แววตาหวาดระแวงจากเด็กสาวร่างเล็กที่นั่งห่างออกไปไม่ไกลนัก ทำให้ฟรานเชสโก เจ้าของดวงตาคมภายใต้แว่นกันแดดสีดำสนิท มีแววขบขันเล็กน้อย เมื่อนึกถึงถ้อยคำที่สามสาวโต้เถียงกันก่อนขึ้นเรือ
‘แกจะให้ฉันไปกับฝรั่งพวกนี้คนเดียวเนี่ยนะ ไม่เอาด้วยหรอก ดูแต่ละคนสิ! หน้าตายังกับมหาโจร! ไม่ได้รู้จักกันด้วยนะแก” เสียงกระซิบกระซาบออกแนวหวาดกลัวของอิง ทำให้เพื่อนทั้งสองต้องหัวเราะกับความคิดช่างจินตนาการนั่น
‘โจรอะไรจะหล่อขนาดนั้นล่ะยัยอิง แล้วดูหุ่นสิ แต่ละคนน่ากินทั้งนั้น” สาวเปรี้ยวประจำกลุ่มหันไปมองบรรดาหนุ่ม ๆ หุ่นน่ากินนัยน์ตาพราวระยับด้วยความถูกใจแล้วให้เสียดายนักที่ไม่มีโอกาสขึ้นเรือไปพร้อมกัน
‘ดูพวกนั้นก็ไม่น่าจะใช่โจรผู้ร้ายอะไรนะอิง สามคนที่นั่งอยู่นั่นน่ะ คงเป็นเจ้านายนะ บุคลิกลักษณะน่าเชื่อถืออยู่ แล้วคุณป้าใจดีก็รับประกันความปลอดภัยด้วยตัวเองอีกต่างหาก” แพงรีบเอ่ยปลอบใจเพื่อนขี้ระแวง เมื่อเห็นความกลัวฉายชัดอยู่ในดวงตากลมของอิงหลังจากรู้ว่าต้องเดินทางไปพร้อมกับฝรั่งต่างชาติที่นั่งรออยู่ด้วยกันเพียงลำพัง
เนื่องจากก่อนสามสาวจะขึ้นเรือข้ามไปเกาะพร้อมกับกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เหมาเรือไว้ คุณป้าใจดี ซึ่งมารู้ทีหลังว่าเป็นเจ้าของกิจการเรือข้ามฟากแห่งนี้ วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาขอความช่วยเหลือกับพวกเธอ ว่ามีหญิงท้องแก่ซึ่งเป็นคนงานก่อสร้างกำลังปวดท้องจะคลอดลูก แต่ไปโรงพยาบาลไม่ทันเนื่องจากอยู่ไกล
ด้วยความที่เป็นหมอ ผิงและแพง จำเป็นต้องอยู่ทำคลอดให้กับหญิงคนงานก่อน และด้วยบ้านพักที่จองไว้บนเกาะตั้งแต่แรกนั้น พวกเธอยังไม่ได้จ่ายเงินค่าที่พักล่วงหน้าตั้งแต่ก่อนมา เพราะบอกกับทางนั้นไว้ว่าจะเข้าพักก่อนเที่ยง แต่ถ้าต้องรอให้เสร็จธุระเรื่องทำคลอด คงต้องใช้เวลานานพอดู เกรงว่าที่พักจะถูกขายออกไปซะก่อน พวกเธอเลยตัดสินใจให้อิง เดินทางล่วงหน้าไปพร้อมกับฝรั่งมหาโจร ที่สาวอิงแอบตั้งฉายาให้ เพราะเกาะที่พวกเธอจะไปนั้นเป็นทางผ่านพอดี พวกคุณยักษ์เลยใจดีแวะส่งให้ก่อน
“มานั่งทำอะไรตรงนี้? แดดร้อนแล้วไม่เห็นเหรอ” เสียงทุ้มดังอยู่เหนือศีรษะ พร้อมกับที่ร่างสูงทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ ทำให้ร่างบางผวาเฮือก กระโดดลุกขึ้นยืนโดยอัตโนมัติ มายืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ทำไมเธอไม่รู้ตัวเลยล่ะ
คิดอย่างหวาดระแวงพลันหันซ้ายแลขวาหาทางหนีทีไล่ หากอิตายักษ์นี่จะทำมิดีมิร้ายกับเธอ ปากก็บ่นอุบอิบในใจไปด้วยกับไอ้อาการชอบจินตนาการไปเรื่อยของตัวเอง ไอ้นิสัยรักการอ่านนี่มันมีผลเสียก็ตรงนี้สินะ
ตอนนี้ขอมโนว่าตัวเองเป็นนางเอกละกันนะ เพราะนางเอกมักจะโชคดีมีพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยได้ทันเวลาตลอด
“เอ่อ...คือ...ห...หนูมาดูวิวค่ะ สวยดี” เสียงเบาตะกุกตะกัก ก้มหน้าไม่กล้ามองสบตาซึ่งคิดว่ากำลังจ้องมาที่ตน ถึงแม้เจ้าของดวงตาคมจะใส่แว่นอยู่ก็ตาม เนื่องจากความรู้สึกวูบวาบแปลก ๆ ที่วิ่งพล่านไปทั่วร่างบาง มันทำให้เธอรู้สึกได้ว่าคนตัวโตตรงหน้า คงต้องกำลังจ้องเธออยู่แน่ ๆ
