น้ำเสียงของคลีฟหนักแน่นในตอนท้ายและมีเพียงนิตาเท่านั้นที่จับสำเนียงนั้นได้ หญิงสาวเก็บกลั้นลมหายใจที่อยากจะระบายออกมา สิ่งที่เธอคิดฝันราวสูญสลายกลายเป็นอากาศธาตุ เธอคิดว่าสิ่งแรกที่จะทำหากได้เจอ เขาคนนั้น คือการเข้าไปสวมกอดและมอบริมฝีปากหวานฉ่ำแก่เขาอย่างที่เธอเคยปฏิบัติมันมาเสมอ จุมพิตแสนหวานที่ยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจของหญิงสาว ทว่าบัดนี้เธอสัมผัสได้เพียงความว่างเปล่าและความเจ็บปวดของตัวเธอเอง
ความมืดโรยตัวลงมาโอบล้อมมหานครนิวยอร์คอีกครั้ง นิตาในชุดฟอร์มพนักงานของห้างเวสเนอร์กลับมายังห้องชุดที่ลอว์สันบอกว่ามันเป็นห้องที่คลีฟซื้อเอาไว้ได้ประมาณปีหนึ่งแล้วตั้งแต่เขาขึ้นรั้งตำแหน่งประธานใหญ่ของกลุ่มบริษัทเวสเนอร์ กรุ๊ป
เพื่อนใหม่ที่ดีที่สุดของเธอในเวลานี้กลับไปแล้วหลังจากที่เขามาส่งเธอถึงหน้าห้อง ทว่าคำพูดของลอว์สันที่กล่าวถึงประธานเวสเนอร์ กรุ๊ป เพื่อนของเขายังล่องลอยในความคิดของหญิงสาว
“ผมพึ่งสนิทกับคลีฟเมื่อตอนที่เขากลับมาจากสนามรบในอิรัก ใช่...คุณคงไม่เชื่อล่ะซีนิต้า ว่าประธานกลุ่มเวสเนอร์ กรุ๊ป บริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดของสหรัฐจะเคยเป็นทหารและผ่านสมรภูมิสุดโหดในประเทศตะวันออกกลางมาก่อน...จริง ๆ แล้วคลีฟเป็นลูกบุญธรรมเพียงคนเดียวของตระกูลเวสเนอร์ ก่อนหน้าที่โธมัส เวสเนอร์พ่อบุญธรรมของเขาจะเสียชีวิตได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินทั้งหมดให้คลีฟและให้เขาเข้ามารับตำแหน่งประธานบริหารสูงสุดของเวสเนอร์ กรุ๊ปหลังจากที่เขากลับมาจากอิรักได้ประมาณหนึ่งปี คลีฟลาออกจากหน่วยรบพิเศษของกองทัพบกและเข้ารับตำแหน่งใหญ่ในกลุ่มบริษัทเวสเนอร์ กลายเป็นนักธุรกิจเต็มตัวซึ่งเขาก็ทำมันได้ดีเสียด้วย...แค่เพียงไตรมาสแรกที่เขาเข้ารับตำแหน่งก็ทำให้เวสเนอร์ กรุ๊ปมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นจากการทำกำไรทั้งในสหรัฐและทั่วโลก...เกินร้อยเปอร์เซ็นต์”
ลอว์สันบอกเธอเช่นนั้น มันเป็นคำอธิบายเกี่ยวกับภูมิหลังของคลีฟซึ่งเธอไม่เคยรู้มาก่อนและเป็นเรื่องที่น่าตกใจสำหรับหญิงสาวที่เดินทางมาไกล ข้ามน้ำข้ามทะเลมาถึงอเมริกาเพื่อจะรับรู้ความเปลี่ยนแปลงอย่างคาดไม่ถึง
“แต่เขาเป็นคนที่ค่อนข้างเก็บตัว คลีฟไม่ค่อยเปิดเผยเรื่องของตัวเองให้ใครฟัง เขาเหมือนบุรุษลึกลับที่สร้างสีสันให้พวกที่คอยเฝ้าติดตามเพราะอยากรู้ความเคลื่อนไหวของมหาเศรษฐีหนุ่มอายุยังไม่ถึงสามสิบที่ทั้งหล่อและฉลาดคนนี้ พวกเขาอยากรู้ว่าคลีฟ เวสเนอร์มีชีวิตยังไง เขาจะแต่งงานเมื่อไหร่ มีใครที่เขาเก็บซ่อนไว้หลังฉากบ้างหรือเปล่า...ผมหมายถึงผู้หญิงน่ะนิต้า”
ซึ่งเขาเคยมี...และประวัติส่วนนี้เขาก็คงไม่เคยเปิดเผยให้ใครได้รับรู้นอกจากตัวเธอที่พยายามดั้นด้นมาถึงอเมริกาก็เพราะเขา
คลีฟ เวสเนอร์
หญิงสาวถอนหายใจพร้อมกับความคิดใหม่ที่ว่าเธอคงไม่อาจพักอยู่ในภายในห้องชุดอันหรูหรานี้ได้อีกต่อไป ตอนนี้เธอเหมือนเริ่มต้นใหม่ ตั้งต้นใหม่ทุกอย่างแม้แต่กับคนที่เคยรู้จักก็ตาม นิตาค่อย ๆ เก็บเสื้อผ้าของเธอลงกระเป๋าเดินทางเพียงใบเดียวที่ติดตัวมาด้วย เธอตั้งใจแน่วแน่ที่จะบอกลอว์สันว่าพรุ่งนี้จะต้องหาที่อยู่ใหม่เพราะถึงแม้เพื่อนของเขาจะมีน้ำใจแต่เธอคงไม่อาจพักอาศัยให้ห้องชุดที่มันหรูหราเกินฐานะของเธอได้อีกต่อไปแล้ว
นิตาทิ้งร่างบอบบางของเธอลงบนเก้าอี้นวมตัวใหญ่ภายในห้องชุดสุดหรูหลังจากเก็บข้าวของลงกระเป๋าเดินทาง หญิงสาวไม่อยากเชื่อว่าโชคชะตาจะพัดพาให้เธอได้เจอกับคนที่พยายามตามหาในที่สุด แล้วโชคชะตาก็พลิกผันเพื่อที่จะได้หัวเราะเยาะผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้ซึ่งไร้เกียรติและไร้ค่าเมื่ออยู่ต่อหน้าบุรุษสูงส่งผู้นั้น
ซึ่งลอว์สันไม่เคยล่วงรู้ว่าเสี้ยวหนึ่งในชีวิตของคลีฟเคยผ่านอะไรมาบ้างนอกเหนือจากที่เขารู้ หญิงสาวหยิบล็อคเก็ตที่ห้อยคอขึ้นมาและเปิดมันออกดู ภาพของใครคนหนึ่งภายในนั้นยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าคมสัน เรือนผมสีน้ำตาลบรูเน็ต นัยน์ตาสีน้ำเงินเป็นประกายดุจแซฟไฟร์ และริมฝีปากได้รูปที่เสมือนมีรอยยิ้มน้อย ๆ ส่งผ่านความอบอุ่นมายังเธอ
น้ำตาหยดหนึ่งไหลร่นลงมาบนแก้มของหญิงสาว เศษเสี้ยวเวลาในชีวิตของ เขา คงถูกกลืนจมหายไปพร้อมกระแสเวลาที่พาพัด เวลาที่เธอเคยมีเขา นิตายังนึกถึงชายผู้นั้นไม่เสื่อมคลาย เขาเป็นชายชาวอเมริกันที่เธอได้พบและรู้จักที่เมืองไทย เป็นเวลาก่อนหน้านี้ประมาณเกือบสามปี
แกรก...
เสียงลูกบิดที่บานประตูด้านนอกทำให้นิตาต้องเรียกสติที่กำลังลอยล่องกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว หญิงสาวปาดน้ำตาที่กำลังจะไหลลงมาอีกหลายหยดก่อนจะปิดล็อคเก็ตเอาไว้และลุกจากเก้าอี้นวมตัวใหญ่ ร่างแน่งน้อยต้องหยุดนิ่งเมื่อบานประตูห้องค่อย ๆ เปิดออกและเกือบจะลืมหายใจเมื่อเห็นว่าใครยืนอยู่ที่หน้าประตูห้อง
“คลีฟ!”
ดวงตาคู่งามเบิกกว้าง สิ่งที่เธอเห็นนั้นไม่ใช่ความฝัน ร่างสูงสง่าของบุรุษผู้นั้นยืนนิ่งอยู่ที่หน้าห้องชุด คลีฟ เวสเนอร์...เขายังอยู่ในชุดสูท ทว่าใบหน้าคร้ามคมกลับยังดูนิ่งไม่เปลี่ยนแปลง ชายหนุ่มก้าวเข้ามาขณะที่หญิงสาวเป็นฝ่ายยืนนิ่ง มือเท้าของเธอเริ่มเย็นและบอกตัวเองไม่ได้ว่าจะยิ้มหรือทำสีหน้าอย่างไรต่อหน้าประธานใหญ่แห่งเวสเนอร์ กรุ๊ป