ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เข้ามา”
“คุณฟรานคะ อิงขอใช้โทรศัพท์ได้ไหมคะ พอดีของอิงไม่รู้เป็นอะไรค่ะ มันใช้ไม่ได้” อิงฟ้าเดินเข้ามาหยุดอยู่หน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่กลางห้อง ซึ่งคุณแม่บ้านบอกว่าฟรานเชสโกนั่งทำงานอยู่ในนี้
“โทร.หาเพื่อนเหรอ?” ฟรานเชสโกเงยหน้าขึ้นจากเอกสารตรงหน้า ก็เห็นรอยยิ้มกระจ่างส่งมาเป็นอันดับแรก
“ค่ะ ของอิงมันไม่มีสัญญาณ” พูดไปพลางยกเครื่องมือสื่อสารรุ่นที่ควรส่งเข้าพิพิธภัณฑ์ไปตั้งนานแล้วให้ฟรานเชสโกดูว่าใช้ไม่ได้จริง ๆ
“บนเกาะไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ไม่มีใครบอกเธอเหรอ?” เรื่องนี้เขาก็ลืมไป เพราะคิดว่าคุณแม่บ้านน่าจะแจ้งให้แขกทราบเบื้องต้นแล้วตั้งแต่เมื่อวาน
“อ้าว! แล้วอิงจะติดต่อเพื่อนได้อย่างไรล่ะคะ” สีหน้าผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด น้ำเสียงร้อนรนเมื่อทราบว่าไม่สามารถติดต่อกับเพื่อนทั้งสองได้
“อิงหายมาแบบนี้ พวกนั้นคงเป็นห่วงมากแน่ ๆ เลยค่ะ แล้วอีกอย่าง เราวางแผนเที่ยวพักผ่อนกันแค่สามวันเท่านั้น นี่ก็สองวันเข้าไปแล้ว” ถือวิสาสะทรุดตัวลงนั่งเก้าอี้ใกล้ ๆ โวยวายตัดพ้อเสียงหงุงหงิง หน้ามุ่ยราวกับเด็กโดนขัดใจ
“เบนโทร.ไปจัดการให้แล้ว พอดีได้คุยกับเพื่อนของเธอที่ชื่อแพง เขาฝากบอกเธอด้วยว่า จะกลับพรุ่งนี้เช้าเพราะโรงพยาบาลที่จะไปประจำช่วงฝึกงานโทร.มาเลื่อน เห็นว่าทางนั้นขาดคน” เมื่อเห็นคนตัวเล็กบ่นจนพอใจ ฟรานเชสโกเอ่ยบอกด้วยสีหน้าเรียบเฉย พร้อมกับเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ด้วยท่าทีสบายอารมณ์
“อีกแล้วเหรอคะ คลาดกันอีกแล้ว อย่างนี้อิงก็อดเที่ยว อดเล่นน้ำทะเล อดๆๆ เฮ่อออ” บ่นกระปอดกระแปดจนฟรานเชสโกอดหัวเราะไม่ได้
“ที่นี่ก็เป็นเกาะ น้ำทะเลก็มี อยากเที่ยวไหนก็บอกสิ” เสียงทุ้มฟังดูเก้อเขินเต็มทีในตอนท้ายประโยค เมื่อคิดว่าตัวเองกำลังเอ่ยชวนเด็กเที่ยว ริมฝีปากหยักเผลอเม้มเข้าหากันเมื่อรอฟังคำตอบจากเด็กสาวตรงหน้าด้วยหัวใจเต้นระทึก
เขาเคยชวนใครเที่ยวซะที่ไหนล่ะ สาว ๆ ที่เข้ามาแต่ละคน จะถูกเบนสันจัดการนัดหมายไว้ก่อนล่วงหน้า เพราะแต่ละคนต้องผ่านการตรวจโรคและหยุดมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่น เมื่อมีการแจ้งยืนยันเวลานัดหมายแล้วอย่างน้อยหนึ่งเดือน
โดยเขาเองไม่เคยต้องไปสั่งหรือยุ่งเกี่ยวเรื่องลำดับคิวของแต่ละคนให้วุ่นวาย
“นั่นสิ! อิงลืมไปเลย ที่นี่ก็เป็นเกาะ” เสียงลิงโลดดีใจ ดวงตาเป็นประกายอย่างมีความหวัง ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ร่างสูงใหญ่บนเก้าอี้อย่างลืมตัว เท้าแขนลงบนโต๊ะพยักหน้าให้ชายหนุ่มด้วยสายตาเจ้าเล่ห์แปลก ๆ
“คุณฟรานว่าง?” เสียงสูงเชิงถามดวงตาเป็นประกายแพรวพราว และเมื่อได้รับการพยักหน้าตอบกลับก็ยิ้มรับถูกใจ
“คุณฟรานว่ายน้ำเป็น?” ถามอีกครั้งพร้อมใบหน้าคมก็พยักตอบอีกเช่นเคย
“สอนอิงว่ายน้ำหน่อยค่ะ!” ว่าเสร็จเดินเร็ว ๆ อ้อมมาคุกเข่าข้าง ๆ ร่างสูงที่เผลอยืดตัวนั่งหลังตรงเตรียมรับมือกับสถานการณ์ไม่น่าไว้ใจ มือบางจับหมับเข้าที่ลำแขนแกร่ง
เงยหน้าขึ้นเว้าวอนเสียงอ่อน กะพริบตาปริบ ๆ ราวกับตัวการ์ตูนที่มันชอบส่งสายตาวิ้ง ๆ ยามอ้อนเจ้าของ ขาดก็แต่ยังไม่ซุกหน้าเข้ามาคลอเคลียให้ใจของเขามันอ่อนเหลว ละลายไหลลงไปอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเธอเท่านั้น
