เธอดร็อปเรียนด้วย
ท้องอย่างนั้นหรือ
ความรู้สึกเสียดายฉายวาบเข้ามาในหัวของเขาชั่วขณะหนึ่ง ศศิร์ธานึกอยากต่อยหน้าไอ้เวรนั่น ที่ทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งตั้งครรภ์ขณะกำลังศึกษาเล่าเรียน ศศิร์ธาส่งเสียงหงุดหงิดในคอ ขยับปากทำท่าจะสั่งให้แอนดี้ไปหาข้อมูลตรงส่วนนี้เพิ่มเติมให้เขาอีกหน่อย แต่แล้วประตูห้องทำงานของศศิร์ธาก็ถูกเคาะเบา ๆ พร้อมกับที่คนมาเยือนผลักประตูเข้ามา เมื่อเห็นใบหน้าของกันและกันอย่างชัดเจนแล้ว คนมาเยือนถึงได้ส่งเสียงทักทายเข้ามา
“คุยอะไรกันอยู่หรือจ๊ะสองหนุ่ม”
ศศิร์ธายิ้มแล้วเอ่ยทักทายกลับไป “แม่กลับมาตั้งแต่เมื่อไรครับ”
อนงค์นาถผลักประตูให้เปิดกว้างมากขึ้น แล้วเดินตรงเข้ามากอดลูกชายของตนไว้แน่น ศศิร์ธากอดตอบแม่ของเขาด้วยความอบอุ่นแบบเดียวกัน
อนงค์นาถเพิ่งกลับถึงเมืองไทยวันนี้เอง ตนสั่งคนเอาไว้แล้วว่าให้มารอรับ เพื่อที่จะได้กลับมาหาลูกชายก่อนเป็นอันดับแรก คนเป็นแม่คลายอ้อมกอดออกอย่างโล่งใจ ที่เห็นลูกชายของตนสุขสบายดี
หลายคืนมานี้ตนฝันไม่ดีเอาเสียเลย อนงค์นาถฝันถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นอีกแล้ว คนเป็นแม่ยกมือขึ้นลูบไปตามใบหน้าของลูกชายเพียงคนเดียว ด้วยความคิดถึงจับหัวใจ มือไล้ไปตามรอยแผลเป็นตรงข้างขมับที่แพทย์ช่วยศัลยกรรมตกแต่งปลูกผมจนมันงอกออกมาปิดรอยแผลพวกนั้น หัวใจของคนเป็นแม่รวดร้าวขึ้นอีกครั้งที่หวนคิดถึง ราวกับเหตุการณ์ครั้งนั้น เกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง
อนงค์นาถสูดก้อนสะอื้นลงอกไปพร้อมกับพึมพำเบา ๆ ว่า
‘วันคืนอันแสนโหดร้ายพวกนั้นได้ผ่านมาแล้ว’
ฝันร้ายที่เกิดขึ้นในชีวิตของอนงค์นาถได้ผ่านไปหมดแล้ว ขอเพียงไม่หวนนึกถึงมันอีก ก็จะไม่มีทางทำให้คนอย่างอนงค์นาถหวาดกลัวและตกอยู่ในห้วงแห่งความทุกข์ใจ กังวลใจ หวาดระแวงหัวใจได้อีก
‘แอนดี้’ ลูกน้องผู้ดูแลเจ้านายเป็นอย่างดีรีบเก็บกระดาษบนโต๊ะด้วยความว่องไว เอาไปซ่อนไว้ที่ด้านหลัง ไขว้มือไว้อย่างมิดชิด
“ศิธยังไม่ตอบแม่เลยว่าคุยอะไรกัน หน้าตางี้เครียดกันเชียว”
“เรื่องงาน” ศศิร์ธาบอกถึงเรื่องที่เขาไม่เคยเครียดกับมันเลยสักครั้ง เพื่อปกปิดความสนใจของแม่ “เรื่องฟาร์ม เรื่องในไร่ เรื่องเด็ก ๆ ในไร่ ไม่มีอะไรหรอกครับ แม่ไม่ต้องห่วงผมหรอก”
อนงค์นาถเลี้ยงลูกมาด้วยมือของหล่อนเอง ทุก ๆ การเจริญเติบโต ทุก ๆ พฤติกรรม มีหรือที่หล่อนจะไม่รู้ว่าลูกชายของหล่อนกำลังปกปิดบางเรื่องอยู่ แล้วเลือกที่จะถามทางคนสนิทของลูกชายแทน
“ไม่มีเรื่องผู้หญิงใช่ไหมแอนดี้”
“ไม่มีแน่นอนครับนายท่าน”
อนงค์นาถยิ้มแล้วลากสายตามายังลูกชายของตน “จะมีบ้างก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ ลูกชายของแม่ไม่ใช่พระภิกษุสงฆ์ซักหน่อยที่จะไม่คิดเรื่องผู้หญิงเลยน่ะ”
ศศิร์ธายิ้มให้แม่ แล้วส่งสายตาเหนื่อยหน่ายไปมองยังแอนดี้
“แล้วเรื่องที่แม่ให้ศิธเลือกสาว ๆ เป็นอย่างไรบ้าง ศิธเลือกได้หรือยัง”
“เลือกแม่พันธุ์น่ะหรือครับ”
“พูดจาอะไรน่าเกลียด” อนงค์นาถเอ็ดลูกชายปนขำ
“มันก็จริงอยู่นะครับนาย” แอนดี้เสริมคนเป็นเจ้านายอย่างรู้งาน “นายท่านเล่นส่งสาว ๆ ทั้งแบบตัวเป็น ๆ มาให้นายของแอนดี้เลือกไม่พอ ยังให้คนส่งรูปถ่ายมาให้เลือกอีกตั้งเป็นสิบ ยี่สิบคนแหนะ ไม่ใช่เลือกแม่พันธ์แล้วจะเรียกว่าอะไรได้ล่ะครับแบบนี้”
