2
เอซและโอเว่นมองหน้ากัน ได้แต่ถอนหายใจ ตั้งแต่นายเขากลับมาทำงาน ก็เย็นชามากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว ไม่สนใจคนรอบข้าง แถมไม่พูดไม่จา จนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้
"กูจะพาเด็กคนนั้นไปดูห้องก่อน" โอเว่นบอกเพื่อน แล้วเดินออกมาหาเด็กสาวที่ยังยืนอยู่หน้าบ้าน ถึงรถที่บ้านจะกลับไปนานแล้ว"
"จะพาไปดูห้อง" เขาบอกหญิงสาวเสียงเรียบ แล้วเดินนำขึ้นไปชั้นสองของบ้าน
"กระเป๋าคนเอาขึ้นมาให้แล้ว" เขาเปิดประตูห้องหนึ่ง ไม่เล็กไม่ใหญ่ขนาดกลางๆ
"แล้วห้อง...." เธอมองเข้าไปก็รู้ว่านี่ไม่ใช่ห้องของคนที่เธอพึ่งแต่งงานด้วย เพราะบ้านหลังใหญ่ขนาดนี้เขาคงไม่อยู่ห้องเล็กแบบนี้หรอก
"ห้องนายอยู่อีกฝั่ง" หญิงสาวยังถามไม่จบประโยค โอเว่นก็ชิงตอบ รู้ว่าเธอจะถามอะไร
"อ้อ^^" เธอยิ้มออกรู้สึกโล่งอก ที่ไม่ได้นอนห้องเดียวกับผู้ชายหน้านิ่งคนนั้น
"ว่าแต่พี่ชื่ออะไร หนูข้าวเม่านะ^^" เธอยิ้มหวานสุดชีวิตแนะนำตัวเอง เผื่อคนหน้านิ่งตรงหน้าจะยิ้มให้เธอบ้าง แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อเขายังทำหน้าเดิม
"โอเว่น"
คนบ้านนี้เป็นอะไรกันหมด มีหน้าเดียวกันรึไง เธอคิดในใจแต่ไม่ได้พูดออกมา ได้แต่ยิ้มยืนฟังข้อปฏิบัติของบ้านหลังนี้ ก็ไม่มีอะไรมากเหมือนทุกๆ บ้าน แต่ที่โอเว่นย้ำซ้ำๆ คือเวลา ส่วนหน้าที่ของเธอแค่ทำตามที่นายของโอเว่นสั่งเท่านั้น
ก๊อกๆ
ขณะที่หญิงสาวกำลังเดินสำรวจห้อง ก็ได้ยินเสียงคนมาเคาะประตู เมื่อเธอเดินไปเปิดก็เป็นแม่บ้านสาว
"นายหญิงคะ มื้อเย็นตั้งโต๊ะอีกสามสิบนาทีค่ะ"
"เรียกข้าวเม่าเถอะค่ะ แฮะๆ " เธอยิ้มแห้งๆ ไม่ชินกับสรรพนามใหม่
"ไม่ได้ค่ะ คุณแต่งงานกับนายแล้ว ขอตัวนะคะ" ว่าแล้วแม่บ้านก็เดินกลับไป
หญิงสาวถอนหายใจ มองตามหลังแม่บ้าน ขนาดแม่บ้านยังเย็นชาเลย เธอจะอยู่บ้านนี้ยังไงนะ ถึงบ้านเธอจะมีแม่เลี้ยงกับพี่ใจร้าย แต่แม่บ้านบางคนก็ดีกับเธอมากๆ ไม่เหมือนที่นี่ทุกคนเย็นชาไปหมด
เมื่อถึงเวลา ข้าวเม่าก็รีบลงมา แต่เธอก็เดินหลงทาง หาห้องอาหารไม่เจออยู่นานหลายนาที
"มึงไม่ย้ำเรื่องเวลา? " ลุคที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ ถามลูกน้องเสียงเรียบ พลางมองนาฬิกาที่กำลังเดินไปเรื่อยๆ จากวิเป็นนาที พอดีกับหญิงสาวเดินเข้ามา
"ขอโทษค่ะ พอดี..." เธอกล่าวขอโทษเป็นอย่างแรก แล้วรีบเดินเข้าไปนั่ง พร้อมอธิบาย แต่ลุคก็พูดตัดบท
"เอาไปเก็บ" เขาสั่งเสียงเรียบ ไม่แม้จะมองหน้าหญิงสาว แม่บ้านรีบปรี่เข้ามาเอาจานข้าวหญิงสาวไปเก็บตามคำสั่ง
"ช้าแค่นาทีเดียวเองนะ" เธอมองตามจานข้าวตัวเองตาละห้อย ก็รู้ว่าโอเว่นย้ำเรื่องเวลากับเธอ แต่ไม่คิดว่าเขาจะอาการหนักขนาดนี้ เธอมาไม่ทันแค่นาทีเดียว ไม่ได้มาไม่ทันเขากินข้าวซะหน่อย
