นายหัวเถื่อน
บทที่ 4.
รุ่งเช้า
ราเมศน์รู้สึกตัวก่อนจะถอนหายใจนิ่งลึก เปลือกตาหนาขยับเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงนกร้องขับขานดังกังวาลไปทั่ว มันเป็นสัญญาณบอกว่าถึงเวลาที่เขาควรจะตื่นได้แล้ว
ราเมศน์ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาช้าๆ สิ่งแรกที่เขามองเห็นคือฝ้าเพดานสีขาว แค่เห็นก็รู้แล้วว่าตอนนี้เขาอยู่ในโรงแรม
ร่างสูงขยับตัวลุกขึ้นนั่งพร้อมกับสบัดศรีษะไปมา ก่อนที่ดวงตาคมจะสะดุดเข้ากับแผ่นหลังเปลือยเปล่าของหญิงสาวคนหนึ่งที่นอนอยู่ข้างกาย
คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันทันทีอย่างแปลกใจ เมื่อคืนเขาคงจะเมาหนักไปหน่อยสินะถึงจำอะไรไม่ได้เลยแบบนี้ ราเมศน์คิดในใจ
ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะได้ขยับตัวลุกขึ้น ร่างบางที่นอนอยู่ข้างๆก็ขยับตัวหันมาทางเขา ลมหายใจของราเมศน์สะดุดเเละติดขัดขึ้นมาทันที เมื่อมองเห็นความสวยงามของทรวงอกอวบที่โผล่พ้นชายผ้าห่มออกมาทั้งสองข้าง
แต่นั่นก็ไม่ทำให้ราเมศน์ตกใจมากไปกว่าใบหน้าของผู้หญิงคนนี้!
'เจ้าสาว!'
ราเมศน์อุทานในใจพร้อมกับหลับตาลงอีกครั้ง เขาคิดว่านี่คือความฝัน และเขาอาจจะยังไม่ตื่นดี ไม่มีทางที่เจ้าสาวในค่ำคืนที่เพิ่งผ่านมานั้นจะมานอนอยู่ข้างกายเขาได้เลย ไม่มีทาง
เเต่เมื่อราเมศน์ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ร่างเกือบเปลือยของหญิงสาวก็ยังคงอยู่ไม่ได้หายไปอย่างที่เขาคิด
'ยังไม่ตื่นอีกรึ?' ราเมศน์คิดในใจอย่างขำๆ
เอาสิ!
ในเมื่อฝันดีขนาดนี้ ถ้าอย่างนั้นเขาก็จะขอจมอยู่ในความฝันแสนวิเศษนี้อีกสักหน่อยเถอะ เพราะในความเป็นจริงชายหนุ่มาคงไม่มีโอกาสแบบนี้อย่างแน่นอน
ใบหน้าคมค่อยๆโน้มลงไปไปหาริมฝีปากบางที่เผยอขึ้นน้อยๆก่อนจะประกบลงอย่างแผ่วเบา ลำแขนแข็งแรงของชายหนุ่มตวัดรัดร่างบางเข้ามาแนบอกแกร่ง และรัดแน่นขึ้นจนร่างบางแทบจะจมหายไปภายใต้ร่างใหญ่โตของเขา
ริมฝีปากหนาเปลี่ยนเป็นกดหนักๆอย่างดูดดื่มและเร่าร้อนรุนแรงจนร่างบางในอ้อมกอดสั่นสะท้าน ก่อนจะค่อยๆลากผ่านมาตามลำคอหอมกรุ่นนวลเนียนและหยุดอยู่ที่ทรวงอกอวบทั้งสองข้าง
ริมฝีปากอุ่นร้อนเข้าครอบครองยอดอกสีหวานข้างหนึ่งทันทีอย่างหิวกระหาย ในขณะที่อกอวบอีกข้างถูกมือหนากอบกุมขยำอย่างเมามัน
สัมผัสที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆทำให้หทัยชนกที่ครึ่งหลับครึ่งตื่นเหมือนตัวเองกำลังล่องลอยอยู่ในความฝันลืมตาตื่นขึ้นมาทันที
"กรี๊ดด!"
