็นเดินมาจากไหนไม่รู้ ประกาศกร้าวเสียงดัง สายตานิ่ง ๆ ของเขา จ้องหน้าแม่เลี้ยงเขม็ง
หล่อนมองซ้ายขวาเหมือนกับว่าตัวเองจะถูกทุกคนรุม โดยเฉพาะสายตาคนในร้านที่มองหล่อนเป็นตาเดียว
“เหอะ คอยดูเถอะนังเด็กปากดี ฉันจะปอกลอกพ่อแกจนหมดตัว
ให้พ่อแกตรอมใจตายตามแม่แกไปอีกคน นังเด็กใจแตก” สารเลว! ฉันหันไปคว้าปืนที่พี่นพ ก่อนจะรีบวิ่งตามหล่อนออกไป วันนี้ต้องตายกันไปข้างนึง
“หยุดณีเวีย” ฉันถูกคว้ามาโอบไว้แน่น ก่อนที่คุณเซ็นจะแย่งปืนออกไปจากมือ
“ปล่อยคุณ! คุณไม่รู้เหรอกว่ามันทำอะไรกับแม่ ทำอะไรกับฉันไว้ แล้วนี่จะทำพ่อฉันอีก!” ฉันดิ้นสุดแรง หวังจะหลุดจากอ้อมแขนแข็งแรงนี่ แต่ยิ่งดิ้นเขายิ่งกอดฉันแน่น
ร่างสูงอุ้มฉันเดินไปขึ้นรถสปอร์ตหรูของเขา ก่อนจะรีบบึ่งรถออกมา
“ฮือ ๆ” อยู่ ๆ น้ำตาฉันก็ไหลเป็นทาง ถึงใจจะโกรธพ่ออยู่ แต่ตอนนี้ฉันเป็นห่วงพ่อมาก เมื่อไหร่ผู้หญิงคนนี้จะไปพ้น ๆ สักที ฉันก้มมองมือถือทั้งน้ำตา
ใจอยากจะกดโทรหา แต่อีกใจกลับไม่กล้าพอ
“ไม่ต้องเครียด” มือหนาเอื้อมมากุมมือฉันไว้ ฉันหันไปมองชายข้าง ๆ และน้ำตามากมายก็ไหลออกมาอีกระรอก
“คะคุณ... ฉันเป็นห่วงพ่อ” นิ้วยาวตบไฟเลี้ยวเข้าจอดในปั๊มน้ำมันก่อนจะหันมามองหน้าฉัน
“อยู่ในรถนะ เดี๋ยวผมมา”