"..." ลุคไม่ตอบ นั่งกินข้าวเงียบๆ โดยมีโอเว่นและเอซยืนเฝ้าตลอดเวลา
"แล้วข้าวเม่าจะกินอะไร" เธอถามเสียงเบา มองเสี้ยวหน้าคมที่ไม่แม้จะมองหน้าเธอ แต่คำตอบที่ได้ก็คือความเงียบ ร่างบางจึงลุกเดินออกจากห้องอาหารไป
เขาไม่อยากให้เธอร่วมโต๊ะด้วย แล้วจะนั่งอยู่ทำไม ไปขอข้าวแม่บ้านกินก็ได้
"พี่จ๊ะ มีข้าวเหลือสักจานให้ข้าวเม่ามั้ย" เธอเดินไปที่ครัวหลังบ้าน ที่สำหรับแม่บ้านทานอาหาร
"นายหญิง! " แม่บ้านที่กำลังทำความสะอาดครัวตกใจ เมื่อนายหญิงที่พึ่งเข้ามาอยู่ในบ้าน มาหาถึงครัวหลังบ้าน
"ข้าวเม่าค่ะ ไม่ใช่นายหญิง^^" เธอแนะนำตัวอย่างเป็นมิตร
"พวกเราเรียกแบบนั้นไม่ได้หรอกค่ะ" เด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกับข้าวเม่าบอก พร้อมกับท่าทางเจียมเนื้อเจียมตัว ต่างจากคนที่ไปตามบนห้อง
"ทำไมคะ? แต่ถ้าเรียกนายหญิงข้าวเม่าจะไม่หันนะ" เธอเล่นแง่ ยิ้มหวาน
"นายหญิงมากินข้าวไม่ใช่หรอ ตักข้าวให้นายหญิงสิอีจิก" ป้าที่น่าจะเป็นหัวหน้าแม่ครัวเพราะชุดต่างจากคนอื่น สะกิดบอกคนชื่อจิก คนเดียวกับที่ขึ้นไปตามหญิงสาวเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน
"มาวันแรกก็ให้คนอื่นลำบาก ข้าวเตรียมไว้ให้กินก็มาไม่ทัน ต่อไปจะขนาดไหน" อีจิกทำท่าไม่พอใจอย่างอย่างเห็นได้ชัด จนหัวหน้าแม่ครัวต้องปราม
"อีจิก! "
"นายหญิงอย่าสนใจมันเลยค่ะ ปากมันก็แบบนี้" เด็กสาวที่สุดในครัวบอก พร้อมกับหากับข้าวมาเสิร์ฟให้นายหญิง
"กับข้าวมีเหลือแค่นี้ ของสดก็หมด เหลือแต่ไข่นายหญิงกินได้มั้ย เดี๋ยวด้ายทำไข่ให้เพิ่ม"
"ไม่เป็นไร แค่นี้ก็พอแล้ว" เธอยิ้มให้ ดูเหมือนเด็กคนนี้กับป้าหัวหน้าแม่ครัวจะดูเป็นมิตรมากที่สุด
พอทานข้าวที่ครัวหลังบ้านจนอิ่ม เธอก็ชวนแม่บ้านด้ายออกมาเดินเล่นเป็นเพื่อน และให้แนะนำห้องต่างๆ ในบ้าน จะได้ไม่หลงอีกเป็นรอบที่สอง
"นายของด้ายทำงานอะไรหรอ ทำไมมีบอดี้การ์ดเต็มเลย" หญิงสาวมองออกไปนอกตัวบ้าน ยังเห็นชายใส่ชุดดำเดินไปมา ตั้งแต่เธอเข้ามาเหยียบที่นี่แล้ว
"นายหญิงไม่รู้หรอคะ? " ด้ายตกใจที่นายหญิงที่แต่งเข้าบ้านนั้นไม่รู้แม้กระทั่งอาชีพของสามี
"?? " หญิงสาวทำหน้างง เพราะเธอไม่รู้เรื่องของชายหนุ่มเลย ชื่อของสามีเธอก็พึ่งรู้ตอนนั่งรถมา
"นายเป็นมาเฟีย ทำธุรกิจหลายอย่าง" ด้ายมองซ้ายขวาแล้วกระซิบบอก
"ห๊ะ! มาเฟีย!!! "
"ชู้ววว"
ด้ายรีบยกมือปิดปากนายหญิงของตัวเอง พอดีโอเว่นเดินมา เขาตวัดสายตามองสาวใช้ เพียงเท่านั้นเธอก็รีบก้มหัวแล้วเดินออกไป
"นายให้มาตาม" ยังคงคอนเซ็ปต์เสียงเรียบนิ่ง แต่มันกลับทำให้คนที่พึ่งรู้ว่าพวกเขาเป็นมาเฟียนั้นกลัวหัวหด