นายหัวเถื่อน
บทที่ 10.
ทันทีที่รถยนต์คันหรูขับเคลื่อนออกจากคฤหาสน์ของนายอิทธิไป ศิลาก็หักพวงมาลัยรถเลี้ยวเข้าไปอีกซอยที่ทะลุไปถงคฤหาสน์ของนายอิทธิทางด้านหบังได้ และจอดตรงริมถนนที่สองข้างทางที่มีแต่ป่าลับตาคนทันที
มือหนาถอดเสื้อสูทออกจากร่างแกร่งเผยให้เห็นเสื้อยืดสีดำที่แนบไปร่างกายกำยำสมส่วน สายตาคมมองฝ่าความมืดไปยังด้านหน้ารถก่อนจะพาตัวเองก้าวลงจากรถพร้อมอาวุธในมือ
ร่างสูงเดินลัดเลาะไปตามกำเเพงคฤหาสน์ ใบหน้าคมเข้มที่อยู่ในหมวกหมวกสีดำคลุมหมดทั้งศรีษะหันมองรอบๆตัวอย่างระแวดระวัง และเมื่อสบโอกาสร่างสูงก็กระโดดปีนกำแพงเข้าไปภายในคฤหาสน์อย่างรวดเร็ว
ศิลาค่อยๆย่องเข้าไปใกล้ตัวคฤหาสน์ด้วยฝีเท้าเงียบกริบและรวดเร็ว ในตอนนี้เด็กในบ้านและลูกน้องของนายอิทธิพากันไปรวมตัวอยู่ในงานเลี้ยง จึงเป็นโอกาสดีที่ศิลาจะแอบเข้าไปหาหลักฐานสำคัญเพื่อพิสูจน์ว่านายอิทธิคือตัวการใหญ่ที่ส่งคนบุกรุกเข้าไปในเกาะมืดจริงๆ และเป้าหมายของชายหนุ่มในคืนนี้ก็คือห้องทำงานของนายอิทธิ
ไม่นานศิลาก็มาถึงห้องทำงานที่อยู่ห่างจากบริเวณที่จัดงานเลี้ยงไปอีกฝั่งหนึ่งของตัวคฤหาสน์
สายตาคมกวาดมองภายในห้องทำงานช้าๆ ก่อนจะเดินเข้าไปยังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้อง มือหนาหยิบโทรศัพท์ราคาแพงขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกง ก่อนจะเปิดกล้องและถ่ายรูปเอกสารทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเกาะมืดไว้จนหมด รวมทั้งแผนที่ของเกาะมืดด้วย
ริมฝีปากหนากระตุกยิ้มทันที เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามที่เขากับราเมศน์คาดการณ์ไว้ ที่เหลือก็แค่รอให้เหยื่อติดกับเท่านั้น และดูเหมือนว่าตอนนี้จะมีเหยื่ออีกตัวโผล่มาเพิ่มซะด้วย ดีเหมือนกันจะได้เก็บกวาดซะทีเดียว
เมื่อได้ถ่ายภาพครบจนพอใจแล้ว ร่างสูงก็เดินออกไปทางระเบียงแล้วค่อยๆโรยตัวลงไปยังพื้นเบื้องล่างก่อนจะวิ่งเข้าไปในมุมมืด และถูกความมืดกลืนหายไปในที่สุด
...................
