Ep5. ผมจะขอผู้หญิงที่ผมรักแต่งงาน

1293 คำ
Ep5. ผมจะขอผู้หญิงที่ผมรักแต่งงาน อารีฟีนกระแทกเท้าเอาแต่ใจ เดินไปยังโต๊ะทำงานของพี่ชาย แล้วก็ต้องสะดุดเข้ากับภาพหญิงสาวมากมาย “แล้วนี่รูปใครคะ เต็มไปหมดเลย” อารีฟีนตรงเข้าไปหยิบรูปภาพเหล่านั้นขึ้นมาดู ตัวหนังสือภาษาไทยมากมายทำให้อารีฟีนขมวดคิ้ว “อย่าสนใจเลยก็แค่พวกดารานางแบบเท่านั้นเอง” ชีคหนุ่มบอกปัดก่อนจะดันหลังน้องสาวให้ออกมาจากห้องทำงานของเขา “เดี๋ยวพี่ต้องออกไปทำงานแล้ว ขอโทษด้วยจริงๆ ถ้าจะให้ดีพี่ว่าเราควรจะพาฮารูนไปเที่ยวบ้างนะ น้องคงดีใจ” ชีคมุสซาฟาร์หันหลังกลับเข้าห้องทันที จึงไม่เห็นท่าทางกระฟัดกระเฟียดของน้องสาวต่างมารดา “คอยดูนะถ้าพี่ได้เห็นซาบียะห์ละก็ พี่จะลืมแม่ผู้หญิงสำส่อนทั้งหลายที่พี่ควงอยู่อย่างแน่นอน ซาบียะห์ทั้งสวย รวย แล้วก็ฉลาด แล้วพี่จะเสียใจที่ไม่ตามน้องไปขี่ม้า” อารีฟีนบ่นอย่างขัดใจก่อนจะเดินกลับไปยังห้องของตนเอง ทว่ากลับชนเข้ากับบอดี้การ์ดหน้าตายของพี่ชายเข้า ว้าย! ร่างบางเซจนแทบล้ม มูซาจึงคว้าเอวบางเข้าแนบกายทันทีด้วยความตกใจ อารีฟีนทั้งตกใจทั้งอายที่ต้องตกอยู่ในอ้อมกอดของบอดี้การ์ดมาดนิ่ง คู่กัดที่แสนกวนประสาท “ปล่อยฉันนะตาบ้า!” อารีฟีนแผดเสียงทันที มูซาผละออกจากหญิงสาว ใบหน้าเรียบเฉยภายใต้แว่นดำยังคงเดายากเช่นเคยว่าชายหนุ่มรู้สึกเช่นไร “คนบ้า!” อารีฟีนสะบัดหน้าเตรียมจะกลับห้อง แต่เธอก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินคำโต้เถียงในแบบฉบับของมูซา “คนบ้าคุยกับคนบ้ารู้เรื่องด้วยหรือครับ” “นี่นาย!” อารีฟีนกัดริมฝีปากแน่น พยายามระงับความโกรธ เพราะตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาเธอไม่เคยเถียงชนะมูซาเลยสักครั้ง อาจเป็นเพราะหน้านิ่งๆ ที่ไม่เคยแสดงอารมณ์ เธอจึงไม่รู้ว่าเขากำลังโกรธ หัวเราะ หรือร้องไห้ เธอจึงสรุปเอาเองว่ามูซามีเพียงหน้าเดียว คือหน้าตาอันกวนประสาทนั่นเอง “นี่แน่ะ!” อารีฟีนยกเท้าขึ้นกระทืบเท้าของมูซาจนสุดแรง ทว่ามูซาก็ยังคงนิ่งเฉย อารีฟีนเห็นดังนั้นก็ยิ่งโมโห ได้แต่เดินกระแทกส้นเท้ากลับห้องของตนเองไป ดาราสาวในชุดเจ้าสาวฟูฟ่องนั่งอยู่บนพื้นหญ้าสีเขียวสด เงยหน้าขึ้นเล็กน้อยมองกล้องที่ถ่ายจากมุมสูง เผยให้เห็นเจ้าสาวนั่งอยู่ท่ามกลางหมู่มวลดอกไม้ “ยิ้มอย่างนั้นละครับน้องนันท์ ครับสวยครับ ค้างไว้ก่อนนะครับ เอียงหน้ามาทางด้านซ้ายอีกนิดครับ” หญิงสาวเอียงหน้าพลางยิ้มตามคำสั่งของตากล้องมืออาชีพ “สวยครับสวย ยิ้มไว้อย่างนั้นก่อนนะครับ ครับเปลี่ยนท่าต่อไปครับ” สิ้นสุดคำสั่งของตากล้องทีมงานก็ตรงเข้าไปซับเหงื่อและแต่งเติมเครื่องสำอาง กรนันท์เปลี่ยนมานั่งโพสท่ากับเก้าอี้สีขาวตัวยาวในมือถือดอกกุหลาบขาวช่อเล็กๆ ที่มัดด้วยริบบิ้นสีชมพูหวานสดใส ก่อนจะยิ้มให้กับช่างภาพที่กำลังช่วยจัดท่าให้เธอผ่านเลนส์กล้องถ่ายรูป บรรยากาศการถ่ายแบบนอกสถานที่จัดขึ้นที่สวนหลวง ร.๙ ซึ่งประจวบเหมาะกับเป็นช่วงต้นฤดูหนาวดอกไม้จึงแย่งกันผลิดอกอวดโฉมจนแลดูคล้ายสรวงสวรรค์ ดาราสาวในชุดวิวาห์สีขาวโพสท่าเป็นแบบให้ห้องเสื้อชั้นนำของเมืองไทย จะว่าไปแล้วหญิงสาวแทบไม่มีอาการเขินอายต่อหน้ากล้องเลยสักนิด เพราะตั้งแต่จำความได้เธอก็เป็นนางแบบตัวน้อยๆ ให้บิดามาตลอด “โอเคครับ เดี๋ยวเชิญน้องนันท์ไปนั่งพักก่อนนะครับ” กรนันท์เดินเลี่ยงมาพักใต้ร่มไม้ใหญ่พอสิบโมงแดดก็เริ่มแรงขึ้น จนเริ่มเวียนศีรษะ หญิงสาวรับแก้วน้ำเย็นจากเจ้าหน้าที่ในกองถ่ายขึ้นจิบ “คุณกรนันท์ครับดอกไม้ถึงคุณครับ” เด็กหนุ่มยื่นช่อดอกไม้เมืองหนาวราคาแพงให้เธอ “จากใครหรือคะ” กรนันท์ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เจ้าหน้าที่ในกองถ่ายเริ่มมองมาทางหญิงสาวด้วยความใคร่รู้ แม้ว่าบางคนจะทำท่าจดจ่อกับการทำงาน แต่แน่นอนที่สุดทุกคนกลับเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ “จากเสี่ยวิบูลย์ครับ เสี่ยชื่นชอบผลงานของคุณมาก” “เสี่ยวิบูลย์เหรอคะ” กรนันท์ยิ้มแหย เป็นที่รู้กันดีว่าเสี่ยวิบูลย์เจ้าของธุรกิจพันล้าน มักเป็นเจ้าบุญทุ่มให้ดารานางแบบน้อยใหญ่ที่อยากจะใช้เต้าไต่เพื่อลัดเลาะไปเป็นดาวประดับวงการมายา ชื่อเสียงซึ่งได้มาจากการนำร่างกายเข้าแลก ซึ่งนั่นต้องไม่ใช่เธอ! “ฝากขอบคุณเสี่ยด้วย แต่ฉันคงรับไว้ไม่ได้หรอกค่ะ” กรนันท์บอกปัด ก่อนจะทำท่าลุกขึ้นเดินหนีจากสายตาใคร่รู้ของทีมงาน “จะดีเหรอครับที่ไม่รับน้ำใจของเสี่ยไว้” เด็กหนุ่มที่ดูแสนซื่อเมื่อสักครู่ เปลี่ยนท่าทีกะทันหันจนน่าแปลกใจ “รับไปเถอะน่าอย่าเล่นตัวหน่อยเลย หรือว่ามันน้อยไป