แม้ภายในเรือลำใหญ่นี้จะติดแอร์เย็นฉ่ำ มีที่นั่งสามารถจุคนได้เป็นร้อย แต่มันก็ดูอึดอัดเหลือเกินเมื่อต้องนั่งอยู่กับคนหน้าดุ ๆ แถมตัวใหญ่ราวกับยักษ์อีกกลุ่มใหญ่ จากการมองดูคร่าว ๆ คงไม่ต่ำกว่าสิบคนเป็นแน่ เธอขอออกมานั่งข้างนอกดีกว่า ถึงแม้แดดจะร้อน หากแต่อึดอัดน้อยกว่าด้านในมากนัก แต่ก็ยังไม่วายมีคนตามออกมาอีกจนได้
“ชื่ออะไร?...เราน่ะ” เสียงสะบัดนิด ๆ ด้วยความหงุดหงิดเมื่อคนตรงตัวเล็กไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาคุยด้วย ทั้ง ๆ ที่เขาก็ไม่ได้มีท่าทีคุกคามใด ๆ สักนิด ตรงกันข้าม หากใครมาเห็นการกระทำแบบนี้ของเขา ทุกคนอาจต้องตกใจด้วยซ้ำ
“นั่งสิ ยืนค้ำหัวผู้ใหญ่ คนไทยเขาไม่ทำกันไม่ใช่เหรอ” ก็รู้อยู่หรอกว่าใครก็ตามที่คุยกับเขา มักไม่เคยมีใครกล้าสบตาด้วยเลยสักคน เนื่องจากบุคลิกดูน่าเกรงขาม แววตาคมดุราวกับเหยี่ยวยามเมื่อจ้องมอง แถมน้ำเสียงเข้มของเจ้าตัว ที่มักใช้กับบรรดาคนสนิทและพนักงานในบริษัทซึ่งมีจำนวนหลายพันคน ทำให้ยิ่งน่าหวาดหวั่นหรือบางคนก็เกรงกลัวกันจนแทบไม่กล้าสู้หน้า
แต่กับเด็กสาวตรงหน้าทำไมเขาถึงอยากเห็นดวงตากลมใส รอยยิ้มกระจ่างอวดฟันขาวสะอาด ที่เคยแอบเห็นเมื่อตอนเจ้าตัวพูดคุยสนุกสนานกับเพื่อน ๆ ในขณะนั่งรอขึ้นเรืออยู่บนฝั่ง
อิงฟ้าเผลอส่งค้อนเล็ก ๆ ใส่ด้วยความหมั่นไส้ฝรั่งรู้มาก “แหม ยืนค้ำหัวผู้ใหญ่” ริมฝีบากบิดเบ้ยุบยิบเอ่ยประชดในใจ เรียกร้อยยิ้มบางบนริมฝีปากหนาจนต้องรีบเบือนหน้าหลบไปอีกทาง เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายได้เห็น
“เอ่อ...อะ..อิงฟ้า...ค่ะ” ก้มหน้าก้มตาตอบคำถาม ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่ากลายเป็นคนติดอ่างไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงดูน่ากลัวอย่างนี้นะ แม้คนร่างสูงตรงหน้า จะไม่มีท่าทีคุกคามอะไร แต่ทำไมหัวใจของเธอมันเต้นระรัวจนเจ็บหน้าอกไปหมด หรืออาจเป็นอาการกลัวที่ต้องขึ้นเรือครั้งแรกในชีวิต เลยทำให้เกิดความกังวล หัวใจก็เลยเต้นผิดจังหวะไปบ้าง
“อืม...อิง...ฟ้า” สำเนียงภาษาไทยไม่ชัดเจนนักของคนตัวใหญ่ตรงหน้า เรียกให้คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมองด้วยรอยยิ้มนิด ๆ กับความพยายามที่ดูเหมือนจะได้ผล เมื่อชายหนุ่มลองพูดอยู่สองสามครั้ง
ชื่อภาษาไทยของเด็กสาวตัวเล็กที่ออกจากริมฝีปากหนาก็ชัดเจนฟังรู้เรื่อง แม้จะไม่ชัดเหมือนเจ้าของภาษาแต่สำหรับคนหัดพูดครั้งแรก ถือว่าเก่งใช้ได้เลยทีเดียว
“ค่ะ อิงฟ้า” ทวนให้คนตรงหน้าฟังอีกครั้ง เมื่อเห็นร่างสูงพยายามพูดชื่อของเธอให้ถูกต้อง
“ฟราน” เสียงเรียบ ๆ จากร่างสูงทำให้เด็กสาวเกิดความสงสัย เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าคม
“คะ”
“ฟรานเชสโก ชื่อฉัน” มุมปากหยักยิ้มเล็กน้อยกับท่าเอียงศีรษะ คิ้วขมวดของคนตัวเล็ก
“อ๋อ...ค่ะ คุณฟราน” เสียงใสตอบรับด้วยรอยยิ้มเมื่อเข้าใจว่าเขากำลังแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ ใครจะไปรู้ล่ะ อยู่ดี ๆ ก็พูดขึ้นมาลอย ๆ นึกว่าเรียกหาใครซะอีก