ภายในห้องนอนกว้างที่อิงฟ้าได้รับสิทธิให้ครอบครองชั่วคราวตั้งแต่วันแรกที่ขึ้นจากเรือ บรรยากาศตอนนี้มันช่างน่าวุ่นวายเสียนี่กระไร
คุณแม่บ้านใหญ่ตอนนี้เดินเข้าเดินออกเป็นรอบที่เท่าไหร่ นางเองก็จำไม่ได้แล้วเหมือนกัน ใบหน้าอ่อนโยนอยู่เป็นนิจ จ้องมองไปทางประตูห้องน้ำอย่างรอคอยด้วยความหวัง
อมยิ้มเล็ก ๆ ถูกส่งให้สาวใช้อ่อนวัยที่ยืนอยู่ข้างตัวอย่างให้กำลังใจ เมื่อเห็นสีหน้ากระสับกระส่ายช่วยลุ้นด้วยอีกแรง
“คุณอิงคะ เป็นยังไงบ้าง” เมื่อยังไม่เห็นวี่แววของเด็กสาวเจ้าของรอยยิ้มสดใส เดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากที่เดินหายเข้าไปเป็นเวลานาน คุณแม่บ้านมาเรียจำต้องเดินเข้าไปเคาะประตู ส่งเสียงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
“อิงไม่ใส่ชุดพวกนี้ได้ไหมคะคุณแม่บ้าน มันโป๊มากเลยค่ะ” เสียงโอดครวญดังแว่วมาก่อนเจ้าตัวจะยื่นเพียงใบหน้าออกมาขอความเห็น จะให้เธอใส่เข้าไปได้ยังไง แต่ละชุดที่ลอง มันแทบปิดอะไร ๆ ของเธอไม่ได้เลย
ชุดว่ายน้ำสมัยนี้คงออกแบบเพื่อสนองนโยบายลดโลกร้อนมากไปหน่อย เพราะแค่เศษผ้าสามเหลี่ยมขนาดจิ๋วที่ใส่ปิดส่วนล่าง มันเล็กกว่ามือของเธออีก ส่วนด้านบนไม่ต้องพูดถึง
เฮ่อ...ส่ายหน้าบ่นในใจพลางก้มลงมองความอวบอิ่มเกินตัวที่เป็นปมในใจตั้งแต่เริ่มเข้าสู่วัยสาว
“ทำไมคะ ชุดมีปัญหาอะไรหรือเปล่า? ไหนลองเดินออกมาให้ป้าดูข้างนอกสิคะ” มาเรียมีสีหน้าตกใจเมื่อเห็นใบหน้าถอดสีของเด็กสาวคราวลูก รีบเดินเข้ามาใกล้เพื่อสำรวจหาสิ่งผิดปกติ
“เกิดอะไรขึ้น! มีปัญหาอะไร! แล้วนี่ทำไมยังไม่พาคุณอิงลงไปสระว่ายน้ำ” เสียงหงุดหงิดของร่างสูง ที่เดินเข้ามาได้ยินเสียงโอดครวญของอิงฟ้า ส่งผลให้สามสาวต่างวัยสะดุ้งสุดตัวหันไปมองคุณครูจำเป็นพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“เอ่อ...ชุดมันไม่มีปัญหาค่ะ แต่ปัญหามันอยู่ที่อิงมากกว่า” ใบหน้างอง้ำ
อุบอิบเสียงเบาตอบกลับ ไม่กล้ามองสบดวงตาแสดงคำถามของอีกฝ่าย
“ทำไม?” เสียงหงุดหงิดเพิ่มขึ้นอย่างไม่รู้ตัว เมื่อคิดว่าคนของเขา คงเอาชุดว่ายน้ำที่ตกเทรนด์แล้ว มาให้อิงฟ้าเลือกแน่ ๆ ทั้งที่ย้ำแล้วย้ำอีกว่าให้เลือกคอลเลคชั่นใหม่มาเลย แต่คนพวกนี้ก็ยังทำงานพลาด
ตวัดสายตาดุไปยังคุณแม่บ้านใหญ่ที่ยืนตัวสั่น รอรับคำตำหนิจากเจ้านายใหญ่ ส่วนสาวใช้อีกคนนั้นรีบเดินหลบออกไปก่อนหน้าแล้ว เมื่อเห็นฟรานเชสโกเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเรียบเย็นเมื่อครู่
“เอ่อ...” คุณแม่บ้านใหญ่เตรียมจะเอ่ยปากอธิบายขยายความ แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นเด็กสาวเดินออกมาจากห้องน้ำ
“ไม่ว่ายน้ำแล้วเหรอ?” ฟรานเชสโกจ้องเขม็งไปยังร่างบางด้วยความรู้สึกไม่เข้าใจเมื่อเห็นเด็กสาว ค่อย ๆ เดินลากเท้าเข้ามายืนตรงหน้าเขา
“ว่ายค่ะ แต่อิงใส่ชุดว่ายน้ำพวกนั้นไม่ได้” ก้มหน้าอุบอิบ สองมือบางกำชายเสื้อยืดตัวโคร่งบิดไปมา
“มันไม่สวย?” เสียงทุ้มเลิกคิ้วเป็นเชิงถามอย่างรวดเร็ว ด้วยความรู้สึกผิดที่ไม่สามารถหาชุดถูกใจมาให้เธอได้
“หรือเล็กไป? ใหญ่ไปยังไงก็บอกได้ เดี๋ยวสั่งให้คนของฉันไปเอา...” ชะงักกึกเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักจากคนตัวเล็กตรงหน้า
“ไม่ใช่ค่ะ! ไม่ใช่ มันสวยค่ะ สวยทุกชุดเลยด้วย แต่อิงไม่กล้าใส่ มันเอ่อ...คือมัน...”