หทัยชนกกรีดร้องออกมาสุดเสียง เมื่อพบว่าตอนนี้ร่างกายของเธอกำลังถูกนายหัวรามของพี่หินปลุกปล้ำอยู่ ร่างบางพยายามปัดป้องและดึงใบหน้าของคนหื่นออกจากหน้าอกของเธออย่างสุดความสามารถ ไหนว่าไว้ใจได้ไงแล้วนี่มันอะไรกัน
ราเมศน์ขืนตัวเองไว้เมื่อเเน่ใจแล้วว่าหญิงสาวตรงหน้านี้มีตัวตนไม่ใช่ความฝัน เรียวปากหนาและลิ้นร้อนๆหยอกเอินทรวงอกอวบสลับกันทั้งสองข้างไปมา ก่อนจะงับยอกอกข้างหนึ่งเบาๆอย่างลงโทษที่หญิงสาวต่อต้านเขาด้วยการดึงศรีษะ ทำเอาร่างบางถึงกับสะดุ้งโหยง
ราเมศน์ซบหน้าลงกับทรวงอกนุ่มเนิ่นนานอย่างระงับสติอารมณ์ หลังจากนั้นใบหน้าคมก็เงยขึ้นมาสบตากับหทัยชนกที่มองมาที่เขาอย่างหวาดกลัว แต่แฝงไปด้วยความเอาเรื่อง
เป็นนานที่ทั้งคู่สบตากันโดยไม่มีใครเอ่ยคำพูดใด หทัยชนกนอนนิ่งไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัวเพราะถูกร่างหนาทาบทับอยู่ ในขณะที่ราเมศน์มองใบหน้าหวานซึ้งที่ติดตาและวนเวียนอยู่ในหัวใจอย่างค้นหา
ปังๆๆๆๆ
เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นถี่รัวทำให้สองร่างเปลือยเปล่าผละออกจากกันทันที ราเมศน์ลงจากเตียงไปคว้าผ้าเช็ดตัวมาพันเอวแบบไว้หมิ่นๆ ส่วนหทัยชนกก็พันตัวเองไว้ด้วยผ้าห่มผืนใหญ่
ราเมศน์หันมามองหญิงสาวแวบหนึ่งก่อนจะเดินไปเปิดประตูเมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาอีกครั้ง
ทันทีที่ประตูเปิดออกราเมศน์ก็พบกับชายหญิงวัยกลางคนคู่หนึ่งยืนอยู่หน้าประตู ทั้งสองคนมองมาที่เขาอย่างเอาเรื่อง
"หทัยชนกอยู่ไหน?"
ชายวัยกลางคนเอ่ยถามเสียงห้วน ในขณะที่ราเมศน์เพียงแค่เลิกคิ้วให้เท่านั้น
"มันต้องอยู่ในห้องแน่ๆค่ะคุณ ถอยไปนะไอ้กุ๊ยข้างถนน"
ผู้หญิงที่มาด้วยพูดขึ้นบ้าง ก่อนจะผลักชายหนุ่มให้ออกห่างพ้นประตูแล้วพากันเข้าไปในห้องที่ตอนนี้หทัยชนกนั่งตัวสั่นอยู่บนเตียง
"อยู่นี่จริงๆอีหลานเนรคุณ!"
นามารศรีพูดเสียงดังอย่างเกรี้ยวกราด ก่อนจะฟาดฝ่ามือลงไปที่แก้มนวลจนหทัยชนกถึงกับหน้าหัน ส่วนนายสุรชัยก็หันมาชี้หน้าราเมศน์ที่เดินตามเข้ามาทีหลังอย่างเอาเรื่อง
"มึงไม่ตายดีแน่ไอ้สวะ กูจะให้คุณประวิทย์จัดการมึง!"
ราเมศน์ลอบยิ้มกับคำด่าของสองผัวเมียนี่ คนเป็นเมียด่าว่าเขาเป็นกุ๊ยข้างถนน ส่วนผัวก็ด่าว่าเขาเป็นสวะ นี่สภาพของเขามันเหมือนมากขนาดนั้นเลยรึไง
"อย่าเสียเวลากับมันเลยค่ะคุณ รีบพายัยหทัยไปส่งให้คุณประวิทย์เถอะ"
นางมารศรีพูดขัดแล้วหันไปกระชากร่างบางของหทัยชนกลุกขึ้นมา
"งามหน้าจริงๆ อุตส่าห์หาผัวรวยๆให้ ดันใฝ่ต่ำอยากมีผัวเป็นกุ๊ย ทีนี้ก็อย่าหวังเลยว่าคุณประวิทย์เขาจะยกย่องเชิดชูแกออกหน้าออกตา คงเป็นได้แค่นางบำเรอเขาเท่านั้นแหล่ะนังโง่!"
แล้วนางมารศรีก็ฉุดกระชากลากถูร่างบางไปยังประตูห้องทั้งที่ร่างกายมีเพียงผ้าห่มผืนเดียวติดกาย หทัยชนกน้ำตาไหลรินอาบสองข้างแก้ม เธอส่ายหน้าไปมาก่อนจะหันไปมองราเมศน์อย่างอ้อนวอน
เพียงแค่เห็นน้ำตาของเธอ หัวใจของราเมศน์ก็กระตุกวูบ กรามหนาขบเข้าหากันแน่นจากนั้นร่างสูงก็เดินไปตลบเตียงขึ้นก่อนจะคว้าวัตุสีดำแบบเก็บเสียงติดมือขึ้นมาและเล็งมันไปที่สองสามีภรรยาทันที
"ปล่อยเธอ..."
ราเมศน์สั่งเสียงเหี้ยม และขึ้นนกปืนเตรียมเหนี่ยวไกทันที หากจะมีใครสักคนคิดจะขัดใจเขา
นายสุรชัยและนางมารศรีหน้าซีดเผือดทันตาเห็น เมื่อหันกลับมาแล้วเจอกับมัจจุราชจ่ออยู่ในระยะกระชั้นชิดแบบนี้
"จะพูดครั้งสุดท้าย ปล่อยเธอ..."
ราเมศน์พูดเสียงต่ำ และคราวนี้เขาจงใจหันปืนไปที่นางมารศรีแค่คนเดียว
และไม่ว่าใครก็กลัวตายด้วยกันทั้งนั้น นางมารศรีรีบปล่อยมือที่จับหทัยชนกอยู่ทันที ก่อนจะผวาเข้าไปหลบหลังสามีอย่างหวาดกลัว
"มาหาฉัน..."
ราเมศน์สั่งหทัยชนกเสียงเรียบ ก่อนจะยื่นมือออกไปตรงหน้าหญิงสาว ดวงตาคมจ้องมองใบหน้าสวยหวานอย่างรอคอย
หทัยชนกมองมือใหญ่ของคนตรงหน้าอย่างลังเล แต่ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจวางมือของตนลงไปบนมือหนาอย่างไว้เนื้อเชื่อใจ
ราเมศน์กระชับมือบางไว้แน่นและกระตุกเบาๆร่างบางก็เซเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของราเมศน์ทันที
ลำแขนแกร่งยกขึ้นโอบเอวบางไว้ทั้งตัว ดวงตาคมกวาดมองใบหน้าสวยที่อยู่ห่างแค่ปลายจมูกแวบหนึ่งก่อนจะหันไปมองสองสามีภรรยาด้วยแววตาเรียบเฉยยากที่จะคาดเดาอารมณ์
"กลับไปบอกนายประวิทยว่า'เจ้าสาว'ของเขาเป็นของฉันแล้ว"
จบคำพูด ราเมศน์ก็ปล่อยกระสุนปืนผ่านรังเพลิงออกมาทันที ลูกกระสุนพลาดเป้าจากสองสามีภรรยาไปถูกชั้นวางหน้าประตูแทนเพราะราเมศน์ตั้งใจที่จะยิงขู่เท่านั้น
และมันก็ได้ผลเมื่อทั้งนายสุรชัยและนางมารศีต่างรักตัวกลัวตายพากันวิ่งหนีออกจากห้องไปแทบไม่ทัน