แล้วก็เป็นอย่างที่คิดเอาไว้จริง ๆ
ประไพพรรณีเป็นเด็กเรียนดี เธอพูดน้อยแต่ก็มีความมั่นใจในตัวเองระดับสูงมากคนหนึ่ง และเธอก็มั่นใจว่าตัวเธอนั้นเข้าใจในรายวิชาของเขาอย่างถ่องแท้ เพราะวิชาอื่นเธอทำคะแนนติดท็อปทรีทุกรายวิชา มีเพียงวิชาของอาจารย์พิเศษท่านนี้เพียงวิชาเดียวที่เธอติดตัวแดง ซึ่งก็หมายความว่า ‘ไม่ผ่าน’ ส่วนของเพื่อนคนอื่นที่เรียนกลุ่มเดียวกันผ่านกว่าครึ่งชั้นเรียน
ประไพพรรณีเห็นคะแนนของตนเองแล้วก็บอกตัวเองให้เข้าไปถามเขาเลย จะได้รู้ว่าเพราะอะไรเธอถึงไม่ผ่านในรายวิชาของเขา
และวันนั้นในช่วงหลังสอบวิชาสุดท้ายของเทอม ประไพพรรณีเห็นรถคันหรูของอาจารย์พิเศษจอดอยู่ตรงหน้าตึกของคณะ หญิงสาวรีบเข้าไปนั่งรอที่ม้านั่งไม้ตรงด้านหน้าของตึก เธอรอจนเย็นมากแล้ว ถึงได้เห็นร่างสูงสง่าของอาจารย์พิเศษท่านนั้นเดินลงบันไดมา
เขาตรงมาทางนี้แล้ว ประไพพรรณีจึงรวบเอาถุงหนังสือเข้ามากอดแนบอก คล้ายกับจะยึดถุงใส่ตำราเรียนพวกนั้นเป็นโล่กำบังต่อสู้กับอาจารย์ศศิร์ธา หญิงสาวขยับลุกขึ้นได้แล้วก็รีบตรงไปหาเขา
“อาจารย์คะ”
ประไพพรรณีเรียกเขาแล้วรีบวิ่งตามเขาไป เธอไปจนถึงรถของเขา ทั้งวิ่งทั้งเรียกตลอดทาง แต่เขาก็เหมือนกับจะแกล้งเธอ ประไพพรรณีเรียกเขาดังลั่นขนาดนั้น ใครก็ได้ยินกันหมด แต่เขากลับไม่ยอมหันมามองเธอด้วยซ้ำ หญิงสาววิ่งตามจนหอบ เกือบชนแผ่นหลังของเขาเพราะจู่ ๆ เขาก็หยุดแล้วหมุนทั้งตัวเพื่อมองมาที่เธอ
อย่าบอกนะว่าเขาเพิ่งได้ยินเสียงเรียกของเธอ ประไพพรรณีคิดอย่างขุ่นเคืองพร้อมกับยืนหอบหายใจ
“มีอะไรหรือนักศึกษา”
เสียงทุ้มของเขาเหมือนคนกำลังกลั้นยิ้มอยู่ แต่ประไพพรรณีไม่มีเวลาไปสนใจ ตอนนี้เธออยากรู้ว่าทำไมเธอถึงไม่ผ่านในรายวิชาของเขา
“คือ...อาจารย์คะ อยากทราบว่าทำไมถึงไม่ผ่านวิชาของอาจารย์น่ะค่ะ”
เขามองสบตากับเธอแล้วค่อยบอกเหตุผลให้ฟัง “คุณตอบคำถามไม่ตรงกับที่ผมถามครับ เลยไม่ผ่าน”
“แล้ว เอ่อ อาจารย์มีสอบซ่อมไหมคะ”
เขามองเธอด้วยสายตาแบบที่ประไพพรรณีมองตอบแล้วรู้สึกอึดอัด ไม่สบายใจ นี่ไม่ใช่ว่าเขาจะเป็นอาจารย์แบบที่เธอเคยเห็นในข่าวหรอกหรือไร ที่คิดจะให้นักศึกษาเอาร่างกายหรือเซ็กส์เข้าแลกเป็นคะแนนให้ผ่านน่ะ
“ขึ้นรถไปกับผมสิ” เสียงทุ้มของเขาเป็นเอกลักษณ์ บอกเหมือนจะสนับสนุนความคิดของประไพพรรณี เธอได้ยินแล้วขยับถอยห่างทันที “หนิ นี่อาจารย์ อาจารย์จะทำอะไรคะ”
“ผมไม่มีเวลาอธิบาย ผมมีประชุมต้องเข้า”
“ตอนนี้เนี่ยนะคะ”
เขาไม่ตอบคำถามของเธอ เดินอ้อมไปยังฟากของคนขับแล้วส่งสายตาถามเธออีกหนว่าจะไปด้วยกันไหม ประไพพรรณีกอดกระเป๋าที่มีเอกสารอัดแน่นอยู่ข้างในนั้น เธอมองสบตาเขา ถามตัวเองว่ากล้าพอไหม กล้าที่จะเดินไปขึ้นรถกับเขาไหม ในเวลาโพล้เพล้แบบนี้
แล้วเธอมั่นใจได้อย่างไรว่าเขาจะไม่ใช่อาจารย์ที่คิดจะเอาตัวนักศึกษาเข้าแลกคะแนนให้ผ่านน่ะ