อนงค์นาถปรายตามองแอนดี้ด้วยสายตาไม่พอใจ แอนดี้แสร้งทำท่าหดคอแบบหวาด ๆ อนงค์นาถจึงค่อยหันไปถามศศิร์ธาอีกที
“แล้วลูกของแม่ถูกใจสาว ๆ คนไหนสักคนบ้างหรือยัง”
แอนดี้ยิ้มแล้วหาเรื่องแกล้งเจ้านาย “มีแล้วครับ”
“จริงหรือ” อนงค์นาถถามกลับด้วยสีหน้าตื่นเต้นดีใจ ก็จะไม่ให้ตนดีใจได้อย่างไร ลูกชายตัวดีไม่ยอมคบหาใครเลย อายุอานามจะสี่สิบเข้าไปแล้ว ดูอย่างลูก ๆ เมียรองของท่านเจ้าสัวนั่น อายุน้อยกว่าแต่แอบไปมีเมียแล้วด้วย นึกมาถึงตรงนี้อนงค์นาถพลันคอตั้งตรงอย่างไม่ใคร่พอใจนัก หล่อนหันไปมองลูกชายตัวเอง ที่หลังออกจากโรงพยาบาลก็เอาแต่ครองตัวโสด แบบนี้จะให้คนเป็นแม่ใจเย็นอยู่ได้อย่างไร
“คนไหนหรือ พอจะบอกแม่ได้ไหม”
ศศิร์ธาไม่ได้ยิ้มตอบ เขาอายุขนาดนี้แล้ว แม่ของเขายังไม่ยอมปล่อยวาง ให้เขาได้ใช้ชีวิตด้วยตัวของเขาเองเลย ท่านกะเกณฑ์แทบทุกเรื่อง อนงค์นาถเองก็เหมือนจะเข้าใจความคิดของลูกชาย แต่จะยอมให้ลูกชายใช้ชีวิตแบบที่เคยใช้มาก่อนหน้านี้ ตนที่เป็นแม่ยอมไม่ได้จริง ๆ
“ถ้าอย่างนั้นแม่นัดกินข้าวกับลูกสาวของเพื่อนแม่ให้เอาไหม”
อนงค์นาถเกริ่นถาม พร้อมกับทำท่าหยิบเอาโทรศัพท์ในกระเป๋าถือออกมา พอดีกับที่มีสายเรียกเข้ามาพอดี ศศิร์ธาเหลือบตาไปมองเห็นว่าเป็นเบอร์ของใคร จึงลอบผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ ด้วยอาการโล่งอก
“ผมขอรับสายสักครู่นะครับแม่”
อนงค์นาถมองตามหลังลูกชายแล้วหันมาถามแอนดี้ “ตกลงว่าคนไหนที่นายเราชอบ”
แอนดี้หัวเราะแห้ง ๆ แล้วตอบไปว่า “ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับนาย ผมแซวเล่นเฉย ๆ”
“ไม่รู้แล้วเราพูดได้ยังไงว่าเจ้านายของเราชอบ”
“ผมก็เดาไปมั่ว ๆ งั้นเองแหละครับ”
“พอกันทั้งเจ้านายทั้งลูกน้อง” อนงค์นาถบ่นจบแล้ว ศศิร์ธาถึงได้เดินกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง
“มีอะไรหรือ”
“เอ๋อมันโทร. มาย้ำว่าวันนี้วันเกิดมันครับ”
ศศิร์ธาใช้ข้ออ้างบอกว่ามีนัดกับศุภชัยที่โรงแรมของเจ้านั่น อนงค์นาถได้ยินแล้วมีท่าทีไม่ค่อยพอใจนัก เมื่อรู้ว่าลูกชายของตนกำลังจะออกไปพบกับศุภชัยที่โรงแรมในตัวจังหวัด
อนงค์นาถไม่ค่อยชอบศุภชัย เพราะศุภชัยมีนิสัยชอบกินดื่ม ชอบนอนกับผู้หญิงไร้ราคามากมายไปทั่ว รักสนุกไปวัน ๆ เป็นพวกลูกคนรวย เพื่อนพ้องของสามี ที่มีดีแค่รวย แต่ไร้สาระ นี่ถ้าไม่ต้องไหว้วานอะไรกัน คงไม่เสวนากับเด็กนั่นแน่ แต่แล้วก็ไม่อาจพูดออกไปได้ตามที่ใจนึกคิด อนงค์นาถมีลูกชายเพียงคนเดียว เลี้ยงดูมาเป็นอย่างดี ประคบประหงมไม่ต่างกับไข่ในหิน แม้จะเป็นลูกชายก็ตามที
เมื่อห้ามไม่ได้ ก็ได้แต่ส่งสายตาสั่งแอนดี้ ให้ช่วยดูแลเจ้านายอย่างเต็มที่แบบสุดกำลัง
แอนดี้ทำท่าแบบทหาร เตะขาตบหากัน แล้วยกแขนขึ้นทำท่าตะเบะตอบรับคำสั่ง พร้อมกับเดินออกมาส่งอนงค์นาถยังรถส่วนตัว ยืนส่งจนแม่ของเจ้านายหายลับตาไปแล้ว ค่อยวิ่งกลับเข้าไปที่ด้านในอีกครั้ง
เมื่อถึงเวลาตามนัด แอนดี้รีบนำรถออกมารอรับเจ้านายของตน มุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทางของค่ำคืนนี้ด้วยกัน