พรมลิขิต (1)
ครืนนนนนนนน ครืนนนนนนนนนน!
"ขอทางหน่อยครับ ขอทางหน่อยยย หลบหน่อยนะครับ"
ครืนนนนนนนน ครืนนนนนนนนนน!
"เดี๋ยวญาติรอข้างนอกก่อนนะคะ"
เสียงรถเข็นที่วิ่งด้วยความเร็วสูงท่ามกลางผู้คนมากมายที่จดจ้องมายังผู้หญิงนอนหมดสติบนเตียงผู้ป่วย ผมก็ไม่รู้ว่า ทำไมผมต้องมาอยู่ที่โรงพยาบาลแบบนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอนอนหมดสติอยู่ข้างถนน โดยที่ร่างกายเปื้อนเลือดชุ่มฉ่ำไปหมด ผมก็คงไม่ได้มาหรอก เพราะผมไม่ชอบโรงพยาบาลและไม่ชอบการมาหาหมอด้วย เพราะเมื่อหลายชั่วโมงก่อน ผมกำลังเดินทางกลับจากโกดัง ทั้งสองข้างทางมืดหมด แต่ไม่รู้อะไรดลใจให้ผม จอดข้างทางซะอย่างนั้น เพราะเหลือบตาไปเห็น ผู้หญิงคนนึงที่กำลังเดินด้วยท่าทีที่เหมือนจะหมดแรงแล้วมีเลือดเต็มตัวไปหมด ภายใต้ความยุ่งเหยิงของผม เสื้อผ้าที่เปื้อนสกปรกคือ หน้าตาของเธอสวยมาก จนทำให้ผมอดสงสัยไม่ได้ว่า ทำไมผู้หญิงๆ ถึงได้มาอยู่ในสภาพนี้ แต่ก็นั้นแหละ คือสาเหตุที่จำเป็นทำให้ผมต้องมาอยู่ในสถานที่ที่ตัวเองไม่ชอบแบบนี้
"ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าเป็นอะไรกับคนไข้คะ ใช่ญาติมั้ย พอดีเป็นของสำคัญของคนไข้"
"เอ่ออ... ไม่ใช่ครับ ผมแค่เห็นเธอได้รับบาดเจ็บหน่ะครับ"
"อ้อ ได้ค่ะ ยังไงก็ขอบคุณแทนคนไข้ด้วยนะคะ" หมับ! ผมคว้ามือพยาบาลหน้าหวานเอาไว้ก่อนที่จะเอ่ยถามถึงของสำคัญในมือเธอ
"ขอสอบถามหน่อยได้มั้ยครับ คนไข้เขาชื่ออะไรหรอ"
"อ่ะ เอ่ออ ทางไม่สามารถบอกข้อมูลส่วนตัวของคนไข้ได้ค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ" เธอพูดอึกอักก่อนหลบตาผม แต่ถ้าอะไรที่ผมอยากรู้ ผมก็ต้องได้รู้สิ
"ทำไมล่ะครับ แค่ชื่อเอง คุณ...พยาบาล ช่วยบอกผมหน่อย ไม่ได้หรอ" พูดด้วยท่าทีอ้อยอิ่งก่อนที่จะยื่นมือไปปัดปอยผมที่ใบหน้าของเธอเบาๆ หน้าที่เป็นสีขาวใสค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นสีแดง
"หื้ม? ได้มั้ยครับ"
"ก็ได้ค่ะ แต่อย่าไปบอกใครนะคะ"
"ได้สิครับ...คนสวย"
"คนป่วยชื่อ ริสาค่ะ เดี๋ยวพยาบาลขอตัวก่อนนะคะ หวังว่า...จะได้เจอกันอีก" ผมฉีกยิ้มหวานก่อนพยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะแบมืออกมาเห็นเบอร์โทรที่ยัดใส่มือผมไว้เมื่อกี้ ริสาหรอ หน้าก็สวย ชื่อก็ยังสวยอีก ทำไมถึงได้ไปอยู่สภาพนั้นนะ ผมตัดสินใจโทรหาไอ้นิวเพื่อให้มันสืบเรื่องราวของผู้หญิงคนนี้ให้หน่อย คงเป็นผู้หญิงธรรมดาไม่น่าสืบยากเย็นอะไรหรอก คงจะคิดว่า ผมชอบเธอหรอ รักแรกพบเลยใช่มั้ย ผมไม่เคยเชื่อเรื่องรักแรกพบเลยและผมก็ไม่เคยเชื่อในรักแท้ด้วย คนเราอ่ะมันมีแค่คำว่า อยากได้ไว้แค่ชั่วคราวเท่านั้นล่ะ
"นายจะกลับเลยมั้ยครับ หรืออยู่รอดูเธอก่อน"
"ไม่เอาอ่ะ กลับเลย" ผมพูดออกไปก่อนด้วยสายยังไปหันมองที่ห้องฉุกเฉิน เพราะผมคิดว่า ยังไงผมก็ต้องได้เจอเธออยู่แล้ว ถ้าไอ้นิวมันไม่มัวไปหม้อสาวจนไม่ทำงานมาให้ผมอะนะ
"นาย...ชอบเธอหรอ"
เพี้ย!
