หลังจากคลอดฟ้าครามได้ไม่กี่เดือน เธอก็ฟิตหุ่นเพื่อรับเล่นบทวาบหวิวโชว์เนื้อหนังมากกว่าเดิม แหวนเพชรหาเงินได้เป็นกอบเป็นกำ แต่โชคชะตาทำให้ดาวยั่วสาวมีความสุขอย่างฉาบฉวย เธออายุสั้นมาก จบชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ในวัยเพียง 29 ปี ทิ้งฟ้าครามในวัย 3 ขวบให้ตากับยายที่ผีการพนันเข้าสิงเลี้ยงดู โชคดีที่มีกมลและเปียคอยยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเป็นระยะๆ เหตุนี้ทั้งสามเลยเหมือนญาติกัน มากกว่าจะเป็นแค่เพื่อนรุ่นพี่นักแสดงตัวประกอบ
“ผมมันเป็นไอ้ตัวซวยไง เป็นคนดวงจู๋ ทำอะไรก็ไม่ขึ้น” ฟ้าครามกล่าวอย่างยอมรับความจริงในโชคชะตา และไม่ได้รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจแต่อย่างใด
“อย่าโทษตัวเองสิโว้ย สักวันมันต้องได้ดี เชื่อพี่ คนดีตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้หรอก” กมลว่า และแบ่งไข่พะโล้ให้ฟ้าครามครึ่งฟอง
“กินให้มันเยอะๆ หน่อย นี่ผอมเกินไปแล้ว อย่างนี้เข้ากล้องแล้วจะหล่อสู้พวกพระเอกใจตุ๊ดได้ยังไง อย่าลืมสิ บทพวกนั้นเอ็งเป็นคนเขียน ยังไงก็ไม่มีใครเข้าถึงบทบาทเท่าเอ็ง”
ฟังคำพูดกมลแล้ว ฟ้าครามก็มองไปยังชายหนุ่มวัยรุ่นอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขา อีกฝ่ายชื่อ ปีเสือ ซึ่งหล่อจัด ผิวขาว ตัวสูงโปร่ง ผู้สวมบทเป็นอ๋องแปด และฟ้าครามนึกค้านหัวชนฝามาตลอด ตัวละครตัวนี้เขาวาดหวังอยากได้พระเอกในดวงใจ ว่านอัน เคลย์ คูเปอร์ ลูกครึ่งอเมริกัน-ฮ่องกง มารับบทนี้ ไม่ใช่ผู้ชายกะล่อน เจ้าชู้ และเป็นเด็กเส้นอย่างปีเสือ
“คุณนกก็ดันเหลือเกิน อย่างว่าแหละ เด็กเส้นของค่าย ใครๆ ก็ยกหาง” กมลส่ายหน้าอย่างระอาให้ปีเสือ ซึ่งมักส่งสายตาดูถูกบรรดาตัวประกอบ นอกจากนั้นยังชอบปล่อยมุกตลกฝืดๆ เพื่อเกาะแกะสาวๆ ในกองถ่าย จนสาวๆ ทุกคนไม่มีใครอยากเข้าใกล้
“พูดกันตามตรง เจ๊คิดว่าบทอ๋องแปดยังไงก็ไม่ใช่คุณเสือว่ะ”
“ถูกเผงเลยเจ๊เปีย โคตรไม่เหมาะ”
“แล้วเอ็งคิดว่าใครเหมาะกับบทนี้วะ เขาว่าคนเขียนย่อมมีจินตนาการอยู่ในหัวใช่ไหม ให้เจ๊เดานะ เติ้งไห่หลงต้องเป็นผู้ชายรูปหล่อ ตัวสูง กล้ามใหญ่ เป็นแม่ทัพผู้กล้าหาญ ต้องดูเสเพลนิดๆ เพราะชอบสร้างภาพหื่นโหดให้คนเข้าใจผิด”
ฟ้าครามไม่รู้จะตอบอย่างไรดี ด้วยรู้สึกขัดเขินหากต้องบอกว่าเขามีว่านอัน เคลย์ คูเปอร์ เป็นแรงบันดาลใจในการเขียนงานเรื่องนี้
“ส่วนตัวอี้เหรินเนี่ย นิสัยมันคุ้นๆ ชะมัด ดูเหมือนฉลาดแต่ดันโง่ ถูกอ๋องแปดจับกดตลอด แต่ก็น่ารักชวนให้ลุ้นว่าจะเอาตัวรอดยังไง ฮ่าๆ ๆ” เปียว่าแล้วก็หัวเราะเสียงดัง เธอได้อ่านต้นฉบับของฟ้าครามอยู่บ้าง แถมช่วยคิดบางฉากเพื่อให้เนื้อเรื่องสมบูรณ์
“เดี๋ยวก่อนเจ๊เปีย อันนี้ชมผมที่เขียนดี หรือว่ากำลังหลอกด่ากันแน่”
ฟ้าครามแขวะเจ๊ขาโหด ด้วยต้นแบบตัวละครนางเอกนั้นเขาเอาพื้นฐานนิสัยตัวเองใส่ร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม!
