ตอนที่ 18
“เรารู้จักกันมานานแล้วค่ะ ก็ไม่มีทีท่าว่าวุฒิเค้าจะจีบเอมมี่เลยนะคะ” เอมิกาอธิบายด้วยแววตาใสซื่อ ตุลธรพยักหน้าหงึก ๆ ดูเหมือนจะพอใจกับคำตอบของเธอ แล้วก็พลางยกแก้วกาแฟขึ้นดื่ม
“แล้วหนุ่มที่พี่เจอเมื่อวานที่ร้านล่ะ เค้ามาจีบเอมหรือเปล่า”
“เปล่าค่ะ วินเป็นแค่เพื่อนในคณะเดียวกัน เอมมี่ก็บอกพี่แล้วนี่คะเมื่อวานนี้”
“เหรอ!! เอ่อ!..สงสัยพี่จะลืม" เขาแกล้งพูดขึ้นมา ทั้งที่ไม่ได้ลืมแต่จงใจจะถามอีกครั้งเท่านั้น
“พี่ดูกังวลเวลาที่เอมมี่อยู่ใกล้ผู้ชาย เอมมี่พูดถูกมั้ยคะ” เธอบอกกับเขาตามความรู้สึก
“ก็ประมาณนั้นมั้ง”
“หึงเหรอคะ”
“ถ้าพี่จะบอกว่าหึงล่ะ แล้วก็หึงมากด้วย แล้วพี่ก็ขอสั่งห้ามเอมมี่เข้าใกล้ผู้ชายทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนก็ตาม”
“ดูเหมือนพี่จะชอบใช้อำนาจมากเลยนะคะ” เธอโต้กลับด้วยเสียงเรียบ ๆ เขาเลิกคิ้ว แล้วถ้าเธอไม่ได้ดูผิดไป เขาก็มีสีหน้าเครียดนิดหน่อยด้วยเหมือนกัน
“พี่เคยชินกับการออกคำสั่งมั่ง”
“ถามหน่อยสิ ถ้าคืนนั้นเอมมี่ไม่ยอมออกไปกับพี่ พี่จะเอาปืนยิงเอมมี่จริง ๆ เหรอคะ”
“ไม่หรอก พี่แค่ขู่เล่น ๆ เอมมี่โกรธพี่เรื่องคืนนั้นเหรอ”
“โกรธ แต่ว่าหายโกรธไปนานแล้ว”
“ถามจริง คิดยังไงถึงไปประมูลพรหมจรรย์เหรอ”
“ก็เอมมี่ต้องการเอาเงินไปช่วยแม่ผ่าตัดนี่คะ จะรอโรงพยาบาลรัฐก็ไม่ถึงคิวสักที แม่เอมมี่ได้ตายก่อนน่ะสิ”
อันที่จริงเธอก็ประหลาดใจกับความบ้าบิ่นของตัวเองเหมือนกัน แต่ทำไมบทสนทนาคราวนี้ ถึงได้เคร่งเครียดขนาดนี้กันนะ มันไม่ได้ดำเนินไปในแนวทางที่เธอคิดว่ามันควรจะเป็นเลย
“เอมมี่เป็นลูกคนเดียวใช่มั้ย” เขาถาม
“มีน้องอีกคนค่ะ แต่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุไปตั้งแต่สามปีก่อน”
“เล่าเรื่องครอบครัวให้พี่ฟังหน่อยสิ” เขาจะอยากรู้ไปทำไมเนี่ย น่าเบื่อจะตายเธอนึกในใจ
“แม่ของเอมมี่แต่งงานกับพ่อ มีลูกสองคนแล้วคุณพ่อก็เสียไป คุณพ่อเอมมี่รับราชการ พ่อเสียไปตอนเอมมี่อายุได้เจ็ดขวด เราก็เลยอยู่กันสามคนแม่ลูกมาโดยตลอด จนน้องชายเอมมี่เสีย คุณแม่ก็เลยตัดสินใจอยู่กินกับท่านสุพจน์เจ้านายของแม่ ซึ่งก็คือพ่อพี่แทนไทนั่นแหละค่ะ”
“เสียใจเรื่องน้องชายกับคุณพ่อด้วยนะ” เขาพึมพำแล้วก็มีสีหน้าไม่สบายใจอยู่ชั่วขณะหนึ่ง
“ค่ะ”
“แล้วแม่ของเอมมี่ก็ตัดสินใจอยู่กินกับท่านสุจนท์มากี่ปีแล้ว” เขาถามเพราะไม่เคยเห็นแม่แท้ ๆ ของเพื่อนเลย ตั้งแต่รู้จักกับแทนไท ตุลธรก็ไม่เคยเห็นเขามีแม่มาก่อน
“ตั้งแต่คุณแม่ไปทำงานที่บริษัทคุณสุพจน์ได้ไม่นานค่ะ เอมมี่ก็จำไม่ค่อยได้เพราะตอนนั้นยังเด็ก แล้วท่านสุจน์ไม่ได้เปิดเผยว่าแม่ของเอมมี่เป็นภรรยา เพราะว่าแม่ของคุณสุพจน์หวงลูกชายมาก คุณแม่เล่าว่าตั้งแต่ภรรยาคุณสุจน์เสียไปเขาก็ไม่เคยได้แต่งงานใหม่อีกเลย พอคุณสุจน์เสีย พี่แทนไทก็ติดการพนัน บ้านโดนยึด เอมมี่กับแม่ก็เลยไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอีก เราก็อยู่ส่วนเรา เขาก็อยู่ส่วนเขา”
“ตอนแรกพี่ยังตกใจเลยว่า เอมมี่ไปเป็นน้องสาวไอ้แทนมันได้ยังไง”
“พี่แทนเคยไปเยี่ยมแม่เอมมี่ที่โรงพยาบาลครั้งหนึ่ง ตอนนี้พี่แทนอยากช่วยค่ารักษาแต่เขาไม่มีเงิน ก็เลยแนะนำให้เอมมี่เปิดประมูลพรหมจรรย์ค่ะ ในตอนนั้นหมอยังไม่ได้บอกว่าคุณแม่ต้องผ่าตัดเอมมี่ก็เลยไม่ได้สนใจในสิ่งที่พี่แทนเค้าเสนอ ต่อมาอยู่ได้อีกไม่กี่เดือน หมอก็บอกว่าคุณแม่ต้องผ่าตัดด่วน แล้วมันก็มีขั้นตอนที่จะต้องรอคิวผ่านานเกือบเดือน ทำให้เอมมี่ตัดสินใจใหม่ แล้วก็ติดต่อพี่แทนไปไปว่าต้องการขายพรหมจรรย์ค่ะ”
“แล้วไม่กลัวเหรอที่ตัดสินใจทำอะไรไปแบบนั้น”
“ก็กลัวอยู่ค่ะ แต่มันไม่มีทางเลือกอื่นเลย”
“ขอบคุณนะคะ ที่พี่ตุลช่วยประมูล ถ้าเป็นคนอื่นคงไม่ใจดีอย่างพี่”
“ไม่เป็นไรหรอก เอาเป็นเดี๋ยวเราออกไปหาแม่ของเอมมี่กันดีกว่าเนาะ สายแล้ว”
“ค่ะ”