ขณะเดียวกันอีกฝั่งหนึ่งของเกาะมืด
ความมืดมิดถูกปกคลุมไปทั่วเบริเวณเหมืองที่ทุกคนในเกาะมืดเรียกว่าผาแก้ว ในขณะที่ทุกชีวิตบนเกาะต่างหลับใหลด้วยความเหนื่อยล้าเพราะงานที่ทำมาทั้งวัน
แต่ในความมืดมิดนั้น ชายฉกรรจ์สามคนกำลังเดินลัดเลาะไปตามไหล่เขาอย่างรีบร้อนเพื่อไปให้ถึงจุดหมายก่อนสว่าง คนที่อยู่ข้างหลังคอยหันมองข้างหลังอย่างระแวง
"เร็วสิวะพวกมึง"
ผู้ชายร่างสูงที่เดินนำหน้าหันกลับไปบอกลูกน้องอีกสองคนที่เดินตามมา
"ฉันกับไอ้ยอดก็เดินเร็วที่สุดแล้วนะพี่ก้อน"
ไอ้ก้อน หรือลูกพี่ของไอ้ขวดกับไอ้ยอดยกมือขึ้นปาดเหงื่อหยุดยืนหายใจอย่างเหนื่อยหอบ ทำให้ไอ้ขวดที่ตามมาข้างหลังเดินแซงหน้าไปนั่งลงบนก้อนหินข้างทาง
"ช้าๆก็ได้พี่ ดึกขนาดนี้ไม่ใครรู้หรอกว่าเราขึ้นมาบนผานี่"
"กูไม่อยากเสียเวลา...ข่าวนี่จะทำให้เรามีเงินใช้ไปอีกนาน"
ไอ้ก้อนบอก แววตาของมันวาวโรจน์ขึ้นมาทันทีเมื่อนึกถึงเงินที่จะลอยเข้ามาในกระเป๋า แค่มันคอยส่งข่าวการเคลื่อนไหวภายในเกาะให้นายอิทธิรับรู้เท่านั้น
แต่พวกมันทั้งสามคนไม่ได้เฉลียวใจสักนิดเลยว่าตอนนี้มีดวงตาถึงสองคู่กำลังจ้องมองพวกมันอยู่
"พวกมึงแน่ใจเหรอ...ว่าจะได้ใช้เงิน"
เสียงเข้มของคนที่ยืนรอพวกมันมาหลายชั่วโมงดังขึ้น ก่อนที่ร่างล่ำสันกำยำของลุงใหญ่หัวหน้าคนงานอีกคนหนึ่งของเกาะมืดจะปรากฏตัวขึ้น
ทั้งสามคนตกตะลึงหน้าซีดเป็นไก่ต้ม เมื่อเห็นลุงใหญ่ยืนจังก้าดักหน้าพวกมันอยู่พร้อมอาวุธปืนในมือ พวกมันพากันลุกขึ้นก่อนจะค่อยๆถอยหลังกลับ แต่ถอยไปได้ไม่กี่ก้าวร่างสูงของราเมศน์ก็เดินออกมาจากที่ซ่อนและดักพวกมันไว้ทางด้านหลังอีกทา
"เฮ้ย!พวกมึงจะปอดแหกอะไรวะ เรามีตั้งสามพวกมันมีแค่สอง"
ไอ้ก้อนบอกลูกน้องทั้งที่ตัวเองก็กลัวจนลนลาน
"ตะ...แต่...นี่นายหัวรามนะพี่ก้อน!"
ไอ้ยอดพูดตะกุกตะกักอย่างหวาดกลัว ในขณะที่ราเมศน์มองเลยไปที่ลุงใหญ่และค่อยๆขยับเข้าใกล้พวกมันสามคนพร้อมกัน
"ดึกๆดื่นๆพวกมึงจะพากันไปไหน?"
ราเมศน์ถามเสียงเย็นขณะเดินเข้าไปหา พวกมันต่างพากันหวาดกลัวความผิดและความตายกันจนตัวสั่น หากแต่ยังไม่ยอมจนมุม
"พวกเราแค่มาดูความเรียบร้อยเท่านั้นนายหัว ปล่อยพวกเราไปเถอะ อย่าเอาเรื่องพวกเราเลย"
ไอ้ก้อนพูดเสียงดังอย่างร้อนรน ทำให้ราเมศน์ยิ้มเหยียดออกมาอย่างสมเพช
"กูคงปล่อยพวกมึงไม่ได้ ที่นี่ไม่ใช่หน้าที่ของพวกมึงที่ต้องมาดูแล ยอมรับมาซะว่าพวกมึงขึ้นมาทำอะไรที่นี่!"