ถ้าอย่างนั้นคราวหน้าเอาเครื่องเพชรสักสิบล้านเป็นไงครับคุณคนสวยแลกกับการนั่งฟังเพลงกับเสี่ยสักเพลงสองเพลง” “อย่ามายุ่งกับฉัน!” หญิงสาวพยายามข่มอารมณ์สุดชีวิต “เล่นตัวเสียจริง บอกมาเลยดีกว่าว่าเสี่ยคนอื่นให้เท่าไหร่ เสี่ยวิบูลย์ยินดีจ่ายเป็นสองเท่าจากที่เธอเคยได้” หน้าตายียวนกวนประสาทอีกทั้งยังคำพูดจาบจ้วงมิได้ให้เกียรติอิสตรีเพศแม่เลยแม้แต่น้อย ทำให้กรนันท์ฟิวส์ขาด หญิงสาวคว้าดอกไม้ในมือของเด็กหนุ่มมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะโยนทิ้งลงพื้นแล้วใช้ปลายเท้ากระทืบดอกไม้เสียจนแหลกคาพื้น “เก็บดอกไม้สั่วๆ กับเงินสกปรกไว้ต่อโลงให้เจ้านายแกเถอะ” กรนันท์ทิ้งท้ายด้วยคำพูดเจ็บแสบ ก่อนจะสะบัดหน้าเมินเดินจากไปทันที ทิ้งไว้เพียงอาการอึ้งของทีมงานในละแวกนั้น “แล้วจะได้รู้ว่าผลของการปฏิเสธเสี่ยวิบูลย์ ผลลัพธ์จะออกมาเป็นยังไง” เด็กหนุ่มยิ้มที่มุมปากก่อนจะเดินกลับไปอย่างหัวเสีย กรนันท์เปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมจะกลับห้องพักด้วยมืออันสั่นเทาจากความโกรธ ‘ให้ตายเถอะไอ้พวกมีเงินล้นฟ้ามันคิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้าหรือคิดว่าตัวเองใหญ่มาจากไหนกัน ถึงคิดจะใช้เงินซื้อใครที่ไหนก็ได้’ หน้าแดงก่ำลงมาจนถึงลำคอด้วยความกรุ่นโกรธ เธอจึงต้องเลื่อนวันในการถ่ายแบบชุดต่อไปเป็นวันพรุ่งนี้ หญิงสาวนั่งลงอย่างหงุดหงิด ผิวขาวอมชมพูที่ใครๆ ต่างพากันอิจฉามิใช่สิ่งที่เธอภาคภูมิใจเลยสักนิด เพราะมันดูแลยาก จะอาบแดด เล่นน้ำทะเล ก็ต้องระวังไปเสียทุกอย่าง ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดเหตุการณ์เหมือนวันนี้ ดูสินี่แค่โกรธนะยังมีผื่นแดงเห่อขึ้นตั้งแต่ใบหน้าลงมาถึงลำคอ อย่าให้พูดถึงแดดจัดๆ เลย ร่มกี่ชั้นก็คงเอาไม่อยู่เป็นแน่ ดาราสาวถอนหายใจก่อนจะเดินกลับเพื่อไปขึ้นรถ รถเบนซ์สีบรอนซ์เงินคุ้นตาแล่นมาจอดหน้าหญิงสาวทันที กรนันท์อยากจะลงไปนอนชักดิ้นชักงอให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย นี่มันวันอะไรของฉันเนี่ย

เริ่มอ่านเรื่องราวที่ยอดเยี่ยมได้ที่นี่

ดาวโหลดโดยการสแกนรหัส QR เพื่ออ่านเรื่องราวมากมายฟรี และหนังสือที่ได้รับการอัปเดตทุกวัน

อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม