ข้อตกลง (4)

1302 คำ
ผมมองตามหลังของยัยขี้บ่นที่นั่งบ่นมาตลอดทาง ผู้หญิงคนนี้น่ะหรอ ทายาทคนเดียวของตระกูลชรินทร์จิรพนธ์ ดูบ๊องชะมัด แต่ว่าผมจะต้องทำให้เธอหลงรักผมให้ได้จนหัวปลักหัวปลัม แล้วตระกูลชรินทร์จิรพนธ์ก็ต้องมาอยู่ในมือผม "นี่นายได้ฟังฉันอยู่มั้ยเนี้ย" แต่ผมก็ต้องหลุดออกจากภวังค์ความคิดเพราะว่า เสียงแจ๊ดๆของยัยนี้ ผมหันขมวดคิ้วมองหน้าเธอเชิงเป็นคำถามว่า มีอะไรก็ฟังอยู่ "....." "ถามว่า ได้ฟังอยู่มั้ย" ฉันกอดอกมองหน้าผมอย่างเอาเรื่อง จนผมต้องถอนหายใจออกมาอย่างแรง คนเรานี่มันเอาแต่ใจได้ตลอดเวลาจริงๆ แม้กับคนที่พึ่งรู้จักก็ยังจะอยากเอาแต่ใจตัวเอง "ฟังอยู่ครับ ฟังอยู่" "จิ๊ นายไม่ได้ฟังหรอก ฉันจะพูดใหม่อีกรอบ ฉันจะไม่แต่งงานกับใครที่ฉันไม่รู้จักและไม่คุ้นเคย อีกอย่างเป้าหมายในชีวิตของฉันคือ การไม่แต่งงาน ฉันไม่อยากแต่งงาน ไม่อยากมีลูก ฉันจะเกิดคนเดียวและตายคนเดียว" เธอพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง สงสัยคงจะจริงสินะ "แล้วยังไง ฉันว่าฉันพูดไปชัดเจนแล้วนะ" "ฉันโดนพ่อบังคับให้แต่งงาน เพราะฉันเป็นผู้หญิงดำเนินตระกูลต่อไม่ได้ ถ้าไม่ได้แต่งงาน เพราะแบบนั้นแหละ ฉันเลยไม่ชอบการแต่งงาน" เธอหันมาพูดกับผมด้วยน้ำเสียงจริงจังแต่ก็แอบเศร้า แต่เป็นสมัยก่อนก็อาจจะใช่ ตระกูลมาเฟีย ผู้หญิงสืบต่อไม่ได้ถ้าไม่ได้แต่งงาน แต่ว่า ไม่คิดว่าสมัยนี้ยังมีอยู่ ก็คงเป็นเพราะตระกูลชรินทร์จิรพนธ์เป็นตระกูลเก่าแก่ล่ะมั้ง ก็เลยดำเนินวิถีอะไรแบบเก่า "เธอเป็นเพื่อนฉันก่อนก็ได้นะ ก็พอจะเข้าใจความรู้สึกอยู่หรอก" "นายจะไปเข้าใจได้ยังไง ความรู้สึกของการเกิดเป็นลูกผู้หญิงในตระกูลคนจีน" "เธอก็ลองให้ฉันเข้าไปในชีวิตเธอก่อนสิ ฉันก็อยากเข้าใจเธอให้มากกว่านี้นะ" ผมแอบเห็นว่า เธอส่ายหัวไปมาเบาๆ เธอคงรู้สึกแย่กับมันมากสินะ ถึงผมจะไม่ได้ชอบเธอแต่ก็พอจะเข้าใจอยู่หรอก การเกิดมาเป็นผู้หญิงในตระกูลคนจีน ก็กดดันมากพอแแหละ แต่ก็ช่วยไม่ได้มันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรี เป็นเรื่องของการแย่งชิง เธอต้องเจอมันอยู่แล้วสักวัน "เธอก็รับฉันเป็นเพื่อนอีกสักคน แต่ฉันเรื่องมากนะ ฉันจะต้องได้เป็นเพื่อนที่พิเศษที่สุด สำคัญที่สุด ฉันยอมลดมาตรฐานขนาดนี้แล้วนะ" เธอเงียบไม่พูดออะไรก่อนจะเหลือบตามองมาทางผมด้วยสายตาที่ลังเลใจ "ทำไม หน้าฉันมันดูไม่น่าไว้ใจหรอ" "นายลืมไปหรือป่าวว่า เราพึ่งเจอกันแค่คืนเดียว นายจะให้ฉันไว้ใจนายขนาดไหน คาดหวังอะไรอยู่เนี่ย" เธอหันมาแยกเขี้ยวใส่ผมก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น เธอช่างเป็นผู้หญิงที่แสดงทุกอย่างผ่านออกทางสีหน้าจริงๆ เลย แต่สิ่งเดียวที่ผมเห็นใจเธอคือ การที่เธอเกิดมาเป็นผู้หญิงในตระกูลคนจีน แล้วยังเป็นมาเฟียคนจีนอีก มันไม่ง่ายเลยจริงๆ "แล้วนายจะพาฉันไปไหนไม่ทราบ" "ก็พาเพื่อนไปเที่ยวอะสิ จะมานั่งอยู่เฉยๆ แล้วเมื่อไรจะรู้จักกันดี" เธอหันมาถอนหายใจใส่ผมอย่างแรงก่อนจะเอาหัวพิงผนังแล้วหลับตาพริ้มอย่างเหนื่อยใจ ผมเริ่มชักสนุกกับการได้แกล้งเธอแล้วสิ ผู้หญิงคนนี้น่าจะมีอะไรที่น่าค้นหามากกว่าที่ผมเห็นตอนนี้แน่ๆ เธอคงไม่ใช่ผู้หญิงซื่อบื้อแน่นอน . . . "ชอบมั้ยล่ะ" ผมหันไปถามเธอที่กำลังยืนยิ้มด้วยสายตาที่เป็นประกายกับสิ่งตรงหน้า เธอทำเหมือนกับว่า เป็นเด็กน้อยที่พึ่งได้ออกจากบ้านอย่างนั้นแหละ "ก็ชอบนะ" "ชอบอะไร ชอบฉันอะหรอ" ผมเอียงคอไปอยู่ตรงหน้าเธอ ก่อนจะเหลือบไปมองนัยน์ตาของเธอ ทำให้เราสองคนประสานตากันโดยบังเอิญ แต่ไม่รู้เป็นเพราะว่า เราใกล้กันมากเกินไป หรือเป็นเพราะตรงที่เรายืนกันมันเงียบมาก เพราะผมได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นแรงของเธอโดยที่ไม่ได้ใจตั้งใจ ภายใต้ใบหน้านิ่งๆ เงียบๆ เฉยชาแบบนั้น ทำให้ข้างในของเธอถึงเต้นแรงราวกับว่า มีคนตีกลองอยู่ในนั้นกันนะ "ชอบอะไรล่ะ" จนสุดท้ายเธอเป็นฝ่ายเบี่ยงสายตาออกไปก่อน คงไม่ได้มีแค่หัวใจเธอที่เต้นแรง เพราะว่าหูเธอก็แดงมากเหมือนกัน เธอเบี่ยงหน้าออกก่อนจะพูดออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา "ชอบฉันไง" "รู้จักกันแค่...." "รู้จักกันแค่คืนเดียว ก็ชอบได้นะ" เธอส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะหันไปสนใจสิ่งตรงหน้าแทน ผมพึ่งเคยยืนดูวิวสวยๆ แบบเงียบๆ แบบนี้เป็นครั้งแรกเลย การยืนกับใครสักคนโดยที่ไม่ได้พูดอะไรกันเลยแล้วยืนดูวิวแบบเงียบๆ ก็รู้สึกดีเหมือนกันนะ "ถ้านายจะเป็นเพื่อนของฉันจริงๆ นายจะกลายเป็นเพื่อนคนแรกของฉันเลยนะ ฉันหน่ะไม่มีเพื่อนหรอก" "นี่เธอเป็นพวกไม่มีเพื่อนหรอเนี่ย หน้าตาเธอก็เป็นผู้หญิงเข้าสังคม มีสังคมเยอะแยะไปหมดซะอีก" "เพื่อนแบบนั้นหน่ะมี แต่เพื่อนจริงๆ ที่เข้าใจเราอ่ะ ไม่เคยมี" แต่ไม่รู้ว่า ทำไมพอพูดถึงเรื่องนี้เสียงเธอกลับดูเศร้าซะงั้น "ฉันเป็นเพื่อนเธอได้นะ แต่รู้ไว้เลยนะ ฉันไม่ยอมเป็นเพื่อนใครเฉยๆ หรอก โดยเฉพาะกับผู้หญิง เพราะฉันไม่เคยมีเพื่อนผู้หญิง งั้นเธอก็จะกลายเป็นเพื่อนผู้หญิงคนแรกของฉันเหมือนกัน เจ๊ากันโอเคมั้ย" "ในหัวนายคิดแต่เรื่องแบบนี้หรือไง" เธอกอดอกมองไปที่วิวตรงหน้าพร้อมกับพูดออกมาเหมือนด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย "นั้นเธอเล่าเรื่องครอบครัวให้ฉันฟังหน่อยสิ "นายจะอยากรู้เรื่องครอบครัวฉันไปทำไมไม่ทราบ" "ก็แล้วฉันจะอยากรู้เรื่องครอบครัวของแฟนในอนาคตบ้างไม่ได้หรือไง" "พอแล้ว เลิกพูดจาเลียนๆ สักที ครอบครัวฉันหรอ แม่ฉันตายตั้งแต่ฉันเด็กๆ แล้ว ฉันเติบโตมากับพ่อแค่สองคน ครอบครัวที่มีแต่เด็กผู้ชาย ฉันที่เป็นผู้หญิงคนเดียวตอนนั้นก็ไม่เข้าใจหรอก แต่ตั้งแต่แม่ตาย พ่อก็เป็นห่วงฉันมากๆ อยากให้ฉันแต่งงาน อยากให้มีคนดูแล อยากให้มีคนมาสืบทอดตระกูล...มาเฟียของพ่อหน่ะ" "โอ้โห้.....นี่เธอเป็นลูกสาวมาเฟียหรอเนี่ย ฉันเริ่มกลัวแล้วนะ" ผมทำท่าทางกลัวจนเธอหลุดยิ้มออกมา "ระวังไว้เถอะ" "ไม่เห็นเป็นอะไรเลย ถึงจะเสี่ยงแต่คุ้มอยู่นะ" "แล้วเรื่องของนายล่ะ เป็นยังไง" เธอหันมาถามผมด้วยสายตาใสๆ สายตาที่ไร้เดียงสาแบบนี้ ไม่สมกับเป็นลูกสาวมาเฟียเลยแฮะ คุณบุรีเขาไม่เคยสอนอะไรให้ลูกเขาเลยหรือไงกัน "เรื่องฉันไม่มีอะไรน่าสนใจหรอก" "ทีนายยังถามเรื่องฉันเลย ทำไมฉันจะอยากรู้เรื่องแฟนในอนาคตของฉันบ้างไม่ได้หรือไง" เธอพูดตอบออกมาด้วยท่าทีที่ทะเล้นใส่ผม จนผมก็อดยิ้มในท่าทางของเธอไม่ได้ "จิ๊! ยัยบ้า"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม