เด็กพี่มันส์ยั่ว
EPISODE2
“ออกไป!” โซลที่หันไปตวาดเสียงใส่สองสาวซึ่งนั่งออเซาะแนบชิดอยู่กับคนบนโซฟา ทำเอาพวกเธอรีบร้อนลุกขึ้นจัดเสื้อผ้าและเดินออกไปจากโซนของพวกเขาทันที
คนในพื้นที่นี้ล้วนรู้ดีว่า ‘โซล’ วัย 29 ปี คือหนึ่งในสี่ทายาทของตระกูล ‘รุ่งอนันต์ทรัพย์’ แถมยังเป็นนักแข่งรถมืออาชีพที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง ทว่าชายหนุ่มเป็นคนค่อนข้างอารมณ์ร้อน และมักจะแสดงออกอย่างรุนแรงเสมอ ยิ่งช่วงเวลาที่โซลต้องการพักสายตาแล้วดันถูกอะไรก็ตามมารบกวน เขาจะยิ่งหัวเสียเป็นทบเท่าทวีคูณ ส่วน ‘ซายน์’ ที่เป็นพี่ชายวัย 35 ปี เป็นคนที่มีภาวะทางอารมณ์เย็นกว่าน้องชายมาก เรียกว่าเย็นจนดูเหมือนเฉยชากับทุกสิ่งบนโลกใบนี้เลยก็ว่าได้
แน่นอนว่าเบบี๋ที่วัน ๆ ใช้ชีวิตเพียงแค่ที่บ้านกับมหาวิทยาลัย ย่อมไม่เคยมาสถานที่อโคจรจนรู้จักโฉมหน้าค่าตาของพวกเขาทั้งสี่เป็นแน่
“หนูไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับผู้ชายคนนั้น” เนิ่นนานเบบี๋ถึงได้เค้นเสียงออกมา
“ได้ยินว่ามันเป็นพ่อเธอ” โซลสวนขึ้นทันที
“แค่พ่อเลี้ยง” เธอตอบ เบาจนเขาแทบจะไม่ได้ยินเสียง นั่นทำให้แรงบีบที่ท้ายทอยทวีความรุนแรงมากขึ้น
“ว่าไงซิ?” คิ้วเข้มเลิกขึ้นสูง ใบหน้าคมคายภายใต้เส้นผมสีเงินสะท้อนแสงไฟแม้จะดูโดดเด่นสะดุดตา ทว่ากลับแฝงเร้นไปซึ่งความน่าหวาดเกรง ซึ่งเบบี๋ไม่ชอบคนประเภทนี้เลย
“หนูบอกว่าแค่พ่อเลี้ยง” เบบี๋กลั้นใจตะเบ็งเสียงหวานที่มีให้ดังขึ้น ทำให้โซลปรายตาไปมองสบกับคนเป็นพี่ชายที่นั่งมองเธออยู่เงียบ ๆ
“ก็พ่อนี่หว่า พ่อทำผิด เอาลูกมาฆ่าเวลา เธอว่ามันน้ำเน่าดีไหม” โซลเอ่ยเสียงเยาะหยัน แล้วเปลี่ยนมาบีบปลายคางเรียวให้เชิดขึ้นสูง จนคนเป็นพี่ชายเห็นว่าดวงหน้าของแม่สาวน้อยคนนี้มันสวยจัดเหมาะกับการฆ่าเวลาจริง ๆ นั่นแหละ
“พวกคุณลองทบทวนก่อนสิคะ ถ้าพูดตามหลักความจริง หนูไม่จำเป็นต้องชดใช้อะไร” เบบี๋ว่าราวไม่ต้องการข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้
“เธอแม่งเห็นแก่ตัวนี่หว่า”
“คนเห็นแก่ตัวคือคนที่ทำเรื่องชั่วแล้วหาคนอื่นมารับแทนต่างหาก” จากคำพูดของโซล ทำให้เธอหันกลับมาสบตาเขาเป็นครั้งแรก น้ำเสียงนิ่งเรียบและสีหน้าที่บ่งบอกว่าเรื่องตรงหน้าเธอมันบัดซบแค่ไหน ทำให้โซลกระตุกยิ้มร้ายออกมาอย่างชอบใจ
“สาวน้อย...เธอถามหาความยุติธรรมจากพวกฉันอยู่รึไง เธอว่าที่นี่มันที่ไหน แล้วพวกฉันเป็นใคร” เขาย้อนถามด้วยรอยยิ้มทว่าแววตานั้นช่างร้ายกาจเหลือเกิน
“ถ้าพวกคุณมีมัน ก็หวังว่าจะเมตตาหนู” เธอเอ่ย แล้วก็ได้แต่แค่นหัวเราะออกมาเบา ๆ ทั้งน้ำตาราวกับคนบ้า
ชีวิตนี้มันบัดซบสิ้นดี!
หมับ!
เพียงแค่เห็นว่าเจ้าของร่างเล็กบนพื้นราวกับจะแตกสลายลงตรงหน้า ซานย์ที่นั่งเงียบอยู่นานก็รั้งคอเสื้อนิสิตของเธอให้ลุกขึ้น จนร่างเบบี๋ลอยหวือมาอยู่บนตักเขา
“ผู้หญิงจะสวยที่สุดตอนไหนเธอรู้ไหมสาวน้อย” เขาเอ่ยถาม แล้วปาดนิ้วโป้งแข็ง ๆ ลงกับข้างแก้มของเธอที่เปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตาใส ทำให้เบบี๋ได้แต่มองหน้าเขานิ่ง แต่เธอจะไปรู้เรื่องนั้นได้ยังไง
“...”
“ฉันตอบให้เธอก็ได้ ว่าผู้หญิงจะดูสวยที่สุดตอนร้องไห้...บนเตียง” น้ำเสียงเรียบเอ่ย โดยเว้นระยะท่อนสุดท้ายไว้อึดใจ ซึ่งคำพูดนั้นทำให้เบบี๋เบือนหน้าหนีซายน์ทันที แต่ก็ต้องหันมาเจอกับใครอีกคนที่มองมายังเธอด้วยแววตามาดร้ายเช่นกัน
“เรียบร้อยแล้วครับนาย แค่เจ็บไม่ตาย กลับไปหาเงินไหวครับ” แทนคุณที่วางสายจากคนของเขารีบรายงานความคืบหน้า ทำให้เบบี๋ที่นั่งอยู่บนตักของซายน์ร่างสะท้านไหว เมื่อได้ฟังข่าวของคนเป็นพ่อเลี้ยง