“ไม่รู้สิวะ เจ๊แค่ตงิดๆ ว่านางเอกเรื่องนี้นิสัยประหลาดดี จะว่าไปก็เหมือนเอ็งมากๆ เลย”
เมื่อกมลได้ยินอย่างนั้นก็หัวเราะจนข้าวที่อยู่ในปากพุ่งออกมา
“อันนี้ฉันเห็นด้วย ถ้าจับไอ้ฟ้าใส่วิกผมยาว เขียนหน้าเขียนตาสักหน่อย มันคืออี้เหรินกุนซือน้อยชัดๆ”
ฟ้าครามค้อนกมลไปวงใหญ่ ก่อนจะตักไข่พะโล้เข้าปาก ทว่าเขาเคี้ยวอาหารยังไม่ทันละเอียด ผู้ช่วยผู้กำกับก็ร้องเรียกหาเขาให้ลั่นไปหมด
“ไอ้ฟ้า! มึงไปมุดหัวอยู่ไหน ควบสี่ขามาหากูเดี๋ยวนี้”
ชายหนุ่มยกมือขึ้นสูง เพราะอาหารเต็มปากและยังเคี้ยวไม่หมด
“เดี๋ยวมึงต้องเข้าฉากต่อไป เล่นประกบน้องจริงใจ”
“หา...พะ พี่พูดว่า อะ อะไรนะครับ” ฟ้าครามช็อกจนพูดติดอ่าง
“ก็ตามบทนี้ไง ฉากที่อี้เหรินกับพวกกุนซือมาจับจ่ายซื้อของที่ตลาดท่าน้ำเมืองฟู่กุ้ย และต้องหนีเอาตัวรอดจากชายฉกรรจ์กลุ่มใหญ่จากเผ่าเฟยเทียน เอ็งต้องกระโดดเอาตัวบังไม่ให้น้องจริงใจ (อี้เหริน) ถูกม้าที่ตื่นตกใจถีบ แล้วเป็นเอ็งถูกลูกหลงถูกถีบพลัดตกน้ำตาย!” บอยอธิบายรายละเอียดให้ฟ้าครามฟัง
“อ้าว อย่างนี้ผมก็ซี้แหงแก๋ตั้งแต่ต้นเรื่องเลยสิ แล้วผมจะได้แสดงบทอื่นอีกเหรอ” ฟ้าครามถามพาซื่อ
“เอ๊ะ ได้เข้าฉากใหญ่ขนาดนี้ยังเรื่องมากอีก หรือไม่อยากเล่น กูจะได้...” ผู้ช่วยผู้กำกับโวยวายได้เพียงเท่านั้น เพราะฟ้าครามรีบยกมือไหว้ขอโทษขอโพย
“โอเค ผมเล่น อย่างน้อยตัวประกอบพวกกุนซือในฉากนี้ก็ได้ส่งเสียงร้องโหยหวนอยู่บ้างแหละ”
“เฮ้อ ถามจริงเถอะ มันน่าดีใจตรงไหนวะไอ้ฟ้า ถูกม้าถีบและต้องตายโหง” กมลถามฟ้าครามอย่างไม่เข้าใจ
“แหมพี่ ถ้าผมได้ส่งเสียงในบทบ้าง ก็จะได้ค่าตัวเพิ่มอีกสักร้อยสองร้อย คืนนี้ผมคงได้กินชาชีสเพิ่มไข่มุกแบบจัดเต็มกับเขาสักที”
ฟ้าครามบอกแล้วยิ้มแหย ส่วนเจ๊เปียกับกมลพากันถอนหายใจเสียงดัง ทั้งสงสารและเห็นใจตัวประกอบแสนชำรุดนี่เหลือเกิน
ภายในห้องแต่งตัวเต็มไปด้วยตัวประกอบหลายสิบชีวิต ซึ่งถูกเร่งให้มาเปลี่ยนเสื้อผ้าและซักซ้อมการแสดงที่จะมีขึ้นในภาคบ่าย
ฟ้าครามซึ่งดีใจในตอนแรก แต่พอถึงเวลาจริงจิตใจเขากลับห่อเหี่ยว
“ชุดของเอ็งมันไม่สวยหรือยังไงวะ ทำไมหน้าถึงบูดแบบนั้น” บอยเอ็ดชายหนุ่ม
“โอ๊ย พี่ก็ดูสิ ตอนเข้าฉากแทนที่จะให้เห็นหน้าผมสักหน่อย แต่นี่ให้ผมกระโดดหันหลังเข้ากล้องแล้วยังถูกม้าถีบอีก ถูกถีบไม่พอยังพลัดตกแม่น้ำตายด้วย แถมตอนตายก็ตัดหนีไปเสียอย่างนั้น ขอให้เห็นภาพสโลว์โมชั่นสักนิดก็ไม่ได้” ฟ้าครามร่ายความอัดอั้นตันใจออกมายืดยาว
ผู้ช่วยผู้กำกับมองหน้าฟ้าครามนิ่ง ก่อนพ่นลมหายใจเหม็นควันบุหรี่ใส่เขา