"ใช่เรื่องของมึงหรือไงฮะ! จิ๊! ไม่ได้ชอบเว้ย แต่มึงก็เห็นว่า หน้าตาเธอสวยขนาดไหน"
"ก็เพราะเห็นไง ผมถึงได้ถามอ่ะ" ผมหันไปถลึงตาใส่ไอ้เดลลูกน้องมือขวาของผม นับวันๆ ถึงทำอะไรไม่เห็นหัวผมเข้าทุกทีๆ แต่ด้วยความเราสองคนโตมาด้วยกัน พูดได้ว่า ผมรักมันเหมือนน้องชายคนนึงเลยก็ว่าได้และผมก็เบื่อที่มันรู้ทันผมแบบนี้ด้วย
"ก็น่าสนใจดี"
"หึๆๆ เอ้าไม่กลับหรอครับนาย กลับสิครับ กลับครับๆ"
.
.
.
@ 1 เดือนผ่านไป
"ฉันบอกแกกี่ทีล่ะว่า ให้ทำตัวให้มันดีๆ เวลาไปเจอพี่เขา แกก็ไม่เคยจะฟัง ดื้อด้านได้ใครมาเนี้ย" ฉันนั่งฟังพ่อพูดเรื่องซ้ำๆ เดิมๆ คงจะเป็นเรื่องที่ลูกชายเพื่อนพ่อมาฟ้องอีกตามเคย ฉันล่ะไม่เข้าใจจริงๆ คนเราจะรักใครชอบใครก็ต้องแล้วแต่ใจเจ้าของหัวใจป่ะ ทำไมต้องมาจับคุลมถุงชนด้วย น่าเบื่อ!
"......"
"นี่แกได้ฟังที่ฉันพูดมั้ยเนี้ย"
"รู้แล้วน่าป๊า รู้แล้ว เข้าใจแล้ว" ฉันตักข้าวเข้าปากก่อนจะพูดตอบออกไปด้วยท่าทีที่หงุดหงิด ฉันน่าจะนอนโรงพยาบาลต่ออีกซักหลายๆ เดือนเลย กลับมาบ้านน่าเบื่อจริงๆ
"แกพูดฉันแบบส่งๆ ทำไมฉันจะไม่รู้ฮะ ยัยริสา!"
"ป๊า หนูพึ่งออกจากโรงพยาบาลมาไม่นานนี้เองนะ ไม่เป็นห่วงกันเลยหรือไง สนใจแต่เรื่องคลุมถุงชนอยู่นั้นแหละ!"