ดวงตาคมของราเมศน์จ้องมองพวกมันเขม็ง แต่ความมืดทำให้ทั้งสามคนไม่มีโอกาสเห็น แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังรับรู้ได้ถึงความโหดเหี้ยมในน้ำเสียงนั้น
"ถ้าไม่ปล่อยพวกกูไป มึงก็อย่าอยู่เลย!"
พูดจบไอ้ก้อนก็ควักปืนออกมาจากเอวและเล็งไปที่ร่างของราเมศน์ที่ยืนอยู่ในความมืดทันที
แต่...
ก็ยังช้ากว่าปืนเก็บเสียงในมือของราเมศน์ที่ลั่นกระสุนเจาะเข้าทะลุมือของไอ้ก้อนอย่างแม่นยำ
"อ๊ากก!.."
ไอ้ก้อนส่งเสียงร้องครางเจ็บปวดดังลั่น ปืนในมือร่วงลงกับพื้นป่า
"อย่าทำอะไรพวกเราเลยนายหัว ไว้ชีวิตพวกเราเถอะ พวกเราผิดไปแล้ว"
ไอ้ขวดและไอ้ยอดพอเห็นลูกพี่มันถูกยิงก็เกิดความกลัวจนตัวสั่น ทรุดนั่งกับพื้น ยกมือขึ้นไหว้เพื่อร้องขอชีวิต ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงที่ยืนจังก้าอยู่ตรงหน้า
"คนที่คิดจะขายความลับของเกาะมืดให้คนนอกรู้ กูไม่เก็บไว้ให้เป็นเสนียดเกาะ"
ราเมศน์พูดเสียงต่ำอย่างน่ากลัว ก่อนที่แววตาคมจะหันไปสบตากับกับลุงใหญ่ในความมืด แล้วปืนเก็บเสียงทรงประสิทธิภาพในมือของลุงใหญ่ก็ดังขึ้นสามนัดติดๆกันพร้อมกับลมหายใจของคนทรยศทั้งสามคนหลุดลอยออกจากร่าง
"ให้คนมาเก็บกวาดให้เรียบร้อยด้วยนะลุงใหญ่"
ราเมศน์สั่งเสียงเรียบ ก่อนจะเดินลัดเลาะไปตามทางแคบๆเพื่อไปยังผาแก้วที่อยู่อีกไม่ไกล สิ้นคำสั่งของนายหัวลุงใหญ่ก็ผิวปากเสียงดังแต่ก้องไปทั่วทั้งป่า ไม่นานชายฉกรรจ์ร่างสูงใหญ่สามคนก็ปรากฏตัวขึ้น
"เก็บกวาดอย่าให้เหลือซาก"
ลุงใหญ่สั่งเสียงเหี้ยมก่อนจะเดินตามราเมศน์ไป
ไม่นานราเมศน์และลุงใหญ่ก็มาถึงผาแก้ว ทั้งสองซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ สายตาคมของราเมศน์มองไปยังกลุ่มคนในชุดลายพรางสามถึงสี่คนด้วยแววตาเย็นเยียบ
"ทหารพวกนี้มันเป็นใครครับนายหัว?"
ลุงใหญ่เอ่ยถามคนเป็นนาย
"ทหารรับจ้างหิวเงินหากินอยู่ตามชายแดน"
ราเมศน์พึมพำตอบ แต่สายตาไม่ได้คลาดไปจากกลุ่มคนตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย จากนั้นทั้งสองคนก็แยกย้ายกันไปสำรวจบริเวณรอบๆที่คนพวกนั้นตั้งแคมป์อยู่ ก่อนจะพากันกลับเข้าหมู่บ้านก่อนที่ฟ้าจะสาง