“มึงเนี่ยเรื่องแยะเหลือเกินนะ ตะกี้ยังไม่มีปากมีเสียง ชักจะสร้างความรำคาญให้กูแล้วไหมล่ะ นี่ถ้าน้องจริงใจไม่เลือกมึงมาเป็นตัวประกอบฉากนี้ อย่าคิดนะเว้ยว่ากูกับเฮียนกจะให้มึงเสนอหน้าหันตูดงอนๆ เข้ากล้อง” บอยเอ่ยอย่างไม่ถนอมน้ำใจชายหนุ่ม
ฟ้าครามทำตาโตกับสิ่งที่ได้ยิน “เดี๋ยวๆ คุณจริงใจเลือกให้ผมแสดงบทนี้เหรอ”
“กูจะหลอกมึงทำไม เธอคงสงสารมั้ง เห็นแย่งบทเธอพูดตะกี้ ก็เลยไปขอร้องเฮียนกให้มึงไปเข้าฉากด้วย ฮ่าๆ ๆ แต่ไม่รู้ว่าหวังดีหรือร้ายกันแน่ เพราะฉากนี้มึงตายตั้งแต่ต้นเรื่อง ต่อไปก็อย่าสะเออะมาเสนอหน้าในกองถ่ายอีก”
ตัวประกอบหางแถวไม่สนใจคำพูดร้ายๆ ของบอย เขามองไปยังจริงใจ เธอหันหน้ามาทางนี้พอดีและโบกมือโบกไม้ทักทายเขา
ชายหนุ่มหัวใจพองโต เขาดีใจที่มีคนมองเห็นความสามารถ
“ยังไงก็อย่าทำให้เสียเรื่องล่ะ ไม่งั้นมึงอดได้เงินเพิ่มอีกสองร้อยแน่” ผู้ช่วยผู้กำกับขู่จบก็เดินไปทำหน้าที่ของตน จากนั้นก็มีช่างแต่งหน้าเข้ามารุมฟ้าคราม
ชายหนุ่มนั่งนิ่งๆ อยู่เกือบครึ่งชั่วโมง เมื่อได้สวมวิกผมยาว เติมคิ้วให้คมและเข้มขึ้นอีกนิด พร้อมเติมสีปากให้สดใส ฟ้าครามก็กลายเป็นที่สนใจของใครต่อใคร
“เฮ้ยๆ นี่มันใช่ตัวประกอบชาวบ้านที่วิ่งล้มหน้าแหกเมื่อวันก่อนเปล่าวะ ทำไมถึงได้งามขนาดนี้”
ชายใจหญิงยกมือตบหน้าอกตนเองรัวๆ ส่วนช่างผู้หญิงอีกคนก็นึกสนุก เลยจิ้มไฝเม็ดเล็กๆ ที่หางตาข้างซ้ายให้ฟ้าคราม
“ดูสิ แบบนี้ยิ่งเซ็กซี่ ไอ้หนุ่มเนี่ยแสดงได้ทั้งบทผู้ชายและผู้หญิงเลยวุ้ย แบบนี้จะใจร้ายให้มันตายตั้งแต่ต้นเรื่องได้ไง”
คนที่ถูกชมอายม้วน ใบหน้าขาวผิวเนียนละเอียดแต้มสีแดงระเรื่อ จนคนที่ล้อมหน้าล้อมหลังฟ้าครามอดแซวไม่ได้
“อุ๊ยๆ ๆ นายมีพิรุธนะฟ้าคราม บอกมาตามตรง หนูเป็นใช่ไหมลูก!” ช่างแต่งหน้าร่างยักษ์ที่เสริมหน้าอกจนใหญ่เบิ้มเอ่ยจบก็หัวเราะคิกคัก ก่อนชักชวนให้ใครต่อใครถ่ายรูปกับฟ้าคราม
ฟ้าครามนึกขันอยู่ในใจ เขาไม่รู้เหมือนกันว่าแท้จริงนิยมชมชอบแบบไหน แต่ยามเขียนนิยายเรื่อง ‘กุนซือน้อยประดับใจ’ เขายอมรับว่าเฝ้าเพ้อถึงอ๋องแปดคนผีทะเลอยู่เสมอ ซึ่งหลายครั้งหลายหนก็ดึงตัวเองไปสวมบทบาทอี้เหริน แถมยังมักหลุดปากเอ่ยประโยคฮิตของอีกฝ่าย
“โอ้สวรรค์โปรดเมตตา ผู้น้อยไม่อยากเป็นอี้เหรินแล้ว!”
จากนั้นชายหนุ่มตัวประกอบก็ถูกขอให้ทำท่าทะเล้นทะลึ่งเพื่อถ่ายภาพเซลฟี่ ทว่าท่าทางสนุกสนานของเขากลับขวางหูขวางตาใครบางคน
“เฮ้ ตรงนั้นมีดาราใหญ่คับฟ้ามาจุติรึไงถึงได้ครึกครื้นนัก” คนปากปีจอเอ่ยแขวะฟ้าคราม เป็นเสียงที่ดังมาจากบุรุษที่รับบทอ๋องแปดพระเอกของเรื่อง