ศศิร์ธากลับเข้ามาที่บ้านของเขาที่ตั้งอยู่บนเนื้อที่เกือบพันไร่ในช่วงเย็นของวันนั้นเอง พร้อมรอรายงานจากคมเดช
มาจนถึงบ้านแล้ว ก็ยังคงครุ่นคิดถึงดวงตาคู่นั้นของหญิงสาวที่เพิ่งเจอหน้ากัน แววตาเศร้าปนดุ ท้าทายและรบกวนหัวใจของศศิร์ธาไม่น้อยเลย เขาสั่งให้คมเดชค้นข้อมูลตามที่ต้องการ โดยสั่งงานไปตั้งแต่ขึ้นนั่งบนรถ ก่อนออกมาจากหน้าบ้านหลังนั้นเสียอีก ศศิร์ธารออยู่เกือบสิบนาที ค่อยเห็นแอนดี้เดินเข้ามารายงานแทน ส่วนคมเดชหายไปแล้ว
“พี่คมต้องไปพบเจ้าสัวครับ แกเลยฝากผมส่งข้อมูลต่อให้คุณศิธ เช็กที่อีเมลได้เลยนะครับเจ้านาย” แอนดี้ทำมือไม้ประกอบคำรายงานอย่างนอบน้อมแต่กวนอารมณ์
ศศิร์ธาไม่สนใจ เขาหยิบแท็บเล็ตเครื่องที่ใกล้มือที่สุด ขึ้นมาเปิดดูข้อมูล ก่อนจะใช้นิ้วกวาดทิ้งไปทีละแผ่น จนมาหยุดลงที่ข้อมูลชิ้นสุดท้าย ค่อยเงยหน้าขึ้นเพื่อสั่งอะไรกับแอนดี้
“พิมพ์แผ่นนี้หน่อยดี้”
แอนดี้ยื่นหน้าเข้ามามองแล้วขมวดคิ้วถาม “แผ่นนี้มีอะไรน่าสนใจอย่างนั้นหรือครับ”
“หน้าที่ถามเป็นของใคร”
แอนดี้ปิดปากตัวเองแน่น เพราะตนไม่ได้ถูกจ้างให้มาถามยอกย้อนเจ้านาย แล้วรีบตรงไปที่เครื่องพิมพ์เอกสาร จัดแจงตามคำสั่งของศศิร์ธาในทันที ศศิร์ธารับกระดาษที่สั่งให้พิมพ์รายงานมาตรงหน้าแล้ว เอาปากกาจิ้มลงบนภาพพิมพ์สีในกระดาษ มองนิ่งอยู่แบบนั้นก่อนจะขมวดคิ้วน้อย ๆ
ตัวจริงสวยกว่าในรูปเยอะเลย
ศศิร์ธาเลื่อนสายตาลงอ่านข้อมูลของคนที่เขาอยากรู้จัก พอเห็นชื่อของเธอแล้วออกเสียงพึมพำตามเบา ๆ
ประไพพรรณี?
ประไพพรรณีอะไร
ศศิร์ธาคล้ายกำลังคุยอยู่กับตนเองมากกว่าจะพูดคุยกับคนของเขา
“ชื่อโบราณดี”
“ไหนหรือครับ” แอนดี้เสนอหน้าเข้ามาส่องดูบ้าง พอเห็นภาพของหญิงสาวในกระดาษที่เจ้านายสั่งให้พิมพ์ออกมาก็ร้อง “ว้าว ตาเศร้าแต่ก็ดูดุเอาเรื่องเลยนะครับ”
“ดุ” ศศิร์ธาย้ำพร้อมกับที่มุมปากของเขาขยับโค้งขึ้นน้อย ๆ คล้ายกับพึงพอใจอะไรบางอย่าง แอนดี้มองหน้าเจ้านายของตนเองสลับกับมองภาพของหญิงสาวในกระดาษ
“ชอบหรือครับ”
ศศิร์ธายิ้มมากขึ้น เขาไม่ได้ตอบอะไรแอนดี้ แล้วกวาดสายตาลงไปมองที่ข้อมูลถัดต่อจากนั้น พบว่าหญิงสาวคนนี้เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย…
“เอ...คุ้น ๆ เหมือนกับจะเป็นมหาลัยเดียวกันกับที่เจ้านายเคยเป็นอาจารย์สอนหรือเปล่าครับ” แอนดี้ยื่นหน้าลงถาม
“ใช่” ศศิร์ธาตอบรับสั้น ๆ
“ช่วงปีนั้น เจ้านายของดี้ก็สอนที่นั่นด้วยนี่ครับ นายไม่เคยเจอเธอเลยหรือครับ”
ศศิร์ธาวางเอกสารในมือลง พร้อมกับเอียงหน้ามองไปยังทิศทางอื่น ท่วงท่าแบบนี้แอนดี้รู้จักเจ้านายของตนเป็นอย่างดี แสดงว่าเจ้านายของเขากำลังทบทวนความคิดในช่วงเวลานั้นอยู่
“ไม่รู้สิ” ศศิร์ธาตอบด้วยน้ำเสียงสับสน อย่างที่แอนดี้ไม่เคยได้ยินจากเจ้านายผู้เด็ดขาดของเขามาก่อน ดวงตาสีดำของศศิร์ธาเลื่อนกลับมาที่กระดาษตรงหน้าอีกครั้ง ก่อนจะเลื่อนสายตาลงไปมองยังข้อมูลถัดไป
เธอดร็อปเรียนด้วย
ท้องอย่างนั้นหรือ