"แกจะเถียงฉันสักวันจะตายมั้ย จิ๊! แล้วไอ้เรื่องที่ลูกสาวฉันโดนทำร้ายได้เรื่องว่าไงบ้าง จับพวกมันมาได้หรือยัง ทำไมมันใช้เวลานานจังวะฮะ!" พ่อหันไปตวาดใส่ลูกน้องที่ทำหน้าที่สืบว่า คนที่ทำร้ายฉันเมื่อเดือนก่อนคือใคร ฉันก็ไม่รู้หรอกว่า ใคร แต่จำได้ว่าถูกลักพาตัวไปที่ไหนสักที่แล้วก็โดนทำร้าย ถ้าให้ฉันคาดเดาไม่ผิดก็คงเป็นเป็นศัตรูของพ่อล่ะมั้ง
"มันกล้ามาหยามเกียรติตระกูลมามาเฟียใหญ่แบบนี้ได้ยังไงวะ"
"ช่างเหอะป๊า คงเป็นศัตรูทางการค้าของป๊าอะแหละ"
"คงเป็นพวกไอ้เด็กเมื่อวานซืน!" ฉันก็ไม่ค่อยรู้เรื่องทางมาเฟียของพ่อเท่าไรหรอก ถึงฉันจะเป็นลูกสาวคนเดียวของเขาก็เถอะ แต่เรื่องเหตุการณ์วันนั้นฉันจำได้แค่ว่า ตอนฉันล้มลงหมดสติไป เห็นหน้าผู้ชายคนนึงพรางๆ ไม่ชัดเจนพอฟื้นขึ้นมาก็มีพยาบาลบอกว่า เป็นผู้ชายใส่ชุดสูทสีดำหน้าตาหล่อเป็นคนมาส่งฉันที่โรงพยาบาล เป็นไปได้อยากเจอเขาอีกจังแฮะ! ผู้ชายคนนั้นน่ะ
.
.
"ไอ้ภูวิน มึงจะตามจี้กูไปถึงไหนเนี้ย กูรู้แล้ว!" ผมเงยหน้าขึ้นมองไอ้นิวที่เปิดประตูเข้ามาถึงก็โวยวายพร้อมกับวางซองกระดาษสีน้ำตาลให้ผมบนโต๊ะ เพราะผมไม่จี้ไงมันเพราะถึงได้พึ่งได้มาส่งงานให้ผมเอาป่านนี้
"พูดมาก ไหนดูดิ"
"ทำไม มึงชอบหรอวะ" ผมหันไปถลึงตาใส่ไอ้นิวที่หยิบแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม ไอ้นี่ก็อีกคนล่ะ จนมันเลิกคิ้วขึ้นเหมือนเป็นสัญญาณว่า อะไร?
"กูก็แค่ถามเฉยๆ ลองอ่านประวัติดูก่อนแล้วมึงจะรู้ว่า เธอไม่ธรรมดา กูไม่แปลกใจถ้ามึงจะชอบเธอนะ" มันพูดพร้อมกับแสยะยิ้ม ราวกับว่ามันมีอะไรที่พิเศษนักหนาแหละ ผมถอนหายใจอย่างแรงก่อนจะค่อยเปิดอ่านประวัติของเธอ
' นางสาวริสา ชรินทร์จิรพนธ์ อายุ 23 ปีลูกสาวคนเดียวของ คุณบุรี ชรินทร์จิรพนธ์ ซึ่งตระกูลชรินทร์จิรพนธ์เป็นมาเฟียเก่าแก่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คุณริสาเกิดและเติบโตที่ประเทศไทยและถูกไปเรียนที่อเมริกาตอนอายุ 15 ปี ซึ่งเป็นปีเดียวกันกับที่แม่ของเธอเสียชีวิต นั้นก็คือ คุณหญิงณริน ชรินทร์จิรพนธ์ ภรรยาคนเดียวของคุณบุรี ที่สำคัญกว่าสิ่งอื่นใดคือ.... เธอยังไม่ได้แต่งงานและยังไม่มีแฟน แต่ที่สำคัญกว่า คุณบุรีเป็นแก๊งมาเฟียที่เป็นศัตรูกับมึงอยู่ครับ เพื่อนรัก! '
"ข้อมูลแค่เนี้ย หาเป็นชาติ" ผมก็อึ้งกับข้อมูลอยู่ ประวัติเธอไม่ธรรมดาอย่างที่ไอ้นิวบอกจริงๆ แหละ ใครจะไปคิดว่าคนที่อยู่ในสภาพเลือดโชกตัวขนาดนั้นจะเป็นลูกสาวคนเดียวของคุณบุรี
"ไม่ได้หาง่ายๆ นะเว้ย แต่บอกมาก่อน ชอบอ่อ"
"ไม่ได้ชอบ แค่คิดว่า น่าสนใจดี"